บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เปิดตัว เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ (Enduro Park Thailand) พร้อมทดสอบประสิทธิภาพสนาม เตรียมความพร้อมก่อนเป็นเจ้าภาพจัดงาน GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2015 การแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อเฟ้นหาทีมนักแข่งตัวแทนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมชิงชัยในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบากระดับโลก GS Trophy 2016 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี 2559 พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ป๊อบอัพสโตร์ พร้อมเดินสายทั่วประเทศไทย เอาใจคนรักบิ๊กไบค์ให้ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง “Eye Ride” ที่พัฒนาร่วมกับซัมซุง ประเทศไทย และยังเผยโฉม F 800 GT มอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งขนาดกลาง เป็นครั้งแรกในประเทศไทย มร. มาร์คุส โจฮันเนส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ (แถวหน้า-ซ้าย) และ ม.ล. กมลชาติ ประวิตร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย (แถวหน้า-ขวา) บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เปิดตัว เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ (Enduro Park Thailand) สนามฝึกทักษะการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ของบีเอ็มดับเบิลยู แห่งแรกในประเทศไทย พร้อมทีมผู้ฝึกสอนมากประสบการณ์ และหลักสูตรมาตรฐานจากประเทศเยอรมนี ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสอีกประสบการณ์ของการผจญภัยในสไตล์เอ็นดูโร่ มร. มาร์คุส โจฮันเนส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกๆ ปี ตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เรายังเสริมความแข็งแกร่งด้วยการนำเสนอมอเตอร์ไซค์ที่ประกอบในประเทศไทยหลายรุ่น และการเปิดโชว์รูมของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เพิ่มขึ้น สนาม เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ แห่งนี้ จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เติมเต็มประสบการณ์ให้กับคนรักบิ๊กไบค์ชาวไทย ได้มีโอกาสสัมผัสโลกแห่งการขับขี่ในแบบบีเอ็มดับเบิลยู” เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ ตั้งอยู่ในเขตบางบอน บนถนนพระราม 2 ใกล้กับวงแหวนอุตสาหกรรม มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 13,500 ตารางเมตร ประกอบด้วยสถานีฝึกขับขี่สไตล์ออฟโรด 15 สถานี และอาคารสำนักงาน โดยสนามฝึกแห่งนี้ได้รับการออกแบบถูกต้องตามมาตรฐานสากลของบีเอ็มดับเบิลยู ในต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นสนามฝึกการขับขี่มอเตอร์ไซค์สไตล์เอ็นดูโร่ ที่ครอบคลุมทักษะการใช้งานมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล GS ทุกรุ่น “การเปิดตัวสนาม เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ ในปีนี้ ประจวบเหมาะกับการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2015 ซึ่งเป็นการคัดเลือกตัวแทนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมชิงชัยในการแข่งขันระดับโลก International GS Trophy 2016 ซึ่งจะจัดขึ้นในภูมิภาคนี้เช่นกัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแข่งขันนี้จะช่วยยกระดับความสามารถและประสบการณ์ของนักแข่งชาวไทยให้ทัดเทียมกับนักแข่งระดับโลก รวมทั้งยังสร้างความตื่นตัวให้วงการบิ๊กไบค์ในประเทศไทยมากขึ้น” มร. มาร์คุส กล่าวเสริม GS Trophy เป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบากระดับโลก ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี โดยครั้งแรกเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2551 ที่ประเทศตูนิเซีย จนถึงปัจจุบัน มีการจัดการแข่งขันมาแล้วทั้งสิ้น 4 ครั้ง สำหรับครั้งล่าสุดในปี พ.ศ. 2557 มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 16 ทีมจาก 18 ประเทศ การแข่งขันครั้งต่อไปในปี พ.ศ. 2559 จะจัดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีทีมของภูมิภาค รวมถึงตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขัน สิ่งที่ทำให้ GS Trophy มีความท้าทายและน่าสนใจกว่าการแข่งขันรายการอื่นๆ คือ นอกเหนือจากการแข่งขันทักษะหรือความเร็ว ยังเน้นที่ความสามัคคีของทีม และการวางแผนเพื่อบรรลุภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งแต่ละทีมประกอบด้วยนักแข่งจำนวน 3 คน เป็นตัวแทนของประเทศหรือภูมิภาค พร้อมด้วยสื่อมวลชนอีก 1 คน การแข่งขันรอบคัดเลือก GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2015 เพื่อเฟ้นหาตัวแทนนักแข่งเข้าร่วมทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะจัดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2558 ณ สนาม เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ โดยได้รับความร่วมมือจาก บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด คลับ ประเทศไทย (BMW Motorrad Club Thailand) ในโอกาสนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้เปิดตัว “บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ป๊อบอัพสโตร์” เอาท์เล็ทเคลื่อนที่ขนาดกลาง เพื่อจัดกิจกรรมพบปะคนรักบิ๊กไบค์ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ได้กว้างยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังไม่มีโชว์รูมของผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ป๊อบอัพสโตร์นี้ ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในโอกาสต่างๆ ทั้งในและนอกสถานที่ ประกอบด้วยส่วนจัดแสดงมอเตอร์ไซค์และสินค้าอื่นๆ อาทิ ชุดและเครื่องแต่งกายสำหรับนักแข่งบิ๊กไบค์ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เรียกว่า “Eye Ride” ซึ่งร่วมกับ ซัมซุง ประเทศไทย พัฒนาเทคโนโลยีการสร้างภาพเสมือนจริง (Virtual Reality) เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่เสมือนจริงในพื้นที่หรือสภาวะที่ไม่สามารถเข้าไปทดลองขับขี่ได้ นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังได้แนะนำ มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GT บิ๊กไบค์สไตล์ทัวร์ริ่งขนาดกลาง มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ โดยมี 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดของเครื่องยนต์ความจุ 798 ซีซี ให้กำลังแรงม้าถึง 90 แรงม้า และมีอัตราการบิดอยู่ที่ 86 นิวตันเมตร ที่ 5,800 รอบต่อนาที มร. มาร์คุส โจฮันเนส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ (ขวา) และ ม.ล. กมลชาติ ประวิตร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย (ซ้าย) บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GT บิ๊กไบค์สไตล์ทัวร์ริ่งขนาดกลางของบีเอ็มดับเบิลยู “บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ให้กับนักขี่บิ๊กไบค์ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเราพร้อมส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR ให้กับลูกค้าในประเทศไทยแล้ว ในราคา 1,150,000 บาท เช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆ อีกจำนวนมากที่จะได้รับการแนะนำสู่ตลาดในปีนี้” มร. มาร์คุส กล่าวทิ้งท้าย