ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดไฮไลต์รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ส่งท้ายปีด้วยสองสมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูลแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวร์ริ่ง ได้แก่ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที (Tiger 800 XRT) และ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ (Tiger 800 XCA) โฉมใหม่! ที่ได้รับการปรับและเพิ่มเติมด้านชิ้นส่วน รวมถึงระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมขึ้น เพื่อมอบความสะดวกสบายและสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมา เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทุกการผจญภัย โดยทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวเพิ่งเผยโฉมให้โลกได้เห็นอย่างเป็นทางการในงาน EICMA Show ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และพร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดรวมถึงจับจองเป็นเจ้าของครั้งแรกก่อนใครในเอเชียแปซิฟิกภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ณ บูธไทรอัมพ์ G05 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 – วันที่ 11 ธันวาคม 2560
นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จัดเซอร์ไพรส์ส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ที่ถือเป็นไฮไลต์ที่สาวกรถแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวร์ริ่งรอคอย เพิ่งเผยโฉมให้โลกได้เห็นอย่างเป็นทางการในงาน EICMA Show ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้แก่ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที (Tiger 800 XRT) และ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ (Tiger 800 XCA) โฉมใหม่ล่าสุด มาเปิดตัวให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดรวมถึงจับจองเป็นเจ้าของก่อนใครเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 โดยทั้งเสือร้ายสายลุยสองสมาชิกใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงครั้งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโครงรถเละเครื่องยนต์ที่ได้รับการอัพเกรดมากกว่า 200 รายการ และระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมขึ้น เพื่อส่งมอบความสะดวกสบาย ตลอดจนสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดที่ดียิ่งขึ้น เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทุกการผจญภัยกว่าที่เคย
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับ “ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที” และ “ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ” โฉมใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์สามสูบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะขนาด 800 ซีซี ให้แรงม้าสูงสุดที่ 95 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีและสมรรถนะในส่วนสำคัญๆ หลายส่วนที่ออกแบบ เพื่อเพิ่มความสามารถของทั้ง 2 รุ่นต่อการขับขี่บนถนนและทางออฟโรด (Off-Road) ใช้งานง่าย ปราดเปรียว ตลอดจนการเสริมแต่งสไตล์และรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ แผงหน้าปัด TFT แบบ Full Colour ขนาด 5 นิ้ว กระจกหน้ารถแบบปรับได้ 5 ตำแหน่ง และ Aero Diffuser เพื่อการป้องกันลม รวมถึงส่วนประกอบเบาะแบบใหม่ที่ให้ความสบายในการขับขี่ทั้งวัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกมากถึง 5 โหมด ในรุ่นเอ็กซ์อาร์ที ได้แก่ Road, Rain, Sport, Off-Road และ Rider สุดพิเศษยิ่งขึ้นในรุ่นเอ็กซ์ซีเอ มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 6 โหมด เพิ่มโหมดการขับขี่ออฟโรดโปร (Off-Road Pro) แบบใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่สไตล์ออฟโรดที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดกว่าที่เคยมีมา อีกทั้งมั่นใจในความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยเบรกหน้ามาตรฐานสูงของ Brembo รวมถึงรูปแบบของระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งมาให้ดีที่สุดจาก Showa มีปุ่มสวิตช์ที่แฮนด์บังคับเลี้ยวและจอยสติ๊กควบคุม 5 ทิศทาง ซึ่งมาพร้อมกับปุ่มกดที่มีไฟในตัวอย่างสวยงาม มีไฟ LED เต็มดวงแบบเฉพาะที่โดดเด่น อีกทั้งการอัพเดทระบบควบคุมความเร็วคงที่ การปรับปรุงโครงรถ ตลอดจนงานตัวถังระดับพรีเมี่ยมที่เคลือบผิวสีคุณภาพสูงพร้อมการออกแบบแผงข้างแบบใหม่ และการตกแต่งเพื่อเพิ่มความโดดเด่นอย่างแท้จริง มีระบบไอเสียที่มีลักษณะเฉพาะและน้ำหนักเบาขึ้น พร้อมเสียงที่เป็นสปอร์ตมากขึ้นเพื่อพลิกโฉมเครื่องยนต์รุ่นสมัยใหม่ มีอัตราทดเกียร์ 1 แบบใหม่ที่สั้นขึ้นเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ Off-road การตอบสนองที่ความเร็วต่ำบนทุกสภาพถนน และการเร่งในทันที ซึ่งให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจสำหรับผู้ขับขี่
