ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือ Eco-car กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก หลังจากที่ได้เปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทยไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน  เพราะเป็นรถที่เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ ที่มีการจราจรที่หนาแน่น มีความคล่องตัวสูงเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีราคาไม่สูงนัก แถมยังประหยัดน้ำมัน ง่ายต่อการขับขี่ และยังง่ายต่อการดูแลรักษาอีกด้วย ดังนั้น ในรถยนต์ Eco-car ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 ก็ถือว่าเป็นรถที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างมากเช่นกัน

Eco-car คือรถยนต์ขนาดเล็ก ติดตั้งเครื่องยนต์ประมาณ 1,200 ซีซี แม้จะมีกำลังไม่สูงนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในเมือง และทำให้ประหยัดน้ำมันมากเป็นพิเศษ อีกทั้งยังได้เปรียบทางด้านภาษี ทำให้มีราคาขายไม่สูงนัก จึงได้รับความนิยมอย่างมาก และในยุคปี 2014-2015 เมื่อรถยนต์เหล่านี้ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างล้นหลาม จึงได้เกิดการพัฒนาในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุปกรณ์มาตรฐานประจำรถ ที่ถูกไส่มาให้จนครบครัน





Nissan March Limited Edition

Eco car ค่ายแรกของตลาดเมืองไทย แม้จะเป็นคันแรก และได้เปรียบเรื่อง First Mover Advantage แต่ก็มีคู่แข่งจากรอบด้านเปิดตัวรถแบบเดียวกันตามกันมาติดๆ จึงต้องมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยในครั้งนี้ได้ออกรุ่น Limited Edition ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาจากรุ่น E และ EL (แม้ไม่ใช่รุ่นท๊อปสุด แต่ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล จึงเป็นรุ่นยอดนิยม) โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนดีไซน์พิเศษ ดูเผินๆ แอบเหมือนรถ Super Luxury บางยี่ห้อ ระบบ Intelligent Key ปุ่ม Push Start จอแสดงผล เซ็นเซอร์ถอยหลัง โดยมีสีตัวถังสุดจี๊ดให้เลือก 3 สี คือ สีขาวมุข สีดำ และ สีเขียวอ่อน

Nissan March Limited Edition ใช้เครื่องเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้า มีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์ออโต้แบบ CVT กำลังเครื่องเพียงพอแก่การใช้งานในเมืองที่เน้นความคล่องตัว และความประหยัดเป็นหลัก มีให้เลือก 3 รุ่น คือ รุ่น E เกียร์ธรรมดา 456,000 บาท, รุ่น E เกียร์ออโต้ 490,000 บาท, รุ่น EL เกียร์ออโต้ 518,000 บาท

Nissan Almera Sportech

นิสสัน อัลเมร่า รุ่น สปอร์ตเทค ใหม่ อัลเมร่าเป็นรถอีโค คาร์ ซีดาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ดังนั้นอัลเมร่ารุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้นิยมความเป็นรถสปอร์ต ท่านจะได้พบกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องกันชนล่างลายรังผึ้งแบบสปอร์ต กระจังหน้าแบบโครเมียม รมดำ สเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง ไฟหน้าฮาโลเจนพร้อมด้วยภายในสีโครเมียม รมดำ ไฟส่องสว่าง เวลากลางวัน พร้อมกับล้ออัลลอยด์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว สีรมดำพิเศษ และโลโก้รุ่นด้านท้าย  Sportech และพวงมาลัยหุ้มหนัง ทั้งหมดนี้เป็นการออกแบบเพื่อให้อัลเมร่า สปอร์ตเทค เป็นรถที่ดูทันสมัยแต่เต็มไปด้วยพละกำลัง

นิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น E sportech และ VL sportech มีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ สีดำแบล็ค สตาร์ สีขาว ไวท์ เพิร์ล และสีแดง เรเดียนท์  ราคารุ่น E Sportech 525,000 บาท และรุ่น VL Sportech = 625,000 บาท  (ส่วนนสีไวท์เพิร์ลเพิ่ม 6,542 บาท)





Suzuki Swift RX

อีกหนึ่ง Eco Car รุ่นยอดนิยม ที่สร้างยอดขายให้ Suzuki อย่างล้นหลาม ในช่วงที่เปิดตัวใหม่ๆ มันถึงขนาดถูกขนานนามว่า เป็นหนึ่งในรถที่ รอส่งมอบนานที่สุด ใครก็ตามที่จอง Suzuki Swift ต้องรอส่งมอบไม่น้อยกว่า 6 เดือนทั้งนั้น บางคนถึงขั้นรอเป็นปีก็มี ด้วยรูปทรงที่ออกแบบได้ถูกใจวัยรุ่นชาวไทยเป็นอย่างมาก มาวันนี้ ด้วยความต้องการรถยนต์ Eco-car ที่สูงขึ้น Suzuki จึงได้ออกทางเลือกใหม่เป็น Swift RX ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก Swift GLX ด้วยการอัพออฟชั่นแบบจัดเต็ม อาทิ Paddle Shift, Cruise Control, เบาะหนัง, ไฟหน้า HID, และสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ขึ้น

Suzuki Swift RX ยังคงติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นเดิม คือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT พร้อม Paddle Shift 7 สปีด สนนราคาที่ 599,000 บาท ซึ่งแพงกว่ารุ่น Swift GLX อยู่ 35,000 บาท เมื่อเทียบกับออฟชั่นที่ได้เพิ่ม ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
 



Honda Brio Amaze

Honda Brio คือ Eco-car รุ่นที่ 2 ที่เปิดตัวตาม Nissan March มา ซึ่งในช่วงเปิดตัวจะมีเพียงรุ่น Hatchback 5 ประตู ให้เลือกซื้อเพียงรุ่นเดียว หลังจากนั้นไม่นานเกินรอ จึงได้ออกรุ่น Brio Amaze ออกมาเสริมทัพ มีจุดต่างที่การเพิ่มท้ายรถให้มีขนาดยาวขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของและทำให้ตัวรถดูมั่นคงปลอดภัยยิ่งขึ้น เพิ่มพื้นที่โดยสารด้านหลังมากขึ้น สิ่งที่ได้ตอบรับมาคือ ผลตอบรับที่ดีขึ้น ส่วนตัวถัง Hatchback ยังคงเป็นรุ่นยอดนิยม สำหรับบรรดาขาซิ่งที่ซื้อรถไปแต่งแรง เพิ่มสมรรถนะกันอย่างเมามัน ด้วยรูปทรงที่คล่องตัว น่ารักน่าชัง แต่ก็สามารถแต่งให้ดุดันได้

Honda Brio Amaze ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.2 ลิตร i-Vtec กำลังสูดสุด 90 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ออโต้แบบ CVT และ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด โดยมีให้เลือก 4 รุ่น คือ S เกียร์ธรรมดา ราคา 454,000 บาท, รุ่น S เกียร์ออโต้ ราคา 493,000 บาท, รุ่น V เกียร์ธรรมดา ราคา 482,000 บาท, รุ่น V เกียร์ออโต้ ราคา 521,000 บาท ส่วนใครที่ยังชอบตัวถัง Hatchback ก็ยังมี Brio Hatchback ให้เลือกด้วย
 




Mitsubishi Mirage

พึ่งออกรุ่นปรับโฉมไปหมาดๆ สำหรับ Mirage 5 ประตู และ Attrage 4 ประตู มีจุดเด่นที่ออฟชั่นที่จัดเต็ม ด้วยจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ไฟเลี้ยวบนพวงมาลัย โดยรวมถือว่า ออฟชั่นอยู่ในระดับแนวหน้าของตลาด Eco-car เลยทีเดียว พร้อมกับเปิดตัวสีใหม่ Blossom Purple สุดน่ารัก เอาใจสาวๆ ด้วย

Mitsubishi Mirage ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 75 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ออโต้แบบ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีราคาตั้งแต่ 383,000-552,000 บาท ส่วนใครที่อยากได้ตัวถัง 4 ประตู ก็ยังมี Attrage ให้เลือกด้วย
 




Toyota Yaris TRD Sportivo

รถยนต์ Eco-car ที่เปิดตัวใหม่ล่าสุด มีดีที่มิติตัวถังที่ใหญ่กว่าคู่แข่ง และมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย เมื่อแบรนด์อื่นๆ ต่างออกรุ่นปรับโฉม เพิ่มออฟชั่นพิเศษ โตโยต้าก็ไม่น้อยหน้า เปิดตัว Yaris TRD Sportivo ในงาน Motor Expo 2014 โดยเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก Yaris E รุ่นรองท๊อป ต่างจาก Suzuki Swift ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่น GLX ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปสุด ที่มีออฟชั่นจัดเต็มมาพอสมควรแล้ว โดยเสริมออฟชั่นชุดแต่งรอบคัน จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง

Toyota Yaris TRD Sportivo ใช้เครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 86 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT และมีราคาที่ 629,000 บาท ในขณะที่รุ่น G อยู่ที่ 599,000 บาท ส่วนรุ่น E อยู่ที่ 549,000 บาท