ฟอร์ด ประเทศไทย จัดกิจกรรม Ford Advanced Driving Experience เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะใหม่ ในกระบะสายพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.2 ลิตร และรถยนต์อเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส รุ่นปี 2016 เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เทคโนโลยีเหนือระดับ ตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ – พระนครศรีอยุธยา สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบเทคโนโลยีอันชาญฉลาดใหม่ที่เพิ่มในฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.2 ลิตร และฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส รุ่นปี 2016 เพื่อมอบความสะดวกสบายและเพิ่มความมั่นใจสูงสุดขณะขับขี่ตลอดการเดินทาง ได้แก่ • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ใช้เรดาร์วัดระยะห่างระหว่างรถคันหน้า โดยระบบจะตั้งค่าระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติเพื่อให้รถอยู่ห่างจากรถคันหน้าในระยะที่ปลอดภัยตามความเร็วที่ตั้งไว้ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบคันเร่งหรือเบรคตามคันหน้า หากรถคันหน้าเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ต่ำลง ระบบจะลดความเร็วลงอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างในระยะที่ปลอดภัย เมื่อถนนกลับมาโล่งและคันหน้าเร่งความเร็ว ระบบจะเร่งความเร็วตามสภาพการจราจรกลับมาที่ความเร็วที่ตั้งค่าไว้ • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ทำงานร่วมกับกล้องที่ติดตั้งบริเวณหน้ารถเพื่อตรวจจับหาเส้นแบ่งเลนบนพื้นถนนข้างหน้า โดยระบบจะสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ขับขี่กำลังเบนรถออกจากเลนโดยตั้งใจหรือไม่ จากนั้นจึงเปรียบเทียบข้อมูลจากกล้องกับมุมและแรงบิดของพวงมาลัย หากระบบพบว่าผู้ขับขี่กำลังเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะเข้าควบคุมแรงบิดของพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าเพื่อดึงรถกลับเข้าสู่เส้นทางเดิม หากรถยังคงเคลื่อนออกนอกเลน สัญญาณเตือนการเปลี่ยนเลนจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยระบบสั่นที่พวงมาลัย • ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ใช้เรดาร์บริเวณหน้ารถเพื่อวัดระยะห่างของรถกับวัตถุที่เคลื่อนที่อยู่ด้านหน้า โดยจะป้องกันการชนที่ความเร็วสูงกว่า 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากระบบวัดค่าเวลาก่อนชนได้ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมกระพริบไฟบนกระจกด้านหน้าและแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอแสดงข้อมูล หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณเตือน ระบบจะชาร์จแรงเบรกเตรียมไว้ จึงทำให้ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้อย่างรวดเร็วเมื่อแตะเบรก ลดความเสียหายจากการกระแทกหรือหลีกเลี่ยงโอกาสการชน • ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System) จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้า ระบบดังกล่าวทำงานโดยใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณกระจกหน้าซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ กล้องนี้มีหน้าที่ระบุและบันทึกตำแหน่งช่องทางที่รถวิ่งอยู่ เมื่อรถเคลื่อนที่ ระบบจะคาดการณ์ตำแหน่งที่รถควรจะอยู่โดยอ้างอิงจากตำแหน่งของช่องทางที่มีการบันทึกไว้ จากนั้นจึงวัดหาตำแหน่งที่แท้จริงของรถ หากพบว่ามีค่าความแตกต่างมาก ระบบจะส่งสัญญาณเตือนบนหน้าจอควบคุม หากผู้ขับขี่ยังไม่มีการตอบสนอง ระบบจะแสดงสัญญาณที่หน้าจอแสดงข้อมูล เพื่อให้ผู้ขับขี่ทราบว่าควรหยุดพัก อย่างไรก็ตาม ระบบจะไม่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนช่องทางเพื่อเร่งแซง เนื่องจากระบบสามารถรับรู้ได้ว่าผู้ขับขี่บังคับรถออกนอกช่องทางโดยตั้งใจ • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control) ระบบจะทำงานที่ความเร็วสูงกว่า 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบนี้ใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าตรวจสอบสภาวะต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อพิจารณาว่าเมื่อใดต้องเปิดหรือปิดไฟสูง ระบบจะเปิดไฟสูงเมื่อบริเวณนั้นมืดมากพอและไม่มีแสงไฟจากรถคันอื่นๆ โดยรอบ นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบเทคโนโลยีเพิ่มเติมใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส รุ่นปี 2016 ได้แก่ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ที่ช่วยให้การนำรถเข้าจอดเทียบข้างเป็นเรื่องง่ายดายด้วยการเหยียบคันเร่ง เข้าเกียร์ และเบรก โดยไม่จำเป็นต้องบังคับพวงมาลัย รวมไปถึง ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอดหรือเมื่อมีรถตัดผ่านในขณะถอยออกจากซองจอด ช่วยให้การถอยรถออกจากช่องจอดได้เป็นได้ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น “กิจกรรม Ford Advanced Driving Experience จัดขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะอันล้ำสมัยที่ได้เพิ่มเติมขึ้นในฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.2 ลิตร และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส รุ่นปี 2016 ทั้งนี้เทคโนโลยีต่างๆ นั้น ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการนำเสนอรถที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับโลกเพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสในราคาที่สามารถจับต้องได้ อีกทั้งยังเป็นการเดินหน้าผลักดันให้ฟอร์ด เรนเจอร์ สร้างมาตรฐานใหม่รถกระบะขึ้นอีกระดับ และตอกย้ำความตั้งใจในการสร้างมาเพื่อเป็นที่หนึ่งของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เรามั่นใจว่าเทคโนโลยีใหม่ที่นำเสนอนี้จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสการขับขี่ที่เปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายและความปลอดภัย พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ขับขี่คนไทยได้เป็นอย่างดี” นางสาวอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว