บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรม 7 รุ่นใหม่ นำโดย The new E-Class เจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่สุดแห่งยนตกรรมซีดานอัจฉริยะ ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น ทรงพลัง มาพร้อมเทคโนโลยี เพื่อการขับขี่อย่างเหนือระดับ The S 500 e และ The C 350 e รถยนต์เทคโนโลยีปลั๊กอิน-ไฮบริด รุ่นประกอบในประเทศ The new C-Class Coupé ยนตกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้ เจนเนอเรชั่นล่าสุด The new GLS “เอสยูวี ระดับเอส-คลาส” ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอรถยนต์ตระกูลเอสยูวีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และสองยนตรกรรมจากค่าย Mercedes-AMG ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 และ Mercedes-AMG C 63 S Coupé เสริมทัพด้วย The new Vito concept และรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อีกกว่า 30 รุ่นมาจัดแสดงในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 37 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2559 นี้ บริษัทฯ มีแนวทางการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ “เดอะ เบสท์” (THE BEST) เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าในวันนี้ และวันข้างหน้า ดังนั้นการนำเสนอรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 37” ในครั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้นำสุดยอดยนตรกรรมที่มาพร้อมเทคโนโลยี และดีไซน์อันทันสมัยครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Compact Car กลุ่ม Contemporary Luxury และกลุ่ม Dream Car เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมในทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่”
“สำหรับไฮไลท์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 คือ การเปิดตัว The new E-Class เจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่สุดแห่งยนตกรรมซีดานอัจฉริยะในกลุ่ม Contemporary Luxury โดยตลอดเวลาที่ผ่านมารถยนต์ตระกูล E-Class เป็นหัวใจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพราะได้สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับกลุ่มรถยนต์สำหรับนักธุรกิจอยู่เสมอ และบริษัทฯ ยังคงสานต่อแนวคิดดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new E-Class จึงมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ทรงพลัง ทุกองค์ประกอบสอดรับกัน เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แบบตามหลัก Sensual Purity ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และนำเสนอเทคโนโลยียนตรกรรมใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกของโลก ยกระดับแนวคิดการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติไปอีกขั้น อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ที่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำลง และได้รับการสรรสร้างให้ขับขี่สนุกขึ้นเพื่อมอบสุนทรีย์ให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย”
มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เตรียมเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ 7 รุ่น นำทัพด้วย The new E-Class, The S 500 e และThe C 350 e รถยนต์เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นประกอบในประเทศ (Local production) และ The new C-Class Coupé ยนตกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้ เจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมด้วย The new GLS, และยนตรกรรมจากแบรนด์ Mercedes-AMG ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 และ Mercedes-AMG C 63 S Coupé อีกทั้งยังได้นำ The new Vito concept และยนตรกรรมอีกกว่า 30 รุ่น ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์มาจัดแสดงให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด”
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า
นอกเหนือจากขบวนรถยนต์มากมายที่นำมาจัดแสดงในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเตรียมข้อเสนอพิเศษสุดเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ลูกค้า ดังนี้
แคมเปญ MercedesCard
• สมัครบัตรเครดิตเมอร์เซเดสการ์ดใบใหม่วันนี้ รับ Cash back สูงสุด
5,000 บาท* (ตรวจสอบเงื่อนไข ณ จุดขาย)