นอกจากนี้ยังจัดเต็มด้านเทคโนโลยีที่เป็นส่วนสำคัญต่อการขับขี่แบบผจญภัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบ ABS ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Ride-by-Wide) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ด้วยปุ่มเดียว (Cruise Control) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบปรับได้ (Traction Control) รวมถึงปลอกมือบิดและที่นั่งอุ่นไฟฟ้า ความสูงที่นั่งแบบปรับได้ ตลอดจนช่องเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น และที่สำคัญ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที และ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ โฉมใหม่ล่าสุดนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกสรรอีกมากกว่า 50 รายการ ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแต่งรถได้ดั่งใจเพื่อประสบการณ์ขับขี่ขั้นสูงสุดไม่ว่าในรุ่นใดก็ตามอีกด้วย
ทั้งนี้ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Silver Ice, Crystal White และ Matt Cobalt Blue สนนราคาประมาณการ 650,000 บาท และ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Korosi Red, Crystal White และ Marine สนนราคาประมาณการ 670,000 บาท
ขณะที่ภายในงาน ไทรอัมพ์ ยังขนทัพไฮไลต์รถมอเตอร์ไซค์อีก 2 รุ่นมาเผยโฉมครั้งแรกด้วยเช่นกัน ได้แก่ “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” และ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คัสตอมสุดคลาสสิกแบบฉบับอังกฤษขนานแท้ ที่ยังคงไว้ด้วยรูปลักษณ์รถตระกูลบอนเนวิลล์ดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน โดย “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” (Bonneville Bobber Black) มาพร้อมรูปลักษณ์ที่เข้มขึ้น ดุขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น แต่ยังคงไว้ด้วยคุณลักษณะที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์คัสตอมพันธุ์แท้ นวัตกรรมยานยนต์ที่สง่างาม ขีดความสามารถที่นิยามความเป็นตัวตน การขับขี่ที่ให้อารมณ์แสนเร้าใจ ตลอดจนเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามกึกก้องทรงพลัง
โดย “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” มาพร้อมเครื่องยนต์แรงบิดสูงสูบคู่ขนานขนาด 1,200 ซีซี ให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และพละกำลังสูงสุด 77 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที ด้านรูปลักษณ์คมเข้มมากขึ้น ด้วยสไตล์และการตกแต่งรายละเอียดสีดำสนิททั่วทั้งคัน นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการแต่งรถเป็นหัวใจสำคัญ จึงมีชุดแต่ง “Old School” และอุปกรณ์เสริมให้เลือกมากมายกว่า 120 รายการ เพื่อการปรับแต่งรายละเอียดและสไตล์ รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายและเสริมประสิทธิภาพรถให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค มาพร้อมกับสีที่น่าสนใจถึง 2 สี ได้แก่สี Jet Black เงางามสุดคลาสสิก และสี Matt Jet Black แบบร่วมสมัย สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 625,000 บาท
สำหรับรุ่น “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์สไตล์คัสตอมแท้ อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอสายพันธุ์อมตะเหนือกาลเวลาที่รวมคุณลักษณะอันโดดเด่นของมอเตอร์ไซค์ตระกูลบอบเบอร์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ส่งมอบภาพลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของบอบเบอร์อย่างเต็มเปี่ยมแต่สามารถใช้งานได้ง่ายดายและคล่องแคล่วขึ้นกว่าที่เคย โดยมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บอนเนวิลล์ ขนาด 1200 ซีซี ส่งมอบแรงบิดสูงสุดถึง 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และส่งมอบพละกำลังสูงสุดที่ 77 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที พร้อมมอบภาพลักษณ์คัสตอมสุดคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสายพันธุ์การออกแบบที่สืบทอดมาจากบอบเบอร์อย่างเต็มเปี่ยม ตลอดจนได้ถูกออกแบบมาสำหรับการปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยชุดแต่งทั้งหมด 2 ชุด โดยชุดแต่ง ‘Highway’ สำหรับเพิ่มขีดความสามารถด้านทัวร์ริ่งจึงมีชุดสัมภาระแบบอ่อนครบชุด ส่วนชุดแต่ง ‘Maverick’ สำหรับผู้ที่ขี่ต้องการภาพลักษณ์เรียบง่ายแต่ดุดัน และอุปกรณ์เสริมที่มีให้เลือกมากกว่า 130 รายการ
ทั้งนี้ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” โฉมใหม่มาพร้อม 3 สีสุดคลาสสิกให้เลือก ได้แก่ สี Jet Black สี Cranberry Red/Jet Black และสี Fusion White/Phantom Black พร้อมตัดเส้นคู่ด้วยมือ สนนราคาจำหน่าย 625,000 บาท
อย่างไรก็ตามนอกจากกรถมอเตอร์ไซค์ไฮไลต์ข้างต้นแล้ว บูธไทรอัมพ์ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ได้เนรมิตขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “British Premium Lifestyle” โดยได้นำรถมาโชว์ในงาน 26 คัน ตลอดจนเนรมิตโซนเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่ขนมาให้เลือกชมและซื้อกันอย่างจุใจ พร้อมส่วนลดพิเศษ 15 - 30 เปอร์เซ็นต์ และโปรโมชั่นอื่นๆอีกมากมาย พิเศษสุดๆ สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นทุกคันภายในงานเท่านั้น รับฟรีทันที! ถุงผ้าใส่หมวกกันน็อค Limited Edition จากไทรอัมพ์ นายจักรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บูธไทรอัมพ์ G05 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 - วันที่ 11 ธันวาคม 2560 สอบถามข้อมูลติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด อีเมล์: Contact.TH@triumphmotorcycles.com หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand