มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย มร.ยูกิฮิโระ คิโตะ ผู้ช่วยหัวหน้าทีมวิศวกร เลกซัส ES เลกซัส อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวแนะนำ เลกซัส ES ใหม่ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กรุงเทพฯ
VIDEO
เลกซัส ES (Executive Sedan) คือ ยนตรกรรมซีดานหรูขนาดกลาง ซึ่งเลกซัส ES รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นพร้อมเปิดตัวแบรนด์เลกซัสคู่กับเลกซัส LS เมื่อปีพ.ศ. 2532 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นับจากนั้นมา เลกซัส ES ก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จากความโดดเด่นด้านความนุ่มนวลในการขับขี่และความเงียบภายในห้องโดยสาร ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์หรูโดยทั่วไป ความนิยมดังกล่าวทำให้เลกซัส ES เป็นรถซีดานที่มียอดขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของเลกซัส
เลกซัส ES ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 7 คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยความสมบูรณ์แบบที่เหนือกว่าเดิมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบภายนอก ด้วยเส้นสายที่ดูสปอร์ตเร้าใจ เสริมความเฉียบคมให้เข้ากับความหรูหราอย่างลงตัว สมรรถนะการขับขี่อันสมบูรณ์แบบ จากสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังใหม่ GA-K (Global Architecture-K Platform) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวเยี่ยมและควบคุมได้ดั่งใจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นล่าสุด ทั้งยังมั่นใจตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ Lexus Safety System Plus เจนเนอเรชั่นที่ 2 แต่คงไว้ซึ่งความประณีตพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ควบคู่กับความนุ่มนวลในการขับขี่และความเงียบภายในห้องโดยสาร อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส ES
เส้นสายของตัวรถเลกซัส ES จากหลังคาที่ลากมาบรรจบบริเวณช่วงท้ายของตัวรถ สร้างสัดส่วนที่สมดุล และทำให้ตัวรถดูกว้างและราบต่ำ การออกแบบด้านหน้ารถที่เฉียบคม และด้านข้างที่มีมิติ ทำให้เลกซัส ES ดูทรงพลัง เชิญชวนให้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ
โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์แห่งตัวตนของเลกซัส ประจัญหน้ากับความเฉียบคมที่โดดเด่นกับ กระจังหน้าแบบ Spindle grille เอกลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นเลกซัส ที่เสริมความโฉบเฉี่ยว ด้วยไฟหน้าแบบ LED และไฟ DRL (Daytime Running Light) รูปตัว L เปล่งประกายความแตกต่าง ไม่เหมือนใคร กลมกลืนกันกับชุดไฟท้าย LED รูปตัว L ที่ตอกย้ำตัวตนแห่งเลกซัสให้ยิ่งชัดเจน
ไฟหน้าแบบ Ultra compact 3-eye LED headlamps* ดีไซน์เรียบหรูกะทัดรัด ครบทั้งรูปลักษณ์ที่สวยหมดจดและ การกระจายแสงที่ดีเยี่ยม มาคู่กับไฟเลี้ยวแบบ Sequential ที่ให้ลำแสงวิ่งเป็นเส้นต่อเนื่อง ตามทิศทางการเลี้ยว (*สำหรับเกรด Premium และ Grand Luxury เท่านั้น)
ไฟท้าย LED ดีไซน์รูปทรงตัว L ตอกย้ำตัวตนของเลกซัสให้ยิ่งชัดเจน ออกแบบให้มีมิติและความลึก ไม่เพียงเพื่อสร้างความแตกต่าง แต่ยังช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกลแม้ในความมืด
Hands-free power trunk lid แม้ว่าจะถือสัมภาระเต็มมือ เพียงแค่มีกุญแจไฟฟ้า ก็สามารถเปิดปิดฝากระโปรงท้ายได้อย่างอัตโนมัติ โดยแค่ขยับเท้าบริเวณใต้กันชนด้านหลังเท่านั้น
ภายในผสานความหรูหราเข้ากับนวัตกรรมความสะดวกสบายเหนือระดับ
ห้องโดยสารออกแบบเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆ โดยคำนึงถึงผู้ขับขี่ เป็นศูนย์กลาง ทำให้ทุกการควบคุมเป็นเรื่องง่าย โดยมิต้องเปลี่ยนอิริยาบถหรือละสายตาจากท้องถนน ขณะขับขี่ มอบมิติใหม่แห่งสุนทรียะแห่งการขับขี่อันเงียบสงบและผ่อนคลาย
เงียบสงบและผ่อนคลายได้ทุกขณะ สร้างความเป็นส่วนตัวให้ห้องโดยสารด้วยบาน Acoustic glass และ Seatback silencers สะท้อนเอกลักษณ์แห่งความใส่ใจในทุกรายละเอียด ราวกับได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเฉกเช่นแขกผู้ทรงเกียรติ มาตรฐานใหม่ของความหรูหราที่ล้ำหน้าเหนือกาลเวลาจากเลกซัส
มาตรวัด/จอแสดงผล EMV หน้าจอ EMV ขนาด 12.3 นิ้ว* จะแสดงผลการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ระบบเสียง และข้อมูลอื่นๆ และจะแสดงข้อมูล ตามฟังก์ชันที่เลือกร่วมกันกับจอแสดงผลออพติตรอนแบบ TFT (Thin Film Transistor) ขนาด 7 นิ้ว รวมทั้งวางตำแหน่งของปุ่มควบคุมต่างๆ ให้อยู่ในระยะที่สั่งการได้ง่าย ลดความจำเป็นในการเปลี่ยนท่านั่งหรือเสียสมาธิจากการขับขี่ นอกจากนั้นจอแสดงผล EMV จะแสดงข้อมูลอาทิเช่น แผนที่แบบเต็มจอ โดยไม่รบกวนการเข้าถึงข้อมูลของผู้ขับขี่แม้ในขณะแสดงผลทั้งเมนูและแผนที่พร้อมกัน
ระบบควบคุมเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ ปรับระดับการตัดเสียงรบกวนโดยใช้ไมโครโฟนเป็น ตัวดักจับเสียงจากเครื่องยนต์ เพื่อวัดระดับว่าต้องควบคุมเสียงรบกวนมากแค่ไหน โดยระบบจะปล่อยคลื่นเสียงที่ตรงข้ามกับคลื่นเสียงจากเครื่องยนต์ออกมาทางลำโพงเพื่อหักล้างกัน จึงเพิ่มความเงียบให้ห้องโดยสารได้เต็มที่
รีโมทควบคุมแบบสัมผัส ออกแบบมาให้คุณควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ในรถได้เหมือนกับการใช้สมาร์ทโฟน โดยคุณสามารถลากนิ้วเพื่อเลื่อนเคอร์เซอร์ไปตามเมนูที่ต้องการใช้งาน และสามารถย่อและขยายภาพในหน้าจอได้อย่างต่อเนื่อง
เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับหนุนหลังได้ 4 ทิศทาง* พนักพิงของเบาะนั่งคู่หน้าถูกออกแบบมาให้แยกท่อนล่างและท่อนบนออกจากกัน เพื่อสร้างความต่อเนื่องจากเบาะนั่งมายังคอนโซลและที่พักแขน โดยรวมตัวหนุนหลังไว้ในพนักพิงท่อนล่างเพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อต้องขับทางไกล มีสวิตช์ควบคุมที่ปรับได้ทั้ง 4 ทิศทางทั้งแนวตั้งและแนวนอน เพื่อให้คุณปรับแต่งท่านั่งได้เหมาะสมกับสรีระมากที่สุด ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า (*สำหรับเกรด Premium เท่านั้น)
แผงควบคุมอเนกประสงค์บริเวณที่วางแขนกลางเบาะหลัง เบาะหลังของเลกซัส ES มาพร้อมที่วางแขนตรงกลางเบาะติดตั้งที่วางแก้วเพื่อความสะดวกสบาย พร้อมแผงควบคุมที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียง ปรับเอนพนักพิง รวมทั้งสั่งการฟังก์ชันอื่นๆ ในรถได้อย่างง่ายดาย
