บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทยประจำปี 2559 ด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงสุด (มกราคม-ธันวาคม 2559) จำนวนทั้งสิ้น 107,342 คัน (นับรวมฮอนด้า บีอาร์-วี เอชอาร์-วี และซีอาร์-วี) มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 32.7% จากเดิม 31.5% (ในปี 2558) และสามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้ถึง 2 ปีติดต่อกัน คือในปี 2559 และในปี 2558
ยอดจำหน่ายในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีจำนวนรวม 328,053 คัน มีอัตราลดลง 7.9% เมื่อเปรียบเทียบกับยอดจำหน่ายของปี 2558 (356,065 คัน) ในขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดรวมมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 768,788 คัน (ซึ่งรวมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล) มีอัตราลดลง 3.9% เมื่อเปรียบเทียบกับยอดจำหน่ายของปี 2558 (799,632 คัน)
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจ และภาพรวมตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมาจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ส่วนแบ่งการตลาดของฮอนด้ากลับเพิ่มสูงขึ้น และสามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้ถึง 2 ปีติดต่อกัน นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของฮอนด้า ที่เกิดจากความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เสมอมา รวมถึงเกิดจากกระแสตอบรับที่ดีต่อยนตรกรรมรุ่นใหม่ที่เปิดตัวหลายรุ่น อาทิ บีอาร์-วี ซีวิค แอคคอร์ค และแอคคอร์ค ไฮบริด”
สำหรับในปี 2560 นี้ ฮอนด้ายังคงนำเสนอยนตรกรรมอีกหลายรุ่น เริ่มต้นด้วยการปรับโฉม ฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งเป็นยนตรกรรมซับคอมแพคท์ยอดนิยมที่มียอดขายสูงที่สุดในเซกเมนต์ โดย ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ นี้ ได้มีการยกระดับความหรูหราและความสปอร์ตยิ่งขึ้นทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน เพื่อช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับชีวิตยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ฮอนด้ายังมีแผนจะเปิดตัวรถรถยนต์อีกหลายรุ่นภายในปีนี้ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน พร้อมมุ่งมั่นยกระดับการบริการ เพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
“นอกเหนือจากความสำเร็จด้านยอดขายแล้ว แต่สิ่งที่น่าภูมิใจมากกว่านั้น คือการได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA-Thailand Automotive Quality Award) ด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน (2555-2559) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ รวมถึงการบริการที่มีคุณภาพจากฮอนด้า และยังสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจที่มีต่อการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในด้านต่างๆ โดยฮอนด้าจะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์ และนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่” นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติม
เมื่อเร็วๆ นี้ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย สานต่อภารกิจช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ประชาชนชาวไทยในยามประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมมูลค่าถึง 30 ล้านบาท ประกอบด้วยเงิน 10 ล้านบาท พร้อมเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจำนวน 700 เครื่อง มูลค่าอีก 20 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ประสบอุทกภัยใน 12 จังหวัดภาคใต้ ในงาน “ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้” โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2559 กองทุนฯ ได้จัดส่งถุงยังชีพจำนวน 4,500 ชุด พร้อมสิ่งของจำเป็นเช่น น้ำดื่ม เสื้อยืด เสื้อชูชีพ เต้นท์ รวมมูลค่า 3.5 ล้านบาท ไปให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี และพัทลุง และสำหรับลูกค้ารถยนต์ฮอนด้า บริษัทฯ ยังได้มอบความช่วยเหลือเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ด้วยการมอบส่วนลดค่าอะไหล่ 30% (สำหรับรายการที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขการประกันภัย) อีกด้วย