posttoday : นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา 1 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รถยนต์ตามโครงการส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 หรืออีโคคาร์ 2 ที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ ได้อนุมัติหลักเกณฑ์ออกมานั้น ราคาจะไม่ถูกกว่า หรืออาจจะสูงกว่าอีโคคาร์ 1 เพราะสิทธิประโยชน์ภาษีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก รวมทั้ง|มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่รถก็จะมีคุณภาพที่สูงขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้น
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า หลังจากผู้ผลิตรถยนต์ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ 2 แล้ว คาดว่าผู้ประกอบการจะใช้เวลา 2-3 ปีในการลงทุน และคาดว่าจะเริ่มต้นผลิตได้ในปี 2559 เป็นต้นไป จากกรอบที่ให้การส่งเสริมกำหนดไว้ว่าต้องเริ่มดำเนินการภายในปี 2562
สำหรับเกณฑ์การให้การส่งเสริมอีโคคาร์ 2 อื่นๆ นั้น ต้องเป็นการลงทุนผลิตแบบครบวงจร ทั้งการประกอบรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ โดยจะต้องมีกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 1 แสนคันต่อปี นับตั้งแต่การผลิตปีที่ 4 เป็นต้นไป ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 ที่มีมาตรฐานในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร และสามารถประหยัดพลังงานได้ที่ 4.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ขนาดเครื่องยนต์เบนซินต้องไม่เกิน 1300 ซีซี ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลต้องไม่เกินขนาด 1500 ซีซี
ทั้งนี้ อีโคคาร์ 2 มีเป้าหมาย 3 ด้าน คือ 1.ต้องการให้เกิดการลงทุนคลัสเตอร์ยานยนต์ขนาดใหญ่เกิดการต่อยอดช่วยให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์อย่างยั่นยืน 2.ให้ประชาชนเข้าถึงรถยนต์ที่มีมาตรฐานสูงทั้งด้านความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน และมีราคาเหมาะสมไม่สูงเกินไป 3.ให้อีโคคาร์ 2 มีส่วนช่วยรองรับการขยายตัวของสังคมเมือง และช่วยลดผลกระทบจากการใช้รถยนต์ ทั้งการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่ออกมาส่วนใหญ่ระบุถึงผู้ที่เข้าร่วมโครงการในระยะที่ 2 ส่วนการลงทุนของผู้ที่อยู่ในโครงการระยะที่ 1 มีการระบุเพียงสั้นๆ เท่านั้น จึงจะต้องขอเวลาในการศึกษาก่อน
ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการรถยนต์ เปิดเผยว่า ประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนคือ การเปิดให้ผู้ผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 เข้าร่วมโครงการโดยให้มีการขยายกำลังการผลิต หรือหากต้องการลงทุนใหม่เพื่อผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 จะต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งต้องคำนึงถึงการแข่งขันในมาตรฐานที่ต่างกันด้วย