เบาะนั่งตอนหลังปรันเอนด้วยไฟฟ้า เพิ่มความสบายยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งตอนหลังที่ปรับเอนได้ถึง 8 องศา ด้วยสวิทช์ควบคุมแบบไฟฟ้าที่สะดวกสบาย (*สำหรับเกรด Premium เท่านั้น)
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ Lexus Climate Concierge แบ่งการดูแลอุณหภูมิออกเป็น 3 ส่วนแยกจากกัน โดยแยกระหว่างบริเวณคนขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง ผู้โดยสารตอนหลัง สามารถปรับอุณหภูมิได้เองที่แผงควบคุมบริเวณที่วางแขนกลางเบาะหลัง โดยใช้พลังงานต่ำและไม่ทำให้สิ้นเปลือง
แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย สำหรับสมาร์ทโฟนที่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย คุณสามารถวางโทรศัพท์ลงบนแท่นชาร์จที่อยู่บริเวณตรงกลางกล่องคอนโซลได้อย่างง่ายดาย
ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า แม้ว่าจะถือสัมภาระเต็มมือ เพียงแค่มีกุญแจไฟฟ้า ก็สามารถเปิดปิดฝากระโปรงท้ายได้อย่างอัตโนมัติ โดยแค่ขยับเท้าบริเวณใต้กันชนด้านหลังเท่านั้น
สมรรถนะแห่งการขับขี่อันสมบูรณ์แบบ
อัตราเร่งความเร็วนุ่มนวลเป็นจังหวะเพื่อตอบสนองความรู้สึกของผู้ขับขี่ ควบคุมการทรงตัวให้เข้าโค้ง อย่างมั่นใจ สภาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังรถพัฒนาอย่างสมบูรณ์ ทำให้การขับขี่รื่นรมย์อย่างที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน
สถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถัง GA-K (Global Architecture-K) นวัตกรรมที่เลกซัสคิดค้นขึ้นใหม่ สร้างพื้นฐานอันดีเยี่ยมให้กับ ES เพื่อต่อยอดสู่ความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งการออกแบบ สมรรถนะการขับขี่ ความเงียบสงบ และความปลอดภัย สำหรับสมรรถนะการขับขี่ เลกซัสได้ปรับตำแหน่งและองศาการจัดวาง พวงมาลัยและแป้นเหยียบต่างๆ เพื่อสร้างท่านั่งที่ช่วยให้ขับขี่ได้ง่าย เพื่อตอบรับกับ DNA อันดีเลิศของรถ ที่เกิดจากตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และการกระจายน้ำหนักที่สมดุล เลกซัสได้พัฒนาตัวถังและเพลาให้มีความแข็งแกร่งสูง สร้างเสถียรภาพในการขับขี่ทุกสภาวะ ทั้งรวมเอาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ได้แก่ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ( Electric Power Steering) ใหม่ล่าสุด และระบบซับแรงกระแทกคุณภาพสูง ไว้ใน ES เพื่อความปลอดภัยและการตอบสนองได้อย่างใจคิด ที่สำคัญ แรงสั่นสะเทือนทุกระดับจากทุกช่องทาง ได้ถูกกำจัดออกจากห้องโดยสาร ให้เหลือเพียงความเงียบสงบ คุณจึงแทบไม่รู้สึกถึงการสะเทือนใดๆ จากล้อและเครื่องยนต์
ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) การใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบขนาน ทำให้การควบคุมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าทำได้อย่างเฉียบคม ตอบสนองได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่หักพวงมาลัย พร้อมคอพวงมาลัยที่เลกซัสพัฒนาใหม่ให้แข็งแรงยิ่งกว่าเดิม มอบความรู้สึกที่ ดีเยี่ยมขณะขับ
ตัวซับแรงกระแทกประสิทธิภาพสูง* ติดตั้งที่ช่วงล่างทั้งหน้าและหลังเพื่อเพิ่มความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างรถและคนขับ ตัวซับแรงกระแทกจะดูดซับแรงจากการบิดตัวและแรงสั่นสะเทือนขณะขับขี่ เพื่อช่วยให้การควบคุมรถทำได้เฉียบคมยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความสบายและความเงียบสงบในห้องโดยสาร(*เฉพาะเกรด Premium เท่านั้น)
ตัวถังจากวัสดุผสมผสาน โครงสร้างตัวถังรูปทรงวงแหวนช่วยลดการบิดตัวของรถ เสริมด้วยแท่งยึดรูปทรงตัว V ที่ด้านหลังเบาะหลัง ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวประกับเพลา จึงทำให้ตัวรถมีความมั่นคง เกาะถนนดีเยี่ยม โดยในการประกอบตัวถัง เลกซัสได้เลือกใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ มาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวรถ เช่นการเชื่อมตัวถังด้วยเทคโนโลยี Laser Screw Welding เป็นการใช้เลเซอร์ที่มีความร้อนต่ำ ไม่ทำให้ตัวถังเสียรูป จึงมีความแม่นยำและทนทานสูง ใช้กาวเชื่อมตัวถังทนความดันสูง ชิ้นส่วนหลักต่างๆ ของรถใช้เหล็กความแข็งแกร่งสูงนำมาขึ้นรูปร้อน เพื่อช่วยลดน้ำหนักรวมของรถและเพิ่มความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบ McPherson strut พัฒนาขึ้นใหม่ ให้ตอบสนองต่อพวงมาลัยได้ดีเยี่ยม มีวงเลี้ยวที่แคบลง มอบความสบายเหนือระดับขณะขับขี่ และยังได้พัฒนาตำแหน่งจุดยึดของระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ Trailing arm double wishbone เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลบนถนนขรุขระ เลกซัส ES จึงมาพร้อมการขับขี่ที่มีเสถียรภาพและสบาย นอกจากนั้น ยังตอบสนองแม้การเคลื่อนไหวในระดับน้อยที่สุด คุณจึงไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนใดๆ ทั้งขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ และยังขับขี่ในทางตรงได้อย่างมั่นคงที่ความเร็วสูง
ระบบเบรก วิศวกรของเลกซัสได้พัฒนาระบบเบรกให้โดดเด่นทั้งในเรื่องแรงเบรก การควบคุม และการตอบสนองผู้ขับขี่ได้อย่างใจคิด มอบความรู้สึกเพลิดเพลินและปลอดภัยในขณะขับขี่ มาพร้อมเบรกมือไฟฟ้าที่ควบคุมได้อย่างง่ายดาย คุณจึงสนุกกับการขับขี่ได้เต็มที่
โหมดการขับขี่ ปรับตั้งค่าการขับขี่ ของรถได้ง่ายดายด้วยสวิตช์เลือกโหมดการขับขี่ ตามสไตล์การขับขี่ที่เป็นตัวคุณ โดยมีทั้งโหมดประหยัดน้ำมัน (Eco) โหมดปกติ (Normal) และโหมดสปอร์ต (Sport)
เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร (A25A-FXS) พัฒนาใหม่ล่าสุด ผสานคุณสมบัติทั้งสมรรถนะการขับขี่ การประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปรับแต่งการออกแบบเครื่องยนต์ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน โดยยืดช่วงชักให้ยาวขึ้น และใช้พอร์ทไอดีที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของอากาศในกระบอกสูบเพื่อเร่งการจุดระเบิด รวมถึงพัฒนาหัวฉีดน้ำมัน ให้เป็นแบบหลายรู ใช้ตัวปั๊มน้ำมันความจุแปรผันได้ ระบบทำหล่อเย็นแบบแปรผันได้ และใช้วาล์วไอดี VVT-iE
ระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นใหม่ เลกซัสต้องการแสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์ไฮบริดสามารถให้สมรรถนะยอดเยี่ยมพร้อมประหยัดน้ำมัน โดยนำเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร (A25A-FXS) ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ที่เล็กลง น้ำหนักเบา ภายใต้ระบบการควบคุมที่ละเอียดซับซ้อน เพื่อสร้างอัตราเร่งอันราบลื่น เป็นธรรมชาติ ตอบสนองได้ทันทีเมื่อแตะคันเร่ง
