นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าในปี 2555 ประเทศไทยจะสามารถผลิตรถยนต์ได้สูงถึง 2-2.1 ล้านคัน (เพิ่มขึ้น 37%-44% จากปีก่อน) โดยยอดขายรถในประเทศจะขยายตัวค่อนข้างมากจากนโยบายคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ประกอบกับค่ายรถยนต์ต่าง ๆ มีการออกรถรุ่นใหม่สู่ตลาดจำนวนมาก โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็ก และรถอีโคคาร์ ซึ่งผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงผู้ประกอบการต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น มีการย้ายฐานการลงทุนมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตรถปิกอัพและอีโคคาร์ส่งออกทั่วโลก ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยจะเติบโตขึ้นไปสู่ระดับการผลิต 2.5 ล้านคัน ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าตามที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดการณ์ไว้ได้ จากแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยข้างต้น บริษัทฯ จึงคาดว่าในปีนี้ บริษัทจะมีการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หรือไม่น้อยกว่า 35% เนื่องจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนแห่งใหม่ที่จังหวัดระยองได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ไตรมาส 2/2555 เป็นต้นไป ซึ่งโรงงานใหม่นี้จะสามารถเพิ่มรายได้จากงานชิ้นส่วนให้บริษัทฯ ได้ประมาณ 600 ล้านบาทต่อปี (เมื่อผลิตเต็มกำลังการผลิต) และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการขยายการลงทุนในด้านต่าง ๆ เพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เช่น - การลงทุนติดตั้งเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วนเพิ่มในโรงงานปัจจุบัน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตชิ้นส่วนทั้งโลหะและพลาสติก รองรับปริมาณงานที่เพิ่มสูงขึ้นของลูกค้า - การลงทุนในเครื่องจักรใหม่สำหรับงานแม่พิมพ์และอุปกรณ์จับยึด เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และยกระดับไปสู่เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจะเป็นการดึงดูงานชิ้นส่วนให้กับบริษัทเพิ่มมากขึ้น โดยใช้เงินลงทุน 205 ล้านบาท และขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI - อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนห้องพ่นสีเพิ่มเติม เพื่อรองรับงานรับจ้างประกอบและพ่นสี ให้ลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ รถบรรทุก กลุ่มเครื่องจักรอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งมีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงทั้งในปัจจุบันและอนาคต จากแผนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับชื่อเสียงและศักยภาพในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ครบวงจรของบริษัท ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานใหม่ ๆ จากลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะสามารถบรรลุตามแผนงานที่วางไว้ได้ และมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2555 ทางบริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 821.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 125.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.15 ล้านบาท คิดเป็น 67% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุที่ทำให้มีรายได้ และกำไรสุทธิเติบโตขึ้นมากนั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปีก่อน ประกอบกับผลสำเร็จของบริษัทฯ ในการขยายงานชิ้นส่วน และรับจ้างประกอบ และพ่นสี จากลูกค้าทั้งกลุ่มยานยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งมีแนวโน้มการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ปัจจุบันรายได้จากงานชิ้นส่วน OEM และรับจ้างประกอบ พ่นสี คิดเป็น 80-85% ของรายได้รวมของบริษัท โดยมีรายละเอียดดังนี้ - รายได้จากธุรกิจแม่พิมพ์ และชิ้นส่วน เพิ่มขึ้น 47% จากไตรมาส 1/2554 เนื่องจากปริมาณงานชิ้นส่วนของลูกค้าค่ายรถยนต์ต่าง ๆ เช่น Nissan, GM, Isuzu ฯลฯ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและยานยนต์ - รายได้จากธุรกิจรับจ้างประกอบ และพ่นสี เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาส 1/2554 เนื่องจากปริมาณงานรับจ้างประกอบ และพ่นสีรถปิกอัพ Nissan เพื่อส่งออกต่างประเทศเพิ่มขึ้น และในปีนี้บริษัทฯ ได้รับงานประกอบ พ่นสีรถบรรทุกขนาดกลาง Isuzu เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ปริมาณงานของลูกค้ากลุ่มเครื่องจักรอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร เช่น Komatsu, Kobelco และลูกค้าใหม่ Yanmar ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตเพื่อการส่งออก มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน สำหรับธุรกิจรถอเนกประสงค์นั้น เนื่องจากบริษัทฯ ยังอยู่ในช่วงพัฒนาผลิตภัณฑ์รถทางการทหาร (MUV4) และรถ TR Transformer จึงทำให้ปริมาณการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้ายังไม่มาก และได้เริ่มขยายโอกาสการส่งออกรถรุ่นนี้ไปยังต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้เริ่มส่งออกไปยังประเทศศรีลังกา และคาดว่าน่าจะมีโอกาสขายได้มากขึ้นในแถบอาเซียน เช่น พม่า เวียดนาม และกัมพูชา อีกด้วย สุดท้ายนายสมพงษ์ เผอิญโชค กล่าวว่า สำหรับลูกค้าที่สนใจรถยนต์ TR Transformer ซึ่งเป็นรถยนต์ Off-road ที่มีรูปแบบบึกบึน แข็งแกร่ง โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบและรักการผจญภัย TR Transformer สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครัน และในโอกาสพิเศษนี้ ทางบริษัทฯ ได้ทำการผลิตสีพิเศษ ให้ลูกค้าได้เลือก อีก 2 สี คือ สีดำด้านและสีขาว เพิ่มความหรูหรา ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1,420,000 บาท