เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดสายการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 4 สูบ ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร เพื่อการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา เครื่องยนต์ที่ผลิตโดยจีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทยรุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์พื้นฐานรุ่นเดียวกับที่ขับเคลื่อนอยู่ในเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ที่ผลิตในประเทศไทยและจัดจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งจะถูกใช้ในรถกระบะขนาดกลาง เชฟโรเลต โคโลราโด และจีเอ็มซี แคนยอน ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
มาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทยและเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยกล่าวภายในงานเฉลิมฉลองการเปิดสายการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์สำหรับการส่งออกว่า “การส่งออกเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตรไปยังสหรัฐอเมริกาช่วยเพิ่มกำลังการผลิตของเราและทำให้จีเอ็ม
เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย มีต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
คุณวัชรินทร์ สยามรัตนกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายการผลิต จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทยเปิดเผยว่า เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ที่ส่งออกไปยังอเมริกาเหนือจะมีรายละเอียดทางเทคนิคพื้นฐานเดียวกับที่ติดตั้งอยู่ในรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด และรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ที่จำหน่ายในประเทศไทยและภูมิภาคนี้
“การส่งออกครั้งนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ของเราซึ่งผลิตในประเทศไทยมีมาตรฐานคุณภาพสูงทัดเทียมกับระดับโลกและมีประสิทธิภาพดีพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงที่สุดแห่งหนึ่งและเป็นตลาดรถที่มีข้อบังคับด้านผลิตภัณฑ์เข้มงวดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก” คุณวัชรินทร์กล่าว
ลูกค้าในสหรัฐฯ และแคนาดาจะได้สัมผัสความโดดเด่นของขุมพลังดูราแม็กซ์ เจนเนอเรชั่นที่สองที่ใช้อยู่ในโคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ ขุมพลังรุ่นนี้ถูกพัฒนาในยุโรปและสหรัฐฯ เพื่อรองรับการใช้งานทั่วโลกซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการพัฒนา ดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตรรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานไอเสียและตอบสนองทุกการใช้งานในสหรัฐฯและแคนาดา มีพละกำลังถึง 181 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร
ประสิทธิภาพคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ โดยมาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผันหล่อเย็นด้วยน้ำและระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูงระดับ 2,000 บาร์ (29,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ใช้ระบบควบคุมเครื่องยนต์อิเลกทรอนิกที่พัฒนาโดย
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์รุ่นแรกจากทั้งหมดสองรุ่นที่ใช้ระบบควบคุมดังกล่าว
เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ใช้เพลาถ่วงสมดุลที่หมุนตรงข้าม เพื่อลดแรงสั่นสะเทือน เพิ่มความนุ่มนวล และความเงียบในการทำงานทุกรอบเครื่องยนต์ นอกจากการผ่านมาตรฐานไอเสียของสหรัฐฯ เครื่องยนต์ ดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตรยังผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ที่สามารถยกระดับเป็นมาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 ได้
เครื่องยนต์ตระกูลดูราแม็กซ์ 4 สูบเจนเนอเรชั่นแรกเริ่มต้นสายการผลิตในประเทศไทยเมื่อปี 2554 ขณะที่เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์เจนเนอเรชั่นที่สองเปิดตัวในปี 2556 จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทยทำการผลิตทั้งรุ่น 2.8 ลิตรและ 2.5 ลิตร
ศูนย์การผลิตจีเอ็ม เพาเวอร์เทรนมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เปิดทำการเมื่อเดือนกันยายน 2554 ถือเป็นการลงทุนด้านศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ครั้งใหญ่ที่สุดของจีเอ็มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งแรกของจีเอ็มในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งแรกในโลกที่ผลิตขุมพลังตระกูลดูราแม็กซ์ 4 สูบ
ศูนย์การผลิตเพาเวอร์เทรนมีพื้นที่ 54,275 ตารางเมตร ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็ม ประเทศไทย โดยในปี 2555 ศูนย์การผลิตแห่งนี้ได้เริ่มเดินสายการผลิตเสื้อสูบอย่างเป็นทางการหลังจากต้องนำเข้าจากโรงงานแห่งอื่น ศูนย์การผลิตแห่งนี้เฉลิมฉลองการผลิตเครื่องยนต์ครบ 100,000 เครื่องเมื่อปี 2556 ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 320 คน
ศูนย์การผลิตเพาเวอร์เทรนใช้ระบบการผลิตทั่วทั้งองค์กรตามหลักการผลิตแบบ LEAN Manufacturing องค์ประกอบสำคัญของหลักการนี้คือการมีส่วนร่วมของบุคลากร การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การทำงานตามมาตรฐาน การทำงานในระยะเวลาอันสั้น และการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิต ศูนย์การผลิตแห่งนี้ได้รับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎระเบียบได้อย่างมั่นคง
การส่งออกเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตรไปยังสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มเดินสายการผลิตยานยนต์ในช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่สาม