• สำหรับผู้ถือบัตรเมอร์เซเดสการ์ด – เมื่อจองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายในงานผ่านบัตรเมอร์เซเดสการ์ด 200,000 บาทขึ้นไป รับบัตรกำนัลที่พักโรงแรมมูลค่า 10,000 บาท
ข้อเสนอสุดพิเศษจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง
• สำหรับผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์ภายในงาน บริษัทฯ นำเสนอสินเชื่อภายใต้โปรแกรม mySTAR Special
The new E-Class
The new E-Class โมเดลล่าสุดนี้ ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 10 ในตระกูล E-Class ได้รับการ ยกย่องให้เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซีดานอัจฉริยะ ทั้งในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ช่วยลด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อยก๊าซ CO2 ลงได้อย่างดีเยี่ยม ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้การขับขี่และโดยสารมีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED แบบความละเอียดสูง รวมถึงระบบ Active Light ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกของโลก สำหรับ The new E-Class ในประเทศไทย มีให้เลือกสรร 2 ดีไซน์ คือ The new E 220 d Exclusive และ The new E 220 d AMG Dynamic
ดีไซน์ภายนอก The new E-Class มีขนาดตัวถังและฐานล้อที่ยาวและกว้างขึ้น ผสานกับ ฝากระโปรงหน้าที่ดูยาว เส้นสายของส่วนหลังคาที่ออกแบบในสไตล์รถคูเป้ ทอดตัวเป็นเส้นโค้งยาวจรดด้านหลังของตัวรถ นอกจากนี้ รูปลักษณ์ด้านหลังของตัวรถได้รับการออกแบบให้ซุ้มล้อหลังดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของสมาชิกใหม่ในกลุ่มรถซาลูนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมติดตั้งโคมไฟท้ายแบบชิ้นเดียวโดยด้านในโคมแบ่งออกเป็นสองส่วน ทำให้มีรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามอย่างมีระดับ สำหรับ ดีไซน์ภายใน เบาะที่นั่ง ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของรถตระกูลนี้ สำหรับรุ่น The new E 220 d AMG Dynamic จะมาพร้อมกับชุดหน้าจอ ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ของรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ ที่มีการติดตั้งจอดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟ สร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี
The new E-Class มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ และระบบเกียร์อัตโนมัติชุดใหม่ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยง จากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ มากขึ้น ประกอบกับโครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ และมีน้ำหนักเบาลงส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร*และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงแค่ 102 กรัม/กิโลเมตร*
*อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และ อัตราการปล่อย CO2 อ้างอิงจากการทดสอบตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับรถยนต์คันใดคันหนึ่งโดยเฉพาะและไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อผูกมัดในการเสนอขายสินค้าได้
• E 220 d Exclusive ราคา 3,990,000 บาท
• E 220 d AMG Dynamic ราคา 4,790,000 บาท
The S 500 e
The S 500 e คือ รถยนต์ซีดานระดับพรีเมี่ยมที่ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องยนต์ไฮบริด นวัตกรรมด้านยานยนต์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ และภาพลักษณ์อันหรูหราของรถยนต์ตระกูล S-Class เข้าไว้ด้วยกัน สำหรับ The S 500 e มีให้เลือก 2 ดีไซน์ด้วยกัน คือ The S 500 e Exclusive และ The S 500 e AMG Premium โดยยังคงสมรรถนะ ที่เหนือชั้น พร้อมด้วยการปล่อย CO2 ที่ลดเหลือเพียง 62 กรัม/กิโลเมตร นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังถือว่าเป็นรถยนต์หรูที่ใช้เครื่องยนต์ความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตรรุ่นแรกของโลกที่ผ่านการรับรองว่าเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่นำระบบสำรองพลังงานจากการเหยียบแป้นเบรกมาใช้ ซึ่งระบบนี้จะช่วยผสานการทำงานระหว่างการเหยียบแป้นเบรกของผู้ขับขี่และการใช้ระบบเบรกแบบไฟฟ้าเมื่อผู้ขับขี่ใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าอีกด้วย
*อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และ อัตราการปล่อย CO2 อ้างอิงจากการทดสอบตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับรถยนต์คันใดคันหนึ่งโดยเฉพาะและไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อผูกมัดในการเสนอขายสินค้าได้
• The S 500 e Exclusive ราคา 6,390,000 บาท
• The S 500 e AMG Premium ราคา 6,990,000 บาท
The C 350 e
The C 350 e นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ในตระกูล The new C-Class ที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด ต่อจากรุ่น C 300 BlueTEC Hybrid และยังเป็นรถยนต์รุ่นที่สองของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใช้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดอีกด้วย โดยรถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับตัวถังที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า โดยมีให้เลือกสรรทั้งในแบบซีดานและเอสเตท ซึ่งทั้งสองดีไซน์ได้รับการติดตั้งนวัตกรรมปลั๊กอินไฮบริด ที่โดดเด่นในเรื่องความประหยัดด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในโหมดไฮบริดถึง 40 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 58 กรัม/กิโลเมตร
ในรุ่นซีดาน และ 54 กรัม/กิโลเมตรในรุ่นเอสเตท พร้อมด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 6.2 กิโลวัตต์ น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ไว้ที่ใต้เพลาขับด้านหลัง ซึ่งมีระบบหล่อเย็นจากน้ำ และฝาป้องกันการกระแทกที่ผลิตจากแผ่นโลหะปิดทับไว้ อีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัยสูงสุด โดยแบตเตอรี่นี้สามารถชาร์ตไฟให้เต็มได้ภายในเวลา 3 ชั่วโมง ส่งผลให้สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ EV เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 31 กิโลเมตร
*อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และ อัตราการปล่อย CO2 อ้างอิงจากการทดสอบตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับรถยนต์คันใดคันหนึ่งโดยเฉพาะและไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อผูกมัดในการเสนอขายสินค้าได้
• The C 350 e Exclusive ราคา 2,990,000 บาท
• The C 350 e AMG Dynamic ราคา 3,340,000 บาท
• The C 350 e Estate AMG Dynamic ราคา 3,690,000 บาท
The new C-Class Coupé
The new C-Class Coupé เป็นยนตกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้ เจนเนอเรชั่นล่าสุดในกลุ่ม Dream Car โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความสปอร์ต ปราดเปรียวยิ่งขึ้น พร้อมการออกแบบและตกแต่งภายในที่ให้ความหรูหรา มีระดับ ผสานกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในส่วนต่างๆ เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้ทุกการขับขี่รื่นรมย์ และเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์สปอร์ต เรียกได้ว่า The new C-Class Coupé เจนเนอเรชั่นล่าสุดนี้เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มยนตกรรมสปอร์ตสองประตูระดับพรีเมี่ยมอย่างแท้จริง โดยมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน ด้วยกัน คือ The new C 250 Coupé AMG Dynamic และ The new C 250 Coupé Edition 1 โดยรุ่น Edition 1 จะเป็นรุ่นพิเศษที่มีการจำหน่ายถึงสิ้นเดือนธันวาคมปีนี้เท่านั้น
สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ของ The new C-Class Coupé โฉมใหม่นี้ มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นใน ทุกมิติ ทำให้รูปโฉมภายนอกของ The new C-Class Coupé ดูแข็งแกร่ง โฉบเฉี่ยว และเร้าใจมากยิ่งขึ้น สำหรับ ดีไซน์ภายใน ได้รับการตกแต่งให้ดูเรียบง่ายแต่เคร่งขรึมแฝงด้วยความเร้าใจสไตล์สปอร์ตมากกว่าที่เคย นอกจากนี้ ยังมีระบบป้อนเข็มขัดอัตโนมัติ (automatic belt feeders) สำหรับผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า เป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่น C-Class Coupé พร้อมเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ระบบ ATTENTION ASSIST พร้อมถุงลมนิรภัย 7 ลูก 9 ตำแหน่ง
*อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และ อัตราการปล่อย CO2 อ้างอิงจากการทดสอบตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับรถยนต์คันใดคันหนึ่งโดยเฉพาะและไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อผูกมัดในการเสนอขายสินค้าได้
• The new C 250 Coupé AMG Dynamic ราคา 3,790,000 บาท
• The new C 250 Coupé Edition 1 ราคา 3,390,000 บาท
* สำหรับ Edition 1 จะเป็นรุ่นพิเศษที่มีการจำหน่ายถึงสิ้นเดือนธันวาคมปีนี้เท่านั้น *
