บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ “เอ็มจี” แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษ บุกตลาดครึ่งปีหลังเปิดตัว “NEW MG6” รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบเทอร์โบ 1.8 ลิตร ทันสมัยสปอร์ตเฉียบคมสไตล์ยุโรป สุดยอดสมรรถนะการขับขี่ที่มอบพลังแห่งการควบคุม และประสบการณ์พิเศษให้กับผู้ขับขี่ พร้อมติดตั้ง “inkaNet” นวัตกรรมการสื่อสารอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ระหว่างผู้ขับขี่กับรถยนต์เอ็มจีครั้งแรกในประเทศไทย NEW MG6 คือนิยามใหม่แห่งสมรรถนะการบังคับควบคุมและความสะดวกสบายที่เหนือระดับ
VIDEO
มร. หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เปิดเผยว่า “NEW MG6 จะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์สไตล์สปอร์ตที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะการขับขี่ รถยนต์ NEW MG6 สปอร์ตพรีเมี่ยมใหม่ ที่มีเอกลักษณ์ สะท้อนความเป็นเอ็มจีอย่างชัดเจน พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) โดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะ การบังคับควบคุม และความปลอดภัย สามารถตอบสนองผู้ขับขี่ให้รับรู้ถึงพลังแห่งการควบคุมที่เหนือระดับ นอกจากนี้ NEW MG6 ติดตั้ง “inkaNet” นวัตกรรมระบบสื่อสารระหว่างคนกับรถที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย ช่วยเพิ่มความปลอดภัย สะดวกและมั่นใจทุกการขับขี่ NEW MG6 พร้อมสร้างแรงบันดาลใจและเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการขับขี่แล้ววันนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยที่ติดตั้งระบบนี้” มร. หวู่ ฮวน กล่าว
NEW MG6 รถยนต์สปอร์ตพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับรู้ถึงพลังของการควบคุม ด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตแบบอังกฤษทั้งในรุ่นฟาสต์แบ็ค (Fastback) และซีดาน (Sedan) รูปลักษณ์ปราดเปรียวสปอร์ตเฉียบคมในทุกรายละเอียด ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon HID ทันสมัยและให้ความสว่างที่มากกว่า พร้อมระบบไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว (Cornering Lights) ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto-Leveling Headlights) และระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า (Headlight Washer) เพิ่มความโดดเด่นและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Light) และสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเส้นโครงหลังคาที่ลาดต่ำลง โฉบเฉี่ยวกับกันชนหลังพร้อมไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่สุดเท่ และ ตัวถัง 5 สีภายนอกให้เลือก ได้แก่ ขาว Arctic White ดำ แดง เงิน และเทา และสำหรับในรุ่น ฟาสต์แบ็ค ยังมีสีพิเศษ ตัวถังขาว (Arctic White) หลังคาดำ เป็นทางเลือกสำหรับคนหัวใจสปอร์ตอีกด้วย
ดีไซน์ภายนอก
ด้วยแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์อย่างสูงสุด NEW MG6 มาพร้อมกับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา พร้อมกันชนหน้าที่ถูกออกแบบใหม่ สวย ทันสมัย รับกับโลโก้ เอ็มจี ที่โดดเด่นบนกระจังหน้า ปราดเปรียวด้วยเส้นโค้งหลังคาที่ลาดลงจรดกระโปรงท้ายอย่างลื่นไหล มาพร้อมกับกันชนหลังและไฟท้ายดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวสไตล์ยุโรป เพิ่มเติมด้วยไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED และล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่แบบทูโทน ช่วยสร้างบุคลิกที่ชัดเจนให้กับ NEW MG6 มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มี 5 สีให้เลือก คือ ขาว ดำ แดง เทา และเงิน พิเศษสุดในรุ่นฟาสต์แบ็ค สปอร์ตเร้าใจเต็มพิกัดด้วยสีพิเศษแบบทูโทน – ตัวรถสีขาวหลังคาดำ
สปอร์ตพรีเมียมในทุกรายละเอียดด้วยไฟหน้าแบบ Bi-Xenon HID ทันสมัยและให้ความสว่างที่มากกว่า พร้อมระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า (Headlight Washer) เพิ่มความโดดเด่นและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Lights)