มั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก LEXUS SAFETY SYSTEM+
ความร้อนแรงของสมรรถนะถูกวางสมดุลไว้คู่กับความปลอดภัยที่อุ่นใจได้ระบบความปลอดภัยทั้งแบบ ปกป้องและป้องกันของเลกซัส ES ครบครันด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงที่ทำให้คุณไม่ต้องกังวลขณะเดินทาง
ระบบป้องกันก่อนการชน Pre-crash Safety System* เรดาร์และกล้องที่ตัวรถจะคอยประเมินสถานการณ์ว่าอาจเกิดการชนคนหรือผู้ขับขี่จักรยาน* หรือรถคันอื่น ๆ หรือไม่ หากมีความเสี่ยงจะชนระบบจะส่งสัญญาณเตือนคนขับพร้อมช่วยกระตุ้นแรงเบรกเพิ่มเมื่อผู้ขับเหยียบเบรก หรือหากผู้ขับไม่เหยียบเบรกเมื่อมีสัญญาณเตือนระบบจะทำการเบรกเองโดยอัตโนมัติ (*สำหรับเกรด Premium และ Grand Luxury เท่านั้น)
ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Keeping Assist (LKA)* ระบบจะทำการส่งสัญญาณสั่นเตือนที่พวงมาลัย พร้อมกับแจ้งเตือนบนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ในทันที เมื่อตรวจพบว่ารถยนต์มีการขับข้ามเลนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว และยังช่วยประคองพวงมาลัยเพื่อไม่ให้รถออกนอกเลน
ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ Adaptive High-beam System (AHS)* ระบบจะตรวจจับแสงไฟจากไฟหน้าของรถที่สวนมา, ไฟท้ายของรถคันหน้า และแสงสว่างจากพื้นที่โดยรอบ เมื่อระบบตรวจพบว่ามีรถวิ่งสวนเข้ามาในระยะรัศมีความสว่างของไฟสูง หลอดไฟ LED ทั้ง 24 ดวงของแต่ละฝั่งจะถูกดับลงและเปิดขึ้นใหม่อัตโนมัติ เพื่อปรับแต่งการส่องสว่างไปยังบริเวณต่างๆ อย่างเหมาะสม โดยระบบจะเลือกตัดลำแสงไฟเพียงบางส่วน เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้ที่ขับรถสวนทางมา จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้การขับขี่ยามกลางคืน (*สำหรับเกรด Premium และ Grand Luxury เท่านั้น)
ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control* นอกจากจะช่วยรักษาความเร็วให้คงที่โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งแล้ว ระบบจะตรวจวัดระยะห่างจากรถคันหน้าด้วยเรดาร์และกล้องบริเวณหน้ารถพร้อมลดและเพิ่มความเร็วอัตโนมัติให้สอดคล้องกับรถคันหน้า เพื่อคงระยะห่างที่ปลอดภัยอยู่เสมอ (*สำหรับเกรด Premium และ Grand Luxury เท่านั้น
จอแสดงผลแบบพาโนรามา* เพื่อช่วยคุณตรวจสอบสภาพแวดล้อมในตำแหน่งที่มองเห็นได้ยากจากตำแหน่งผู้ขับ จอภาพ EMV (Electro Multi-Vision) ขนาด 12.3 นิ้ว หรือ 8 นิ้ว จะแสดงภาพเสมือนที่ประมวลผลจากกล้องบริเวณด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังรถให้ผู้ขับ (*สำหรับเกรด Premium และ Grand Luxury เท่านั้น)
สัญญาณเตือนด้านท้ายขณะถอยหลัง ขณะถอยรถออกจากที่จอด หรือถอยออกมายังถนน เรดาร์ความละเอียดระดับ Quasi-millimeter ที่กันชนท้ายจะคอยตรวจหาว่ามีรถในทางหลักวิ่งเข้ามา ในมุมที่สังเกตเห็นได้ยากหรือไม่ หากตรวจพบว่ามีรถวิ่งเข้ามาระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อม ไฟกระพริบบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ
ระบบเตือนมุมอับสายตา ทำงานด้วยเรดาร์ความละเอียดระดับ Quasi-millimeter ที่ติดตั้งอยู่บริเวณกันชนหลัง เพื่อคอยตรวจหารถยนต์ในเลนข้างเคียงที่อาจ อยู่ในมุมอับสายตาและมองเห็นได้ไม่ชัดเจนในกระจกมองข้าง หากตรวจพบจะแสดงสัญลักษณ์เตือนบนกระจกฝั่งที่มีรถคันดังกล่าว
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS** เลกซัส ES มาพร้อมถุงลมเสริมความปลอดภัยแบบ SRS (เบาะหน้า) ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS บริเวณหัวเข่า (เบาะหน้า) ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้าง (เบาะหน้าและเบาะหลังริมนอก) และม่านกันกระแทก (เบาะหน้าและเบาะหลัง)
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS เป็นอุปกรณ์เสริมที่ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัย คนขับและผู้โดยสารทั้งหมดในรถต้องคาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกต้องตลอดเวลา ห้ามติดตั้งระบบเบาะนิรภัยสาหรับเด็ก CRS (Child Restraint System) ที่วางกลับหลังที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า สำหรับระบบเบาะนิรภัยสาหรับเด็ก CRS ที่วางหันหน้าออก ขอ แนะนำให้ใช้ที่เบาะหลัง กรุณาอย่าใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับเบาะนั่งครอบส่วนที่ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้างจะพองตัว อุปกรณ์เสริมดังกล่าวอาจทำให้ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้างพองตัวไม่ถูกต้องจนเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง (วัสดุหุ้มเบาะของแท้จากเลกซัสได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรุ่นที่ติดตั้งมาพร้อมกับถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้าง สำหรับข้อมูลการจัดจำหน่ายในภูมิภาคของท่าน กรุณาสอบถามที่ศูนย์บริการใก้ลบ้าน) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและระบบความปลอดภัยที่สาคัญอื่นๆกุรณาอ่านคู่มือการใช้รถอย่างละเอียด
เลือกเป็นเจ้าของความหรูหรา สมบูรณ์แบบของ เลกซัส ES ใหม่
สีภายนอก 10 สี พร้อม 2 สีใหม่ คือ Ice Ecru MM สีใหม่ และ Sunlight Green MM สีใหม่
Sonic Quartz,Sonic Titanium,Mercury Gray MC,Platinum Silver Me,Black,Graphite Black Glass Flake,Red Mica Crystal Shine,Deep Blue MC
ราคา Lexus ES ใหม่
Lexus ES 300h รุ่น Luxury 3,590,000 บาท
Lexus ES 300h รุ่น Grand Luxury 3,760,000 บาท
Lexus ES 300h รุ่น Premium 4,190,000 บาท
พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง
พิเศษสุด!! เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่นจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
• รับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club รวมทั้งสิทธิพิเศษจาก Lexus Privilege ผ่าน Mobile Application “Lexus Elite Club” พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ และสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าคนสำคัญตลอดทั้งปี
• อุ่นใจในทุกการเดินทางด้วย ด้วยการรับประกันคุณภาพ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และการบริการจากเลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