บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถเอสยูวีใหม่ล่าสุด พร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ออล นิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ALL New Mazda CX-5 รถอเนกประสงค์รูปลักษณ์สปอร์ตที่มาสด้าลงเทคโนโลยีสกายแอคทีฟมาเต็มทั้งคัน เป็นครั้งแรกของยนตรกรรมสกายแอคทีฟที่วางจำหน่ายในตลาดเมืองไทย มาสด้าชูจุดขายความเป็นรถอเนกประสงค์ ครอสโอเวอร์ที่สูงในเรื่องสมรรถนะ แต่ต่ำในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับโลก และถือเป็นการแนะนำคอนเซ็ปต์การออกแบบใหม่ล่าสุด โคโดะ ดีไซน์ ธีมออกแบบรถซีเอ็กซ์-5 ใหม่ ถ่ายทอด DNA ของมาสด้าได้อย่างชัดเจน ความสมบูรณ์แบบของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ใหม่ ทำให้เป็นครอสโอเวอร์ SUV ที่ชนะรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมในประเทศญี่ปุ่นปี 2012
มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ใหม่ ALL New Mazda CX-5 จัดอยู่ในกลุ่มรถอเนกประสงค์ เป็นรถยนต์รุ่นแรกของการพัฒนารถ เจนเนอเรชั่นที่ 6 ของมาสด้า ความสดใหม่ที่น่าสนใจและเป็นจุดขายหลัก คือ การที่มาสด้าใช้เทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเต็มรูปแบบ “เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ” SKYACTIV Technology ในรถเจนเนอเรชั่นที่ 6 นี้ทุกรุ่น คู่กับธีมการดีไซน์รถใหม่ “โคโดะ” KODO: Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ที่เน้นในเรื่องการถ่ายทอดความสวยงามของพลังผ่านรูปทรงของรถ มาสด้าเสนอ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ใหม่ เป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลกรวมถึงลูกค้าชาวไทย ที่นอกเหนือจากความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ยังต้องการรถยนต์ที่มีสมรรถนะทรงพลังแรงขับสนุกอีกด้วย เติมเต็มความต้องการแท้จริงของลูกค้าที่ต้องการได้จากรถในคันเดียว ความเป็น SUV ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งในเรื่องความแรง อัตราบริโภคน้ำมันที่ประหยัด ปล่อยค่าไอเสียต่ำ ความปลอดภัยสูง มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และดีไซน์สวยสปอร์ต ทั้งหมดนี้เองที่ทำให้ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ใหม่ ตอบสนองความต้องการของแฟน SUV ได้อย่างที่ไม่เคยมีรถคันไหนให้ได้มาก่อน

โคโด - จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว เริ่มต้นบนถนนจริง
ภายหลังจากการพัฒนารถต้นแบบมาสด้ามินากิ ที่เปิดตัวในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ในปี 2555 และมาสด้า CX-5 เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตออกจำหน่ายในตลาดที่ใช้แนวทางการออกแบบ โคโด - จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว หัวหน้าทีมนักออกแบบ CX-5 มาซาชิ นากายามา กล่าว “สำหรับมาสด้า CX-5 เราออกแบบด้วยการแสดงออกถึงความแข็งแกร่งมีพลังและความคล่องแคล่วปราดเปรียว เราได้ดูวีดีโอของการเคลื่อนที่ของเสือชีต้าห์ จังหวะและการเคลื่อนที่ของเท้าทั้งสี่ ที่ดูคล่องแคล่ว การใช้กล้ามเนื้อของมันในการวิ่งทะยาน เร่งและใช้ความเร็วไปยังทิศทางต่างๆ มันได้ส่งผ่านพละกำลังความแข็งแรงของมันไปตามอวัยวะของร่างกาย ซึ่งเป็นทวงท่าที่สง่างาม และนั่นคือแรงบันดาลใจของเราที่จะออกแบบรถเอสยูวีด้วยภาษาการแสดงออกของโคโด” การออกแบบภายนอกจึงแสดงออกด้วยความแข็งแกร่ง ด้วยรูปทรงที่ทีพละกำลังแต่ดูปราดเปรียว เพื่อการใช้งานแบบรถเอสยูวี ด้วยแบบฉบับของมาสด้าที่เป็นเอกลักษณ์ การออกแบบภายในมาสด้าพัฒนาห้องโดยสารที่ให้จุดศูนย์กลางการทำงานอยู่ที่ผู้ขับขี่ คุณภาพห้องโดยสารระดับสูง ดีไซน์ที่ดูแข็งแรงโฉบเฉี่ยวสอดคล้องกับการออกแบบภายนอก

การขึ้นรูปทรงด้วยความสมดุลของความแข็งแรงแต่ปราดเปรียวคล่องแคล่ว
ด้านหน้าออกแบบด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวให้ความประทับใจ ดูแข็งแรงมีพลังและตัวตน มาสด้า CX-5 เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตออกจำหน่ายที่ออกแบบด้านหน้าด้วย Signature Wing เช่นเดียวกับในรถต้นแบบใหม่ทุกรุ่นตามแนวทางการออกแบบโคโด จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว มันคือเส้นสายของปีกที่สยายออกขณะกำลังบินบนท้องฟ้า ลากผ่านขอบด้านล่างของกระจังหน้าไปจบที่ไฟหน้าทั้งสองข้าง สิ่งนี้เปรียบเป็นสัญลักษณ์ของการออกแบบด้านหน้าของรถมาสด้าเจนเนอเรชั่นใหม่ด้วยการยึดโครงสร้างของกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า Mazda five-point grille การออกแบบรูปทรงและตำเหน่งของไฟหน้านั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากตาทั้งสองข้างของเสือชีต้าห์ที่จ้องเขม็ง มองไปยังเหยื่อของมัน ไฟหน้ารูปทรงสามมิติ กระจังหน้าด้านล่างที่ดูดุดัน ผสานกันเป็นการออกแบบด้านหน้าที่ดูหน้าเกรงขาม
การออกแบบด้านข้างให้ความรู้สึกมีพลังของความเคลื่อนไหว โป่งล้อที่ใหญ่ดูแข็งแรงทรงพลัง ต่อเชื่อมผ่านเส้นสายเบาะพื้นผิวมายังห้องโดยสารที่ออกแบบด้วยรูปทรงลาดเอียงและมีสัดส่วนที่ลงตัวแลดูปราดเปรียวแข็งแรง เป็นแนวทางการออกแบบของการขึ้นรูปทรงด้านข้างตัวรถที่ลงตัวจากโป่งล้อทั้งสองและห้องโดยสารที่สะท้อนถึงพละกำลังที่จะถูกปลดปล่อยออกมาในทันที

การออกแบบด้านหลัง จากการออกแบบรูปทรงโป่งล้อหลังขนาดใหญ่จึงเกิดรูปทรงที่ดูสมดุลแข็งแรงในด้านท้ายรถ และกระจกหลังที่ลาดเอียงรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวช่วยเพิ่มความสปอร์ตและความปราดเปรียวเป็นภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากรถเอสยูวีทั่วไป
การออกแบบล้ออัลลอยด์มี 2 แบบ ภายในแนวทางการออกแบบล่าสุด เน้นการออกแบบที่มีองค์ประกอบของความคล่องแคล่วปราดเปรียว ลงตัวเมื่อประกอบเข้ากับยาง สีภายนอกมีให้เลือก 4 สี โดยสีทีใช้ในการเปิดตัวได้แก่ สีฟ้า สกายบลู ไมก้า สีภายนอกอื่นๆได้แก่ สีขาว อาคทิคไวท์, สีเงิน อลูมินั่ม เมทัลลิค, และ สีเทา เมทีเออ เกรย์ ไมก้า
ภายในที่ดูมีพลังปราดเปรียว
การออกแบบภายในที่ให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางที่จะดึงดูดให้ผู้ขับขี่พร้อมที่จะจับพวงมาลัยและออกตัวในทุกจังหวะ มาตรวัดต่างๆ ออกแบบให้มีมิติ สร้างความสนใจและง่ายต่อผู้ขับขี่ในการรับรู้ถึงข้อมูลต่างๆ และการวางตำแหน่งที่เหมาะสม ออกแบบให้ชวนมอง การแสดงข้อมูลต่างๆ เฉกเช่นกับรถสปอร์ตของมาสด้า ตัวเรือนมาตรวัดออกแบบให้สามารถมองเห็นได้ง่ายชัดเจนและในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน พื้นของหน้าจอมาตรวัดออกแบบให้ดูมีมิติ เรียบหรู มาตรวัดเรืองแสงสีขาวโดยเปลี่ยนจากสีส้มหรือแดงในรถมาสด้าปัจจุบัน เข็มบอกตำแหน่งมาตรวัดออกแบบด้วยแนวเมทัลลิค ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตแบบคลาสสิกร่วมสมัย ในส่วนของผู้โดยสาร แผงคอนโซลและอุปกรณ์ต่างๆ ให้ความรู้สึกสบายแต่มีความมั่นใจ หนักแน่นด้วยชิ้นงานแนวนอนลากผ่านแนวยาวรวมถึงการตกแต่งด้วยวัสดุดำเงาเปียโนในส่วนคอนโซลกลางและแผงประตูให้ความหรูหราสง่างาม




การออกแบบภายในได้พัฒนาด้วยคอนเซ็ปต์ของการพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียด การผสมผสานขององค์ประกอบ และความรู้สึกถึงคุณภาพชั้นสูงที่สร้างความประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบชิ้นงานที่ขึ้นรูปด้วยพื้นผิวที่ต่อเนื่อง ความลงตัวขององค์ประกอบและโครงสร้างชิ้นงานในแต่ละชิ้นที่มารวมเข้าด้วยกัน
การเลือกสรรวัสดุด้วยความอุตสาหะมารวมกันเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ มาตรวัดและแผงประตู ทุกตารางพื้นที่ที่มองเห็นและสัมผัสบ่อยครั้ง ได้ออกแบบด้วยวัสดุที่นุ่มนวล และให้มีการออกแบบพื้นผิวชิ้นงานพลาสติกที่หรูหรามีดีไซน์ อุปกรณ์ที่ใช้งานและสัมผัสบ่อยครั้งเช่นก้านพวงมาลัย มือจับประตู ออกแบบด้วยวัสดุซาตินโครเมียม ให้ความรู้สึกถึงคุณภาพขั้นสูง ในภาพรวมการออกแบบภายในทำด้วยความพิถีพิถันด้วยคุณลักษณะของความสปอร์ตผสานกับความหรูหราเหนือระดับ
สมรรถนะการขับขี่ ที่มีผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางการควบคุมหลังพวงมาลัย
สมรรถนะการขับขี่ของมาสด้า CX-5 ได้พัฒนาด้วยสองมุมมอง ประกอบด้วยพฤติกรรมของตัวรถ และความรู้สึกของผู้ขับขี่ เพื่อบรรลุถึงการพัฒนาที่ตอบสนองความรู้สึกของผู้ขับขี่ ทางวิศวกรมาสด้ามุ่งเน้นความสะดวกในการใช้งานในทุกๆ จุดระหว่างรถและผู้ขับขี่ นั่นรวมถึงการบังคับเลี้ยวและการบังคับแป้นคันเร่งและเบรก การเพิ่มการรับรู้ของผู้ขับขี่ เพื่อลดสถานการณ์และพฤติกรรมของรถที่ไม่พึงประสงค์โดยผู้ขับขี่สามารถแก้ไขสถานะการณ์จากการรับรู้ถึงสถานการณ์ล่วงหน้า การพัฒนาจำเป็นต้องใช้ความวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมการตอบสนองของรถที่มีต่อการควบคุมและความตั้งใจของผู้ขับขี่ และการเพิ่มการรับรู้ข้อมูลให้กับผู้ขับขี่ให้ทันท่วงทีเพื่อช่วยในการควบคุมสถานการณ์ เราได้บรรลุถึงการควบคุมที่สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์ด้วยการกำหนดคุณลักษณะสำคัญสามประการได้แก่ การทำนายสถานการณ์ล่วงหน้า การสอดผสานการทำงานระหว่างผู้ขับขี่และรถอย่างแท้จริง
การสอดผสานการทำงานของระบบต่างๆ การทำนายสถานการณ์ล่วงหน้า (Predictability)
ความสามารถในการทำนายสถานการณ์ล่วงหน้าทำให้เรารับรู้การเปลี่ยนแปลงของรถและพฤติกรรมของรถที่ตอบสนองต่อการควบคุมและความตั้งใจของผู้ขับขี่ ผู้ขับขี่จึงสามารถตัดสินใจในการควบคุมได้ทันท่วงที ความสามารถในการควบคุมเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ถึงสถานการณ์ล่วงหน้าและความเข้าใจถึงพฤติกรรมของรถที่จะเกิดขึ้น

การสอดผสานการทำงานระหว่างผู้ขับขี่และรถอย่างแท้จริง (Synchronization)
ในการควบคุมการขับขี่นั้นเกิดมาจากการควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ อย่างเป็นขบวนการและต่อเนื่องทำให้เกิดการขับขี่ที่ราบรื่น การทำงานร่วมกันอย่างสอดผสานของระบบหนึ่งที่ไปเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการตอบสนองที่ดีและเป็นไปตามความตั้งใจของผู้ขับขี่ในทุกๆขั้นตอนโดยไม่ต้องมีเหตุหรือสถานการณ์ที่ต้องแก้ไข เป็นการสอดผสานการทำงานระหว่างผู้ขับขี่และรถอย่างแท้จริง การให้ความสำคัญในเรื่องของการรับรู้ข้อมูลตอบสนอง โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลตอบสนอง ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ถึงสถานการณ์การขับขี่ที่ถูกต้องสมบูรณ์หรือการขับขี่ที่ต้องการการควบคุมเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขสถานการณ์ เรามุ่งมั่นพัฒนาเพื่อคุณภาพของข้อมูลตอบสนองเพื่อการควบคุมรถที่มีประสิทธิภาพ
การสอดผสานการทำงานของระบบต่างๆ (Harmonization)
ในขณะขับขี่การสอดผสานการทำงานของระบบต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เกิดการควบคุมตามความตั้งใจของผู้ขับขี่โดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ด้วยตัวเอง เป้าหมายของเราคือทำให้ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ถึงการควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้ดังใจ การบังคับควบคุม การบังคับเลี้ยว การหยุดรถ เมื่อสถานการณ์ที่หลากหลาย เราทำให้การทำงานของแต่ละระบบสอดผสานกันโดยสมบูรณ์แบบ
สำหรับมาสด้า CX-5 เป้าหมายของเราคือความสามารถในการทำนายสถานการณ์ การควบคุมที่ตอบสนอง จึงส่งผลให้เกิดประสบการณ์การขับขี่อย่างเพลิดเพลินตั้งแต่เริ่มสตาร์ทรถ และมันเป็นความรู้สึกที่ต่อเนื่อง ในทุกขั้นตอนของการขับขี่

ระบบขับเคลื่อนสกายแอคทีฟ
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน สกายแอคทีฟ-จี (SKYACTIV-G)
การคิดค้นเครื่องยนต์เผาไหม้ในอุดมคติ เครื่องยนต์เบนซินเจนเนอเรชั่นใหม่ประสิทธิภาพสูง SKYACTIV-G 2.0L และ 2.5L ไดเร็กอินเจ็คชั่น ให้แรงบิดที่สูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำช่วยให้เกิดอัตราการเร่งที่ดีให้การควบคุมอย่างแม่นยำดั่งใจผู้ขับขี่และให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เบื้องหลังความสำเร็จคือการบรรลุถึงค่าการอัดอากาศที่ 14.0:1* ระบบไอเสีย 4-2-1 การออกแบบความยาวท่อร่วมไอเสียที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดอุณหภูมิสะสมที่สูงขึ้นเนื่องจากก๊าซไอเสียจากห้องเผาไหม้ จึงเป็นการป้องกันการเกิดการน็อค เนื่องจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์

ทำให้เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.0L ให้แรงบิดสูงสุดถึง 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000รอบ และกำลังสูงสุดถึง 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ และยังประหยัดได้ถึง 16.4 กม./ลิตร**
เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.5L ให้แรงบิดสูงสุดถึง 256 นิวตันเมตร ที่ 3,250รอบ และกำลังสูงสุดถึง 192 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ และยังประหยัดได้ถึง 15.2 กม./ลิตร **
(*: ค่าการอัดอากาศ 14.0:1 ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0L และ 13.0:1 ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.5L)
(**: อ้างอิงผลการทดสอบรถมาสด้า CX-5 ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นตามมาตรฐานการทดสอบ JC08)

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟดีเซลสะอาด สกายแอคทีฟ-ดี (SKYACTIV-D)
แรงบิดสูงและการเผาไหม้สะอาด รอบจัด ตอบสนองดี และสนุกในการขับขี่มากกว่าเดิม: มาสด้าได้ยกระดับกำลังของเครื่องยนต์ดีเซลด้วยSKYACTIV-D 2.2L อัตราส่วนการอัดมีบทบาทสำคัญในฐานะที่เป็นกระบวนการภายในที่ได้ถูกปรับปรุงอย่างสมบูรณ์ ผลลัพธ์ที่ได้คือพลังงานที่มีประสิทธิภาพจากการออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อบรรลุมาตรฐานสูงสุดด้านสิ่งแวดล้อมโดยไม่ต้องใช้ระบบบำบัดไอเสียพิเศษ การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงประมาณ 20% (เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล MZR-CD ขนาด 2.2 ลิตร ของมาสด้าในปัจจุบัน) เนื่องจากอัตราส่วนการอัดที่ต่ำถึง 14:1 และช่วงการขยายตัวมากขึ้นแบบต่อเนื่องหลังการเผาไหม้ ระยะยกวาล์วแปรผันด้านไอเสียทำให้การนำไอเสียกลับมาใช้ใหม่เกิดขึ้นภายในได้ สิ่งนี้ทำให้การเผาไหม้มีเสถียรภาพอย่างทันทีหลังสตาร์ทในขณะเครื่องยนต์เย็น เทอร์โบชาร์จเจอร์สองขั้น Two-stage Turbocharge เทคโนโลยีหัวฉีด Piezo ควบคุมองศาและละอองของน้ำมันด้วยความแม่นยำสูง ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องตลอดช่วงความเร็วรอบ (สูงสุด 5,200 รอบต่อนาที) มีน้ำหนักลดลง ทำให้เครื่องยนต์SKYACTIV-D 2.2L ให้แรงบิดสูงสุดถึง 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000รอบ และกำลังสูงสุดถึง 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ และยังประหยัดได้ถึง 18 กม./ลิตร **
(**: อ้างอิงผลการทดสอบรถมาสด้า CX-5 ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นตามมาตรฐานการทดสอบ JC08)

สำหรับเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ สกายแอคทีฟ-ไดรฟ์ (SKYACTIV-DRIVE) มาสด้าได้พัฒนาเกียร์อัตโนมัติที่รวบรวมเอาจุดเด่นของระบบเกียร์อัตโนมัติอื่นๆ ที่ทันสมัยในปัจจุบัน เป็นผลให้เกิดความสมดุลระหว่างการควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่กระชับแม่นยำตอบสนองโดยตรงเฉกเช่นเกียร์ธรรมดาและการเปลี่ยนเกียร์อย่างราบรื่นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากการปรับปรุงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยการเพิ่มช่วงการล็อคอั๊พ Lock-up range เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟสามารถให้การควบคุมการส่งถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพสูง
โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ สกายแอคทีฟ-บอดี้ (SKYACTIV-BODY)
และช่วงล่างสกายแอคทีฟ สกายแอคทีฟ-แชสซี (SKYACTIV-CHASSIS)
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัทที่พัฒนาขึ้นใหม่และช่างล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ช่วยให้ช่วงล่างสกายแอคทีฟ สามารถให้การขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวระหว่างรถและผู้ขับขี่ตามแบบฉบับของมาสด้าหรือ Jinba-Ittai คุณสมบัติการออกแบบเชิงเรขาคณิตที่นำมาใช้เพื่อออกแบบคุณลักษณะที่ดีของชิ้นส่วนการรองรับการสะเทือนทำให้เกิดการตอบสนองและง่ายของระบบบังคับเลี้ยวที่ความเร็วต่ำถึงระดับปานกลาง ไปจนถึงการขับขี่อย่างมีเสถียรภาพที่ความเร็วสูง คุณลักษณะของช๊อคอัพหลังที่ออกแบบให้ตำแหน่งและมุมของการทำงานเป็นแนวลาดเอียงไปข้างหน้า ให้ความนุ่มสบายในการขับขี่แม้ในสภาพถนนที่ขรุขระ
ระบบบังคับเลี้ยวผ่อนแรงด้วยพลังงานไฟฟ้าพัฒนาขึ้นใหม่ให้การควบคุมที่แม่นยำในทุกช่วงการขับขี่ในทุกจังหวะและองศาของการควบคุมพวงมาลัยเป็นไปอย่างแม่นยำ ในการขับขี่ที่ความเร็วสูง การควบคุมที่ให้เสถียรภาพสูงมั่นใจ สมรรถนะการหยุดรถที่ตอบสนองมั่นใจ ง่ายในการควบคุมทุกช่วงความเร็ว
น้ำหนักที่เบาแต่ยังให้ความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถัง ที่ให้ความสมบูรณ์ของเสถียรภาพการควบคุม การลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร สมรรถนะความปลอดภัยจากการชนปะทะ การใช้เหล็กแข็งรับแรงกระแทกคุณภาพสูงพิเศษ เป็นสัดส่วนสูงถึง 61% รวมถึงการใช้เหล็กที่ทนทานมากที่สุดในโลกที่สามารถรับแรงดันได้ถึง 1,800 MPa
ความพิถีพิถันในการพัฒนาการลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับรู้กับเสียงที่จำกัดและจำเป็น ในขณะที่เสียงรบกวนถูกกำจัดออกไป เสียงรบกวนสู่ห้องโดยสารประกอบด้วยเสียงที่มาจากพื้นถนนและจากเครื่องยนต์ เสียงรบกวนที่ไม่พึงปรารถนาทั้งในช่วงความถี่ต่ำ ปานกลางและสูง ถูกระบุที่มาและทำการกำจัดเพื่อความเงียบและคุณภาพของห้องโดยสาร
การพัฒนาการไหลของอากาศที่ดีโดยไม่ก่อให้เกิดการแรงต้านในทางตรงกันข้าม การไหลผ่านของอากาศไปด้านบนของตัวรถเป็นสิ่งสำคัญโดยการออกแบบรูปแบบภายใต้ตัวถังใหม่เพื่อลดแรงต้านหรือแรงยกตัวของอากาศ เป็นการเพิ่มคุณสมบัติอากาศพลศาสตร์ให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งการออกแบบรูปทรงตัวถังที่ให้คุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดี มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.33

ความสะดวกสบายและความเป็นเอนกประสงค์
ความสะดวกสบายและความสามารถในการรองรับการใช้งานที่หลากหลายทำให้มาสด้า CX-5 ตอบสนองการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ห้องโดยสารอออกแบบให้มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน การตรวจสอบการออกแบบในทุกๆ องค์ประกอบเพื่อให้แน่ใจว่าทุกจังหวะและทุกขั้นตอนของการใช้งานไม่มีข้อจำกัดเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์อย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้เกิดความสะดวกสบาย ตอบสนองการใช้งานการออกแบบให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางของการควบคุมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งการออกแบบพื้นที่การใช้งาน จึงให้ประโยชน์การใช้งานสูงสุด อีกทั้งให้ความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ขับขี่และอุปกรณ์ที่ใช้ Human-machine interface (HMI) การแสดงข้อมูลต่างๆ ที่ง่ายในการรับรู้เพียงแค่เหลียวมอง มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาธิกับการขับขี่ได้อย่างเต็มที่
ความยาวฐานล้อของมาสด้า CX-5 มีขนาด 2,700 มม. ช่วยให้มีระยะในการออกแบบด้านข้างตัวรถที่โฉบเฉี่ยว และเพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสารให้ใช้ประโยชน์และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พื้นที่ช่วงเหนือศีรษะ ช่วงไหล่ และช่วงขา จัดว่าดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ผู้โดยสาร 4 คนสามารถเปลี่ยนทวงท่าได้อย่างอิสระและสะดวกสบาย พนักพิงของที่นั่งออกแบบให้มีตำแหน่งและองศาที่เหมาะสมช่วยลดความเครียดหรือความอ่อนล้าที่สะสมเมื่อนั่งโดยสารทางไกลจึงให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ผู้โดยสารด้านหลังสามารถสะดวกสบายกับพื้นที่ช่วงขาที่กว้างถึง 997 มม. และพื้นที่ช่วงเข่าที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันมีขนาดกว้างถึง 66 มม, สามารถมีพื้นที่ในการยืดขาได้อย่างสบาย

การออกแบบพื้นที่ในการเข้า-ออกรถที่สะดวกการใช้ภาพถ่ายที่จับการเคลื่อนไหว และการจำลองสถานการณ์จากเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ในขณะเข้าและออกจากรถ มาประมวลผลและทำการออกแบบเพื่อให้ช่องว่างและพื้นที่ของตัวรถสอดผสานกับทวงท่าได้ลงตัว ยิ่งกว่านั้นการออกแบบที่ไม่เหมือนกับรถเอสยูวีทั่วไป เราออกแบบให้ประตูปิดครอบคลุมขอบประตู โดยพื้นที่ขอบประตูเป็นพื้นที่แคบๆและสะอาดเพราะประตูปิดทับเอาไว้ และนั่นไม่ได้หมายความว่าการก้าวขึ้นบนรถจะทำได้ง่ายแต่เพียงอย่างเดียวแต่ยังช่วยป้องกันเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนขณะก้าวขึ้น-ลง
ที่นั่งถูกออกแบบให้มีความสบายและรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม โครงสร้างภายในของเก้าอี้ออกแบบให้มีความมั่นคงด้วยเฟรมภายในที่รองรับจุดต่างๆ ที่สำคัญ เบาะนั่งออกแบบด้วยรูปทรงที่นั่งสบาย พนักพิงออกแบบให้รองรับร่างกายส่วนล่างและส่วนบนได้อย่างมั่นคงรวมถึงการประคับประคองร่างกายขณะเข้าโค้ง
มาสด้า CX-5 ที่นั่งปรับควบคุมด้วยไฟฟ้าแบบ 8 ทิศทาง ระยะการปรับเลื่อนตำแหน่งเก้าอี้กว้างถึง 260 มม. เบาะนั่งปรับเอนได้มากสุดถึง 98 องศา และปรับระดับความสูงขึ้น-ลง ถึง 50 มม. เบาะนั่งปรับเอียงได้ 30 มม. (เฉพาะที่นั่งที่ปรับได้ 8 ทิศทาง) ทำให้สามารถปรับตำแหน่งการนั่งเพื่อรองรับขนาดสรีระของผู้โดยสารที่หลากหลายให้ความสบายได้ทุกคน เพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับตำแหน่งการนั่ง วิศวกรมาสด้านำคอนเซ็ปต์ของตำแหน่งการขับขี่ที่ดีที่สุดมาวิเคราะห์เพื่อออกแบบให้ การปรับตำแหน่งที่นั่งสามารถปรับไปอยู่ในตำแหน่งของการขับขี่ที่ดีที่สุดได้แม้ผู้ขับขี่จะมีสรีระและขนาดของร่างกายที่หลากหลายและแตกต่างกัน การออกแบบตำแหน่งที่ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด ตั้งแต่ตำแหน่งพวงมาลัย แป้นบังคับควบคุมที่เท้า คันเกียร์ ไปจนถึงสวิทช์ต่างๆ ถูกกำหนดให้ถูกหลักของการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ขับขี่และอุปกรณ์ที่ใช้ Human-machine interface (HMI) อีกทั้งให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน
ความสะดวกสบายในทุกองค์ประกอบที่เป็นไปได้
มาสด้า CX-5 ใช้นวัตกรรมการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ให้ความยืดหยุ่นในการเพิ่มความสะดวกสบาย การออกแบบที่นั่งด้านหลังแบบ 40:20:40 แยกปรับพับได้ ควบคุมด้วยคันบังคับควบคุม เป็นครั้งแรกของโลก ช่วยให้สะดวกสบาย ในการปรับพื้นที่การเก็บสัมภาระ คันบังคับควบคุมติดตั้งในตำแหน่งตรงด้านบนของแผ่นคลุมที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถ เพื่อควบคุมการพับเบาะให้พับลาดลงไปในแต่ละส่วนทั้งพนักพิงด้านซ้าย ตรงกลาง และด้านขวา ถึงแม้ว่าที่นั่งด้านหลังจะติดตั้งเก้าอี้เด็ก (Child seat) พนักพิงตรงกลางก็ยังสามารถพับลาดลงกับพื้นได้เพื่อวางสัมภาระในเวลาเดียวกัน และเมื่อพนักพิงทั้งสามส่วนพับลาดลงในแนวราบพร้อมกันพื้นที่ของการเก็บสัมภาระจะมีความจุมากเพียงพอที่จะรองรับการใช้งานการบรรทุกของจำนวนมากได้ตามความต้องการ

เมื่อที่นั่งด้านหลังมีผู้โดยสารเต็มพื้นที่ ขนาดพื้นที่เก็บสัมภาระยังมีความจุถึง 490 ลิตร (VDA) มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะวางกระเป๋าเดินทาง Samsonite ขนาด 67 ซม. ซึ่งเกิดจากการออกแบบห้องโดยสารให้โล่งที่สุดและไม่มีชิ้นส่วนที่ยื่นออกมาทำให้เกิดพื้นที่ส่วนเกินที่ไม่สามารถใช้งานได้ และเมื่อพนักพิงทั้งสามส่วนพับลาดลงในแนวราบพร้อมกันพื้นที่ของการเก็บสัมภาระมีความจุถึง 1,390 ลิตร (VDA) สามารถวางจักรยานเสือภูเขาได้ 2 คัน โดยถอดล้อหน้าของจักรยานออก แนวคิดการออกแบบภายในที่ชาญฉลาดและได้รับการยอมรับของมาสด้าที่เรียกว่าคาราคูริ Karakuri ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบแผ่นปิดคลุมที่เก็บสัมภาระด้านท้าย Tonneau Cover ซึ่งควบคุมการปิด-เปิด ด้วยการเปิด-ปิด ฝาท้าย ทำให้ง่ายและสะดวกในการเคลื่อนย้ายสัมภาระเข้า-ออก อีกทั้งแผ่นปิดคลุมที่เก็บสัมภาระด้านท้าย Tonneau Cover สามารถถอดออกได้อย่างสะดวกง่ายดาย
พื้นที่เก็บสัมภาระถูกออกแบบโดยคำนึงถึง ความสามารถในการบรรทุก ความสามารถในการถอดประกอบ และความสามารถในการมองเห็น เพื่อให้แน่ใจกับการใช้งานที่ง่าย สะดวก และตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบ ดังนั้นมาสด้าCX-5 จึงมีพื้นที่และความจุในการเก็บสัมภาระที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ารถเอสยูวี อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการพื้นที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์เพื่อรองรับทั้งผู้โดยสารและสัมภาระในเวลาเดียวกัน รวมถึงพื้นที่ด้านหน้าของห้องโดยสาร อาทิเช่น พื้นที่บริเวณด้านหน้าของคันเกียร์ที่ออกแบบให้เปิดกว้างเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถจัดวางของที่ใช้งานบ่อยๆ หรือเป็นครั้งคราวตามความสะดวก ตัวอย่างเช่นกล้องถ่ายภาพดิจิตอล และเป็นครั้งแรกในรถเอสยูวีที่มีที่วางขวดน้ำขนาดใหญ่ถึง 1 ลิตร ที่แผงประตูทั้งด้านหน้าและหลัง
ความพิถีพิถันในการออกแบบระบบปรับอากาศที่ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นถึง 6% เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศทั่วไป และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นให้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน ทำให้เพิ่มความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิเพื่อความสบายของห้องโดยสาร
มาสด้า CX-5 มีระบบเครื่องเสียงที่ให้สุนทรียภาพที่ดีที่สุดรวมถึงระบบเครื่องเสียงพรีเมียมจาก BOSE® เป็นอุปกรณ์ให้เลือก ที่ให้คุณภาพสูง และประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานและมีน้ำหนักเบา แอมพลิไฟเออร์แบบดิจิตอลสมรรถนะสูงมีน้ำเบาเพียงแค่ 0.7 กก. AudioPilot® 2 และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพการฟังในขณะขับขี่ ระบบ Centerpoint® Surround Sound เทคโนโลยีที่ส่งกระจายเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีคุณภาพ

นวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่สนับสนุนสมรรถนะการขับขี่
มาสด้า CX-5 มีสมรรถนะด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องประนีประนอมกับการลดสามรรถนะการขับขี่แต่อย่างใด แนวทางพื้นฐานของเราในการพัฒนาสมรรถนะด้านความปลอดภัยคือการเพิ่มความสามารถในการรับรู้สถานการณ์ตามธรรมชาติเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และสามารถเพลิดเพลินในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น เรามุ่งเน้นการขับขี่ที่ผู้ขับขี่สามารถได้รับประสบการณ์ที่เพลิดเพลินในการบังคับควบคุมรถ และในทุกๆ องค์ประกอบในการขับขี่ ทั้งการบังคับเลี้ยว การหยุดรถ ทัศนะวิสัย และการทำงานกับตัวรถ จากการลดน้ำหนักของรถ โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ ที่แข็งแกร่งจึงทำให้มาสด้า CX-5 มีสมรรถนะด้านการป้องกันจากการชนปะทะที่ดีเยี่ยมสามารถผ่านมาตรฐานการทดสอบที่เข้มงวดจากทั่วทุกมุมโลกและได้รับคะแนนที่สูงสุด
การออกแบบเพื่อความปลอดภัย
การออกแบบภายใน รูปทรงของเสาเอที่ลาดเอียงไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มทัศนะวิสัยในการขับขี่ที่ดีในทางโค้งและตามแยกของถนน กระจกมองข้างที่ยึดติดเข้ากับตัวรถที่ประตู เพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างกระจกมองข้างและเสาเอเพื่อเพิ่มทัศนะวิสัยในรอบด้านของผู้ขับขี่
ฟังก์ชั่นการทำงานด้านความปลอดภัยที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับรู้และเฝ้าระวังของผู้ขับขี่ ระบบ Hill Launch Assist (HLA) จะช่วยควบคุมรถในการออกตัวจากหยุดนิ่งบนเนินหรือทางชัน ไม่ให้รถเกิดการลื่นไถลขณะเริ่มออกตัว ช่วยให้รถออกตัวได้อย่างปลอดภัยมั่นใจ

โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ สกายแอคทีฟ-บอดี้ (SKYACTIV-BODY)
SKYACTIV-BODY โครงสร้างตัวถังเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ให้สมรรถนะด้านความปลอดภัยจากการชนปะทะที่ดีเยี่ยม ในขณะที่โครงสร้างมีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแกร่งสูง เป็นที่คาดการณ์ได้ว่ามาสด้า CX-5 ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดจากทั่วโลก และจะได้รับคะแนนในการทดสอบที่ดีที่สุด การออกแบบโครงสร้างที่สามารถซับและกระจายแรงได้ในหลายทิศทางและการออกแบบรูปทรงและหน้าตัดของเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้าเพื่อรองรับพลังงานจากการชนปะทะอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยจากการชนปะทะด้านข้างและด้านหลัง ถุงลมนิรภัยด้านหน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ที่นั่งและพนักพิงศีรษะด้านหน้าออกแบบด้วยระบบ Anti-whiplash ที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่คอจากการชนปะทะด้านหลัง

ราคาจำหน่าย ALL New Mazda CX-5 มีทั้งหมด 4 รุ่น
Mazda CX-5 รุ่น 2.0 C เครื่องยนต์เบนซิน 2000 ซีซี ราคาจำหน่าย 1,200,000 บาท
Mazda CX-5 รุ่น 2.0 S เครื่องยนต์เบนซิน 2000 ซีซี ราคาจำหน่าย 1,300,000 บาท
Mazda CX-5 รุ่น 2.5 S เครื่องยนต์เบนซิน 2500 ซีซี ราคาจำหน่าย 1,440,000 บาท
Mazda CX-5 รุ่น XDL เครื่องยนต์ดีเซล 2200 ซีซี ราคาจำหน่าย 1,670,000 บาท