ดีไซน์ภายใน
ภายในดีไซน์ใหม่ 2 บุคลิก 2 โทนสี ทั้งโทนสีดำและสีเบจ โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยคอนโซลหน้าสีเทาเข้มพร้อมจอมาตรวัดดีไซน์ใหม่ ครบทุกฟังก์ชันความบันเทิงทั้ง CD และ MP3 หน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ นำทางบลูทูธ กล้องมองหลัง และลำโพงคุณภาพสูง 8 ตำแหน่ง รองรับ USB และ AUX ช่วยเพิ่มความบันเทิงและความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง
ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย แต่ยังคงความสปอร์ตพรีเมียม เบาะที่นั่งสบายกระชับรับสรีระปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง สำหรับที่นั่งตอนหน้า (เฉพาะรุ่น X) แผงประตูดีไซน์ใหม่ พร้อมเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone สามารถแยกปรับระดับอุณหภูมิได้อย่างอิสระสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและผู้ขับขี่ หลังคาซันรูฟปรับด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในทุกการเดินทาง นอกจากนี้ NEW MG6 ยังติดตั้งแผงบังแดดด้านหลังในรุ่นซีดาน (เฉพาะรุ่น X) อีกด้วย
NEW MG6 แรงเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 161 แรงม้า (118 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ที่ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว นุ่มนวลในทุกการขับขี่ทรงตัวดีเยี่ยมด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันและด้านหลังแบบ Z-type มัลติลิ้งค์
NEW MG6 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือระดับขึ้นด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก 5 ฟังก์ชั่น ได้แก่ ระบบ Auto Hold เพิ่มความสะดวกในการขับขี่ขณะจราจรคับคั่ง และป้องกันรถไหลเมื่อต้องขึ้นทางลาดชัน ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ (Steering Wheel Reminder) ระบบควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง DWTC (Dynamic Wheel Torque Control) ที่เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องหักหมุนพวงมาลัยเพิ่มขึ้นในขณะเข้าโค้ง ไฟส่องสวางด้านข้างขณะเลี้ยว (Cornering Lights) และระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto-Leveling Headlights) มั่นใจสูงสุดด้วยโครงสร้างพิเศษ พร้อมคานเหล็กนิรภัยที่ช่วยรับแรงกระแทกจากด้านข้าง และถุงลมนิรภัย 6 จุด ทำให้ห้องโดยสารเป็นโซนนิรภัยปกป้องทุกคนในรถขณะเกิดอุบัติเหตุ
NEW MG6 ยังคงอัดแน่นเต็มพิกัดด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย10 ฟังก์ชัน ได้แก่
• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรคฉุกเฉิน (ABS - Anti-lock Braking System)
• ระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD - Electronic Brake Force Distribution)
• ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS – Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (Motor Control Slide Retainer)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS - Traction Control System)
• ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ (BDC – Brake Disc Cleaning)
• ระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic Brake Assist)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS - Hill Start Assist System)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (ITPMS - Indirect Tire Pressure Monitor System)
“inkaNet”
ระบบการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์เอ็มจี ระบบแรกในตลาดที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย “inkaNet” ประกอบด้วย 5 ฟังก์ชั่นหลัก ได้แก่ ฟังก์ชั่นตรวจสอบสถานะการทำงาน ของรถยนต์เอ็มจี ช่วยให้ทราบข้อมูล เช่น ระยะทางที่รถวิ่ง ระดับน้ำมัน ระดับไฟในแบตเตอรี่ ได้แบบเรียลไทม์ ฟังก์ชั่นควบคุมการทำงานของรถจากระยะไกล แก้ปัญหาการลืมล็อคประตู ฟังก์ชั่นวิเคราะห์การทำงาน แจ้งสถานะปัจจุบันของรถยนต์ ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนความผิดปกติ เมื่อมีการเคลื่อนรถยนต์อย่างผิดปกติ และฟังก์ชั่นติดตามรถยนต์แบบเรียลไทม์ ที่สามารถบอกตำแหน่งรถ พร้อมแนะนำเส้นทางที่มีการจราจรสะดวกที่สุด พิเศษสำหรับลูกค้า NEW MG6 จะได้รับสิทธิพิเศษสามารถเชื่อมต่อระบบ inkaNet ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือฟรีนาน 5 ปี
inkaNet ทำงานอย่างไร
รถยนต์ NEW MG6 ที่มีระบบ inkaNet จะติดตั้งกล่องควบคุมที่เรียกว่า T-Box และเป็นตัวกลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์กับผู้ขับขี่ โดยผู้ใช้สามารถใช้งานระบบ inkaNet ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่
1. Application inkaNet บนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
2. Website (www.mgcars.com ) ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
3. MG Call Centre (1-800-999-988 , 1-401-999-988 กด 3)
inkaNet มีจุดเด่นและประโยชน์ต่อผู้ขับขี่รถยนต์ NEW MG6 อย่างไร
ฟังก์ชั่นเด่นที่ให้บริการข้อมูลรถยนต์และความปลอดภัยของรถยนต์ NEW MG6 ได้แก่
• ตรวจสอบสถานะของรถยนต์ (Vehicle Status Update) ฟังก์ชั่นนี้จะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบสถานะปัจจุบันของรถยนต์ อาทิ ระยะทาง ประตูปิดสนิทหรือไม่ ประตูล็อกแล้วหรือไม่ กำลังไฟที่เหลือในแบตเตอรี่ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิภายนอกรถ โดยผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะดังกล่าวได้ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ NEW MG6
• การควบคุมการทำงานของรถ (Remote Vehicle Control) ฟังก์ชั่นนี้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในการสั่งล็อก/ปลดล็อกรถได้จากระยะไกลผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและผ่าน MG Call Centre นอกจากนี้ยังช่วยค้นหารถในที่มืดได้อีกด้วยโดยใช้ฟังก์ชัน Find My Car ซึ่งระบบจะสั่งให้รถเปิดไฟหน้า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหารถได้ง่ายยิ่งขึ้น
• ระบบการเตือนความผิดปกติของรถยนต์ (Vehicle Alarm)
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่รถของคุณ ดังนี้
- เตือนเคลื่อนไหวผิดปกติ:เมื่อรถยนต์มีการเคลื่อนที่ผิดปกติ
- เตือนรถยนต์ติดเครื่อง:ทันทีที่มีการติดเครื่องยนต์
ระบบจะส่งข้อความแจ้งเตือนความผิดปกติดังกล่าวข้างต้น ผ่านทาง SMS และ Push Notification บนแอพพลิเคชันผ่านทางสมาร์ทโฟน เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับทราบ
• ระบบนำทางและ ติดตามรถยนต์แบบ Real-Time (Real-time Vehicle Monitoring) ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในกรณีทีรถถูกขโมย ผู้ใช้สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือเบื้องต้นผ่าน MG Call Center ในการช่วยติดตามและแจ้งตำแหน่งของรถ รวมถึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามรถที่ถูกขโมยไปได้อีกด้วย
• การตรวจวิเคราะห์รถยนต์ (Remote Vehicle Diagnosis) ฟังก์ชั่นนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีที่เกิดความผิดปกติระหว่างการขับขี่ โดยผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คความผิดปกติในการทำงานของรถยนต์ อาทิ เครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบถุงลมนิรภัย ผ่านทางแอพพลิเคชัน หรือ ติดต่อ MG Call Center เพื่อขอรับคำแนะนำเบื้องต้นได้เช่นกัน
ฟาสต์แบ็ค ( Fastback)
ซีดาน (Sedan)
1.8 C
828,000 บาท
818,000 บาท
1.8 D
908,000 บาท
898,000 บาท
1.8 D Sunroof
938,000 บาท
928,000 บาท
1.8 X
1,008,000 บาท
998,000 บาท
1.8 X Sunroof
1,038,000 บาท
1,028,000 บาท
NEW MG6
• รับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• บริการเช็คระยะนอกสถานที่ (Mobility Services) เมื่อมีการโทรแจ้งนัดหมาย
• บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง
• บริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Center) ตลอด 24 ชั่วโมง
• เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า