YOKOHAMA กระตุ้นตลาดส่งท้ายปี ส่งยางพรีเมียมสมรรถนะสูงรุ่น Advan Sport V105 ป้อนตลาดรถหรูที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รองรับ BENZ Audi และเร่งเติมกลยุทธ์ส่งเสริมการขายสู้ศึกตลาดแข่งเดือดช่วงไฮซีซั่น มั่นใจด้วยที่สุดของเทคโนโลยียางสมรรถนะสูง สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างครบถ้วน จะช่วยดันยอดขายให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ แม้สถานการณ์ตลาดจะส่งสัญญาณหดตัวแรง ทั้งหนี้ภาคครัวเรือนและค่าครองชีพปรับสูงขึ้น การเมืองเริ่มไม่นิ่ง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ คาดภาพรวมตลาดยางรถยนต์เมืองไทยจะลดลงอีกเพิ่มเป็น 10% มียอดขายรวมประมาณ 9,000,000 เส้นต่อปี
มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา (Mr.Yutaka Furukawa) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมตลาดของ YOKOHAMA ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กันยายน 2556) ว่า แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงและได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ยอดจำหน่ายยางรถยนต์ที่ผ่านมาทำได้ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่เติบโตเพิ่มขึ้น 1.6% โดยสองไตรมาสแรก (มกราคม-มิถุนายน 2556) ทำยอดขายได้ตามที่คาดไว้ แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สาม ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดและเข้าสู่ฤดูฝน สถานการณ์ตลาดยางรถยนต์ได้รับผลกระทบมากขึ้นไม่ต่างจากภาคยานยนต์และยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเป็นลำดับมาจนถึงปัจจุบัน
“ปกติฤดูฝนตลาดจะซบเซาอยู่แล้ว แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ แต่ปีนี้ถูกซ้ำเติมจากภาวะเศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง ผู้บริโภคมีหนี้ภาคครัวเรือนสูง ค่าครองชีพก็ปรับสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาแก๊สที่ขยับราคาขึ้น ราคาสินค้าภาคเกษตรกรรมอย่างยางพาราก็มีราคาตกต่ำ ประกอบกับสถานการณ์การเมืองเริ่มไม่นิ่ง ทำให้ผู้บริโภคกังวลใจและชะลอการซื้อ อีกทั้งจากที่ได้พบปะกับดีลเลอร์ของ YOKOHAMA ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์แบรนด์อื่นๆ ด้วย และ (YCN) หรือ YOKOHAMA CLUB NETWORK ศูนย์ต้นแบบยางรถยนต์มาตรฐาน YOKOHAMA ที่มีอยู่ 12 แห่ง ต่างสะท้อนยอดขายที่ลดลง และทำการค้าอย่างยากลำบากมากขึ้น คาดว่าภาวะนี้จะลามสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ตราบใดที่ยางรถยนต์ยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้รถยนต์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตลาดจะกลับมาสดใสแน่นอน”
“จากที่ประเมินตลาดยางรถยนต์โดยรวมไว้ว่า จะหดตัวลง 5% เมื่อต้นไตรมาสสามที่ผ่านมา มียอดขายรวมประมาณ 9,500,000 เส้นในปีนี้นั้น แต่จากปัจจัยลบรอบด้านคาดว่าแนวโน้มจะหดตัวลงอีก 5% รวมเป็น 10% ส่งผลให้ตลาดรวมยางรถยนต์เมืองไทยน่าจะมียอดขายรวมกันประมาณ 9,000,000 เส้นต่อปี และกลุ่มยางรถยนต์ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ยางกลุ่มอีโคคาร์, ซิตี้คาร์ และ SUV ขณะที่ยางกลุ่มพรีเมียมจะไม่กระทบนัก โดยตลาดยาง YOKOHAMA ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มพรีเมียม คงได้รับผลกระทบบ้าง แต่คงไม่รุนแรง ขณะที่การแข่งขันจะดุเดือดขึ้น เนื่องจากมีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาทำตลาด และด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี กำลังซื้อมีน้อย อาจทำให้ผู้บริโภคหันไปใช้ยางคุณภาพต่ำ หรือยางราคาถูกเป็นการทดแทน ซึ่งจะเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตได้ตลอดเวลา”
มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวต่อว่า บริษัทเตรียมกลยุทธ์ส่งเสริมการขายเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงและเพื่อกระตุ้นตลาดช่วงไตรมาสท้ายของปี โดยส่งผ่านไปยังดีลเลอร์กว่า 260 แห่งทั่วไทย และ (YCN) หรือ YOKOHAMA CLUB NETWORK ศูนย์ต้นแบบยางรถยนต์มาตรฐาน YOKOHAMA ควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดอันหลากหลายที่ใช้ขับเคลื่อนตลอดทั้งปี ที่มีทั้งรูปแบบ Push, Pull, Motor Sport Marketing เพื่อร่วมกันต่อยอดความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของเครือข่ายอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งรุกตลาดด้วยการเปิดตัวยางรถยนต์สมรรถนะสูง (High Performance) YOKOHAMA รุ่น Advan Sport V105 เพิ่มเติมอีกด้วย
“ตลาดรถยนต์กลุ่มพรีเมียมและรถหรูในเมืองไทยเติบโตสูงขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จึงตัดสินใจเปิดตัว YOKOHAMA Advan Sport V105 เป็นยางที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เป็นยางสมรรถนะสูงที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ทั้งในด้านการตอบสนองการบังคับควบคุมที่แม่นยำ ฉับไว ให้ความมั่นคงขณะขับขี่แม้ขณะขับด้วยความเร็วสูง ยึดเกาะดีเยี่ยมบนถนนแห้งและถนนเปียก ให้ความเงียบและนุ่มนวลเหนือกว่ายางรุ่น Advan Sport V103 ที่จำหน่ายมาก่อนหน้า สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ต้องการยาง High Performance ได้อย่างสูงสุดครบถ้วน โดยยางรุ่นนี้เราทำ OEM กับรถยนต์ Mercedes-benz สามารถติดตั้งในรุ่น CLK, SLK, CLS, New S-Class และ Audi เป็นต้น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 16-20 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 6,300-20,000 บาทต่อเส้น ตั้งเป้าขายเบื้องต้นกว่า 3,000 เส้นภายในปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเติมยอดขายให้ YOKOHAMA บรรลุเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 380,000 เส้นภายในสิ้นปี” มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา