วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ซูซูกิ ถือเป็นหนึ่งในผู้นำรถยนต์อีโคคาร์ มีอัตราการเติบโตที่ 108.96 % โดยที่ผ่านมาผลิตรถยนต์อีโคคาร์ที่มีคุณภาพมากถึง 3 รุ่น ตั้งแต่ Suzuki Swift คอมแพคท์คาร์ที่มีดีไซจ์นและเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง Suzuki Ciaz อีโคคาร์ที่กำหนดนิยามใหม่ที่มากกว่าคำว่าอีโคซีดาน มีจุดเด่นที่เหนือกว่ารถซีดานในระดับเดียวกัน และ Suzuki Celerio ด้วยเครื่องยนต์ K10B 1.0 ลิตร ขนาดคอมแพคท์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้กำลังและความคล่องตัวสูง มีสมรรถนะการขับที่ดี ในขณะที่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ ยังได้ส่งออกรถยนต์อีโคคาร์ทั้ง 3 รุ่น ไปยังกลุ่มประเทศยุโรป อาเซียน และโอเชียเนีย เริ่มตั้งแต่ปี 2555 แล้วกว่า 93,000 คัน และปัจจุบัน ซูซูกิ มียอดจำหน่ายรถยนต์อีโคคาร์ภายในประเทศรวม 100,664 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 14.05 % พิสูจน์ความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์อีโคคาร์ได้อย่างชัดเจน สำหรับในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33" ซูซูกิ ขอแนะนำรถยนต์ 2 รุ่นเพิ่มเติม คือ Suzuki Ertiga GX และ Suzuki Celerio Limited โดย Suzuki Ertiga GX เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่ง การออกแบบภายนอกและภายใน ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม ที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยอย่างครบครัน ทั้งระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า กุญแจนิรภัย Immobilizer โครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าน้ำหนักเบาแข็งแกร่งทนทาน ระบบเบรค ABS และ EBD อีกทั้งสัญญานเตือนขณะถอยหลัง เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสรรเข้ากับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ในราคาที่เหมาะสมเพียง 695,000 บาท โดยสีขาวเพิ่ม 5,000 บาท สำหรับ Suzuki Celerio Limited เป็นคอมแพคท์คาร์รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับสีสัน ดีไซน์ทูโทนแนวสปอร์ทรอบคัน ไปได้ทุกที่ด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะเกินตัว โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ Suzuki Celerio GA Limited ในราคาเดิม 366,000 บาท และ Suzuki Celerio GL Limited ในราคา 446,000 บาท วัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ ซูซูกิ ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถกระบะบรรทุกขนาดเล็กเชิงพาณิชย์ Suzuki Carry นอกจากความโดดเด่นในเรื่องความแข็งแกร่ง รองรับการบรรทุกได้อย่างทนทาน และมีความประหยัดน้ำมัน ยังสามารถนำมาสร้างสรรค์ต่อยอดธุรกิจขึ้นไปอีกขั้นกับการดัดแปลงเป็นร้านค้า หรือร้านอาหารเคลื่อนที่ได้อย่างสวยงามหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบรับกับสไตล์ของผู้ประกอบการยุคใหม่ที่กำลังวางแผนสร้างธุรกิจส่วนตัว โดย ซูซูกิ ยังได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านข้อมูลแก่ลูกค้าอย่างครบวงจร นับตั้งแต่รับปรึกษาการออกแบบรถฟูดทรัคส์ ไปจนถึงการวางแผนด้านสินเชื่อกับธนาคารที่มีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งเป็นการบริการที่ตอบโจทย์ครบทุกด้าน เพื่อให้ลูกค้าพร้อมออกไปดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ซูซูกิ ได้เดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดและเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยยังคงเน้นกลยุทธ์ในการทำ Sport Marketing อย่างต่อเนื่อง โดย ซูซูกิ ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมพ์แห่งชาติอาเซียน AFF Suzuki Cup 2016 เป็นปีที่ 5 ซึ่งมี คุณซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โคชฟุตบอลทีมชาติไทยให้เกียรติมาเป็นบแรนด์แอมบาสซาเดอร์ เพื่อถ่ายทอดความเป็น Suzuki Way of Life! และเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างบแรนด์ ซูซูกิ กับลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ซูซูกิ ยังคงเน้นแผนยุทธศาสตร์เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่กลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งจากผลการจัดอันดับจากการศึกษาวิจัย SSI ในประเทศไทย ประจำปี 2559 โดย เจ.ดี. พาวเวอร์ (J.D. Power 2016 Thailand Sales Satisfaction Index (SSI) Study,SM) ซูซูกิ สามารถขึ้นครองลำดับ 4 ของการให้บริการงานขายที่สร้างความพึงพอใจโดยรวมสูงสุดในกลุ่มรถยนต์บแรนด์ยอดนิยม ในประเทศไทยปี 2559 ด้วยคะแนน 813 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน) เป็นการยืนยันและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าถึงคุณภาพในการบริการงานขายและดูแลเอาใจใส่ลูกค้าที่เป็นครอบครัว ซูซูกิ อีกทั้งพร้อมขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์บริการจำนวนกว่า 101 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนเพิ่มเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการเป็น 120 แห่งทั่วประเทศไทย ภายในปี 2560 ทั้งนี้ ซูซูกิ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถสร้างความพึงพอใจสูงสุดและเหนือความคาดหวังแก่ลูกค้าทุกท่าน ด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการดีมีคุณภาพจาก ซูซูกิ ซึ่ง ซูซูกิ พร้อมจัดโปรโมชันพิเศษเลือกรับ iPHONE 7 และข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านที่มาเยี่ยมชมที่บูธ ซูซูกิ โดย ซูซูกิ คาดการณ์ยอดขายช่วงงาน Motor Expo 2016 นี้ กว่า 1,200 คัน