The new GLS 350 d 4MATIC
The new GLS เป็นรถยนต์ในตระกูล SUV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นล่าสุดที่ได้เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ตระกูลเอสยูวีได้อย่างสมบูรณ์ และได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ตระกูล SUV ในฐานะที่เป็น “เอสยูวี ระดับเอส-คลาส” (S-Class among SUVs) โดยในประเทศไทย ได้นำเสนอรถยนต์ The new GLS ในรุ่น GLS 350 d 4MATIC ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกทรงพลัง รวมไปถึงห้องโดยสารที่หรูหรา และประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ดีไซน์ภายนอก มีจุดเด่นที่การออกแบบส่วนหน้าของตัวรถ กันชนหลัง และไฟหลังใหม่ และเพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยการเลือกติดตั้งชุดแต่ง AMG ประกอบด้วยกันชนหน้า และหลัง แบบพิเศษ บันไดสำหรับเข้า และออกห้องโดยสาร บังโคลนที่ใช้สีสันตามสีของตัวถังรถ และล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 21 นิ้ว ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบห้องโดยสารให้กว้างขวางโดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ท่าน และไฮไลท์ของห้องโดยสาร คือแผงหน้าปัดของผู้ขับขี่แบบใหม่ซึ่งได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับส่วนหน้าจอความบันเทิงขนาด 8 นิ้ว (20.3 เซนติเมตร) พร้อมด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร เมอร์เซเดส-เบนซ์ GLS 350 d 4MATIC มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC เป็นระบบมาตรฐาน และคุณสมบัติเด่นอีกมากมาย เช่น นวัตกรรมระบบเกียร์ DYNAMIC SELECT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เลือกโหมดการทำงานของระบบเกียร์ได้ถึง 6 แบบ ระบบกันสั่นสะเทือน AIRMATIC ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ damping system ADS เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงให้กับตัวรถขณะใช้งาน และระบบ ACTIVE CURVE SYSTEM ซึ่งเป็นระบบเสริมเพื่อรักษาสมดุลและป้องกันการพลิกคว่ำ โดยระบบดังกล่าวจะทำงานร่วมกับโรลบาร์ ด้านหน้า และเพลาหลังเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้รถพลิกคว่ำขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่น่ารื่นรมย์
*อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และ อัตราการปล่อย CO2 อ้างอิงจากการทดสอบตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับรถยนต์คันใดคันหนึ่งโดยเฉพาะและไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อผูกมัดในการเสนอขายสินค้าได้
• The new GLS 350 d 4MATIC ราคา 7,990,000 บาท
The Mercedes-AMG A 45 4MATIC
The Mercedes-AMG A 45 4MATIC ยนตรกรรมจากตระกูล A-Class ที่ยังคงรูปลักษณ์ ความหรูหราสไตล์สปอร์ตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 และประสบความสำเร็จติดอันดับท๊อปในตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก ส่งผลให้ The Mercedes-AMG A 45 4MATIC ได้รับการออกแบบและตกแต่งใหม่ทั้งภายในและภายนอกเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน ในการขับขี่และความปลอดภัย ดีไซน์ภายนอก ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์มอเตอร์สปอร์ต ผนวกกับชุดแต่งดีไซน์ใหม่ของ AMG ที่มากับเทคโนโลยีของรถตระกูลรุ่น A-Class พร้อมทั้งกระจังหน้าแบบ A-wing 3 มิติ ที่มากับลายเส้นเอกลักษณ์ 4 เส้นและโลโก้สีเทาไทเทเนียมแมตช่วยเพิ่มความรู้สึกแบบสปอร์ตตี้มากยิ่งขึ้น ส่วนด้านท้ายรถตกแต่งด้วยสปอยเลอร์ ไฟท้ายที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ยามค่ำคืนและล้ออัลลอยด์ AMG 19 นิ้ว สีเทาไทเทเนียม ดีไซน์ภายใน ยังคงเน้นความปราดเปรียวสไตล์สปอร์ต แผงหน้าปัดมากับดีไซน์ลายเส้นคู่ เข็มไมล์ และตัวเลขแบบใหม่ พวงมาลัยหนังที่ถูกดีไซน์มาเพื่อผสานการขับขี่ของผู้ขับขี่กับรถเข้าด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ The Mercedes-AMG A 45 4MATIC ยังมากับระบบการขับขี่ the new AMG DYNAMIC SELECT 4 โหมด Comfort, Sport, Sport+ และ Individual ประกอบกับระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7-speed sport ที่ใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์สั้นลงโดยเฉพาะเกียร์ 3-7 รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยการติดตั้งปุ่ม ชิฟท์เกียร์สีเงินที่พวงมาลัยเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แมนนวลได้อย่างสนุกสนาน
*อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และ อัตราการปล่อย CO2 อ้างอิงจากการทดสอบตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับรถยนต์คันใดคันหนึ่งโดยเฉพาะและไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อผูกมัดในการเสนอขายสินค้าได้
• Mercedes-AMG A 45 4MATIC ราคา 4,390,000 บาท
Mercedes-AMG C 63 S Coupé
Mercedes-AMG C 63 S Coupé เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นล่าสุดจากค่าย Mercedes-AMG ที่ยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4 ลิตร ผสานการออกแบบตัวรถที่วางให้ระยะห่างระหว่างจุดกึ่งกลางของล้อคู่หน้าและคู่หลัง (Track Width) กว้างขึ้น การเลือกใช้ยางที่มีขนาดใหญ่กว่ารถในตระกูล C-Class รุ่นปกติ ผสานกับเพลาหลังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และใช้ชุดเฟืองท้ายแบบ LSD (Limited-slip differential) ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยป้องกันอาการ ล้อหลังลื่นไถลขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เสริมให้ตัวรถยึดเกาะถนนได้ดี โดยทำงานร่วมกับระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP®) ซึ่งผู้ขับสามารถเปิดหรือปิด หรือเปลี่ยนเป็น SPORT Handling ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีระบบเกียร์แบบสปอร์ต AMG SPEEDSHIFT MCT 7-SPEED ที่ช่วยให้การตอบสนองของรถในระหว่างที่มีการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการปรับตั้งค่าเครื่องยนต์และระบบเกียร์ที่สอดรับกันอย่างลงตัวไม่เพียงเท่านั้นผู้ขับยังสามารถปรับตั้งค่าการทำงานของเครื่องยนต์และระบบที่เกี่ยวข้องได้ โดยสามารถปรับตั้งค่าการส่งกำลังภายใต้ระบบ AMG DYMAMIC SELECT โดยให้รถใช้พลังงานน้อยที่สุดหรือใช้สมรรถนะสูงสุดในการขับขี่ ตลอดจนการเพิ่มอรรถรสในการขับขี่โดยเลือกโหมดเรซ(Race)ก็ได้
*อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และ อัตราการปล่อย CO2 อ้างอิงจากการทดสอบตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับรถยนต์คันใดคันหนึ่งโดยเฉพาะและไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อผูกมัดในการเสนอขายสินค้าได้
• Mercedes- AMG C 63 S Coupé ราคา 9,990,000 บาท
The new Vito Concept
The new Vito ยนตรกรรมหรูเอนกประสงค์แบบ 11 ที่นั่ง ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์
แห่งการเดินทางของทุกคนในครอบครัว ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง สามารถเก็บสัมภาระต่างๆ ของทุกคนได้อย่างครบครัน การดีไซน์รูปลักษณ์ทั้งภายใน และภายนอกดูหรูหรา มีระดับ ประณีตทุกรายละเอียด และเสริมด้วยระบบความปลอดภัย เช่น ระบบป้องกันการปะทะด้านหน้า (COLLISION PREVENTION ASSIST) ระบบแจ้งเตือนจุดบอด (Blind Spot Assist) และ ระบบรักษาช่องจราจร (Lane Keeping Assist)ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนน นอกจากนี้ The new Vito ยังถูกติดตั้งด้วยระบบช่วงล่าง Comfort เพิ่มความนุ่มนวล และลดแรงกระแทกของตัวรถเวลาขับขี่บนพื้นถนนขรุขระ เหมาะสำหรับการเดินทางเพื่อการพักผ่อนและความสนุกสนานของทุกคนในครอบครัว ดีไซน์ภายนอก ออกแบบไฟคู่หน้าด้วย LED Intelligent Light System ระบบไฟหน้าปรับอัตโนมัติตามภูมิอากาศและสภาพการขับขี่ และไฟท้ายแบบครบครันในไฟดวงเดียวทั้งไฟเบรก direction indicator และไฟตัดหมอกที่มากับเทคโนโลยี LED ช่วยเพิ่มความสว่างและความปลอดภัยในการขับขี่เวลากลางคืน ประตูสไลด์อัตโนมัติเพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถ ด้วยปุ่มสัมผัสเพียงปุ่มเดียว ดีไซน์ภายใน ออกแบบโดยคำนึงถึงทั้งความหรูหราและความสะดวกสบายในคราวเดียวกันของทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร อาทิ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกส่วนอิสระหน้าหลัง เป็นต้น
ยนตรกรรมอื่นๆ ในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 30 คัน ในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล และรถนำเข้ารุ่นอื่นๆ อาทิ CLA-Class, GLA-Class, G-Class, GLC-Class, GLE-Class, V-Class, GLE-Class Coupé, E-Class Coupé, S-Class Coupé, CLS-Class, Mercedes-Maybach
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด และยนตรกรรมหลากหลายรุ่น ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2559 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี