หลังจากมาสด้าเปิดตัวแนะนำ All-New Mazda CX-8 ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์เอสยูวีระดับพรีเมียมแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง มาพร้อมอีก 2 ทางเลือกกับเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท ที่มีราคาเบียดๆกับ Mazda CX-5 แต่จะมีความกว้างขวางสะดวกสบายกว่ามาก
VIDEO
All-New Mazda CX-8 รูปโฉมภายนอก เมื่อมองจากด้านหน้าถึงกลางตัวรถช่วงเสา B จะมีดีไซน์ และมิติตัวรถที่ไม่ต่างจาก Mazda CX-5 แต่เมื่อมองจากช่วงกลางหลังเสา B ไปยังท้ายรถจะเห็นชัดเจนว่ามีความยาวของตัวรถมากกว่าสำหรับพื้นที่เบาะนั่งแถวที่ 3 ที่เป็นจุดขายหลักของ All-New Mazda CX-8 โดยนำแพลตฟอร์มของรถรุ่นท็อปสุดของมาสด้าอย่าง cx-9 มาพัฒนาปรับใช้ใน All-New Mazda CX-8
มิติตัวถังของ All-New Mazda CX-8 ตัวรถยาว 4,900 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,730 มม. และระยะฐานล้อ 2,930 มม. เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ Mazda CX-5 ที่มีความยาว 4,550 มม. กว้าง 1,840 มม. และสูง 1,680 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,700 มม. จะเห็นได้ว่ามีความยาวและความสูงมากกว่า รวมถึง All-New Mazda CX-8 ยังมีฐานล้อที่กว้างกว่า ซึ่งทำให้มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่า
ออพชั่นของ All-New Mazda CX-8 ทั้ง 4 รุ่น นอกจากเครื่องยนต์และรูปแบบที่นั่งแล้ว ออพชั่นหลักๆที่มีความแตกต่างกัน จะเป็นพวกระบบความปลอดภัยที่จะมีมาให้ครบตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แต่ในรุ่น Top สุด 2.2 XDL EXCLUSIVE SKYACTIV-D AWD 6 ที่นั่ง ก็จะมีระบบเสียงของ Bose พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง รวมถึงเพิ่มระบบความปลอดภัยเข้ามาอีกจากรุ่นอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่อีกระดับ
All-New Mazda CX-8 มีเครื่องยนต์มาให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ โดยในรุ่น XDL EXCLUSIVE มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD ที่ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน และมาสด้าเคลมอัตราประหยัดน้ำมันสูงที่ 17.5 กิโลลิตร
อีกทางเลือกจะเป็นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ และมาสด้าเคลมอัตราประหยัดน้ำมันไว้ที่ 13.5 กิโลลิตร
สำหรับ All-New Mazda CX-8 จะมีให้เลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง และ7 ที่นั่ง โดยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นรุ่น Top สุด 2.2 XDL EXCLUSIVE SKYACTIV-D AWD แบบ 6 ที่นั่ง ราคา 2,069,000 บาท และรุ่น 2.2 XDL SKYACTIV-D แบบ 7 ที่นั่ง ราคา 1,899,000 บาท ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 SKYACTIV-G จะมีเฉพาะแบบ 7 ที่นั่ง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท ในรุ่น 2.5 S SKYACTIV-G แบบ 7 ที่นั่ง และราคา 1,699,000 บาท ในรุ่น 2.5 SP SKYACTIV-G แบบ 7 ที่นั่ง
ซึ่งรูปแบบห้องโดยสารแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง จะมีความแตกต่างกันที่เบาะนั่งแถวที่ 2 โดยในแบบ 6 ที่นั่งจะเป็นแบบ Captain Seat 2 ที่นั่ง แยกซ้าย-ขวา มีคอนโซลกั้นกลาง ตัวเบาะสามารถปรับเอนได้มากกว่าในแบบห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง ที่เบาะแถวที่ 2 จะเป็นแบบ 3 ที่นั่ง สามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 พร้อมพนักวางแขน โดยเบาะนั่งจะปรับเอนได้น้อยกว่าแบบ 6 ที่นั่ง
ส่วนในการปรับพับเบาะแถวที่ 2 เพื่อขึ้นไปนั่งในเบาะแถวที่ 3 ก็เหมือนกัน โดยดึงคันโยงที่ตัวเบาะให้ปรับพับและเลื่อนไปข้างหน้าซึ่งสามารถพับได้ทั้งซ้ายขวาที่สามารถก้าวขึ้นไปยังเบาะนั่งแถวที่ 3 ได้ค่อนข้างสะดวก จากตัวรถที่มีความสูงของพื้นรถกับพื้นทางที่เรายืนอยู่ไม่มากนัก
ช่วงทดสอบ All-New Mazda CX-8
กับทีมงาน Auto-Thailand
เริ่มการทดสอบ All-New Mazda CX-8 กับเส้นทาง จ.เชียงราย มุ่งหน้าสู่ จ.เชียงใหม่ โดยจะมีจุดแวะพักและสลับผู้ขับขี่ 4 จุด ซึ่งรถที่เราได้ทดลองขับจะเป็นรุ่น 2.5 SP SKYACTIV-G แบบ 7 ที่นั่ง พร้อมผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 4 คน พร้อมสัมภาระ
ทีมงาน Auto-Thailand ขอไปทดลองนั่งในเบาะแถวที่ 3 ก่อนกับระยะทางช่วงแรก 76 กม. โดยมีน้องที่ร่วมเดินทางมานั่งด้วย สำหรับเบาะแถวที่ 3 ของ All-New Mazda CX-8 เริ่มตั้งแต่การเข้าออกทำได้ค่อนข้างสะดวก ความสูงของตัวรถจากพื้นไม่สูงจนเกินไป การก้าวขึ้นลงทำได้ไม่ยากนัก แต่ก็ไม่ได้สะดวกเหมือนเข้าไปนั่งยังเบาะแถวที่ 2
ตัวเบาะแถวที่ 3 พนักพิงหลังออกแบบมาได้องศากำลังดีไม่สามารถปรับเอนเพิ่มได้ ตัวเบาะนั่งค่อนข้างกว้าง พื้นที่วางขามีมาให้เพียงพอ ถึงจะไม่กว้างนัก แต่ก็พอให้ขยับขาปรับเปลี่ยนท่านั่งแก้เมื่อยล้าได้ แต่ตรงนี้ก็ต้องได้รับการอนุเคราะห์แบ่งปันจากผู้นั่งในแถวที่ 2 ให้เลื่อนเบาะในตำแหน่งที่พอดี เอาเป็นว่า เบาะ 3 แถวของ All-New Mazda CX-8 ถือว่าเป็นเบาะที่สามารถใช้งานได้จริง ค่อนข้างสบายระดับหนึ่ง ถ้าเป็นคนรูปร่างไม่ใหญ่มากนัก เพราะว่าทางมาสด้าบอกว่า ที่นั่งแถวที่ 3 ออกแบบมาเพื่อผู้โดยสารสูงประมาณ 170 ซม. ซึ่งน้องที่มานั่งด้วยสูง 174 ซม.ก็จะทำให้พื้นที่เหนือศีรษะเหลือน้อยจนเกือบติดหลังคา เวลารถกระโดดคอสะพานก็จะมีกระทบกระทั่งบ้างก็ต้องอาศัยการขยับเลื่อนการนั่งไม่ให้หลังพิงพนักเต็มก็พอจะรอดจากการหัวกระแทกหลังคาไปได้บ้าง แต่ถ้าเป็นคนรูปร่างเล็กหรือเด็กก็ต้องบอกว่าใช้งานนั่งได้สบาย
ในช่วงที่ทดลองนั่งในเบาะแถวที่ 3 สิ่งที่พบปัญหาก็คือ เรื่องระบบแอร์ยังไม่สามารถกระจายความเย็นมาได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ ทั้งๆที่มีท่อแอร์ส่งลมแอร์ที่ใต้เบาะนั่งแถวที่ 2 ซึ่งเท่าที่สังเกตก็ไม่น่าเหมาะกับการใช้งาน เพราะจะเป็นการเป่าลมจากพื้นบริเวณที่วางเท้า ซึ่งก็อาจจะมีกลิ่นและสิ่งไม่พึงประสงค์ตามมาได้ ตรงนี้ไหนๆก็ออกแบบมาให้เป็นรถที่มีเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ก็ควรจะมีการออกแบบช่องแอร์ให้สามารถส่งความเย็นได้อย่างทั่วถึงในส่วนนี้
แต่ในการนั่งในตำแหน่งเบาะแถวที่ 3 ก็ยังมีสิ่งที่น่าประทับใจก็คือ เรื่องการเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกของห้องโดยสาร โดยเฉพาะตำแหน่งการนั่งหลังสุดที่ส่วนใหญ่จะค่อนข้างได้ยินเสียงต่างๆได้ชัดเจน แต่สำหรับ All-New Mazda CX-8 การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้น่าพอใจ ผู้โดยสารในเบาะแถวที่ 3 สามารถพูดคุยด้วยระดับเสียงธรรมดากับผู้ขับขี่ก็สามารถสื่อสารได้ยินชัดเจน
และอีกจุดหนึ่งที่พบก็คือ ความรู้สึกกับระบบช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวล หนึบแน่นในสไตล์มาสด้า เมื่อนั่งในเบาะแถวที่ 3 รวมถึงในการเดินทางขึ้นลงเขา เส้นทางคดโค้ง ก็รู้สึกการโยนตัวที่น้อย นั่งแล้วไม่เมารถง่ายๆ ต้องบอกเลยว่า นิ่งกว่าหลายๆคันที่เป็นรถที่มีเบาะแถวที่ 3 แบบนี้
เมื่อถึงจุดแวะพักที่ 2 ทีมงาน Auto-Thailand ได้เปลี่ยนมานั่งโดยสารในเบาะแถวที่ 2 ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่านั่งสบาย ตัวพนักพิงสามารถปรับเอนเพิ่มได้อีกเล็กน้อย โดยในส่วนเบาะแถวที่ 2 จะมีช่องแอร์ที่คอนโซลกลางที่สามารถปรับเพิ่มลดแรงลมและอุณหภูมิได้แยกจากด้านหน้า ตัวเบาะจะสามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 พร้อมพนักวางแขน ที่วางแก้ว ก็ใช้งานได้สะดวกดี แต่ถ้ามีการนั่งเต็ม 3 ที่นั่ง คนนั่งตรงกลางอาจจะไม่สะดวกนักกับส่วนพื้นห้องโดยสารที่จะมีลักษณะโค้งน่าจะทำเผื่อสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
โดยในช่วงนี้ก็ได้มีโอกาสเปลี่ยนไปนั่งเบาะนั่งด้านหน้าคู่กับผู้ขับขี่ ซึ่งตัวเบาะปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง แต่ไม่มีหน่วยความจำเหมือนเบาะผู้ขับขี่ การนั่งก็กระชับนั่งสบาย ตัวเบาะหุ้มหนัง Nappa อย่างดี วัสดุโดยรอบดูมีคุณภาพ คอนโซลหน้า แผงประตู บุด้วยวัสดุแบบนุ่มเหมือนรถหรูค่ายยุโรป ซึ่งตรงนี้ถือว่ามาสด้าให้ความสำคัญและทำได้ดีเลยทีเดียว
และเมื่อมาถึงจุดแวะพักที่ 3 ทีมงาน Auto-Thailand จึงเปลี่ยนมาเป็นผู้ขับขี่ ก้าวขึ้นไปนั่งในเบาะผู้ขับขี่เบาะนั่งกระชับนุ่มสบาย ตัวเบาะปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง บรรยากาศโดยรวมไม่ต่างจาก Mazda CX-5
เริ่มออกตัวก็สามารถสัมผัสพละกำลังของเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) 194 แรงม้า ที่ให้แรงบิด 258 นิวตัน-เมตร ที่ไม่มีเทอร์โบช่วย ก็สามารถเรียกอัตราเร่งได้ค่อนข้างทันใจ ถึงแม้จะไม่ได้ดึงกันแบบหลังติดเบาะ แต่เพียงพอที่จะพาตัวรถขนาดใหญ่พร้อมผู้โดยสารรวม 4 คน ไปได้แบบไม่เหนื่อย
โดย All-New Mazda CX-8 จะเป็นรถที่ค่อนข้างยาว แต่เมื่อได้ขับขี่จริงกลับพบว่า ขับขี่ง่าย มีความคล่องตัวที่ไม่ได้ต่างจากการขับขี่ Mazda CX-5 เลยก็ว่าได้
พวงมาลัยไม่หนักมาก น้ำหนักกำลังดี แต่อยากให้เพิ่มตึงมือขึ้นกว่านี้อีกเวลาขับด้วยความเร็วสูง แต่ช่วงความเร็วทั่วไปใช้งานได้มั่นใจ แม่นยำดี และด้วยความที่ไม่ได้ลดต้นทุนใช้ระบบเกียร์ CVT แบบที่นิยมกัน ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์ทำได้ต่อเนื่องและยังให้ฟิลลิ่งในการขับที่ดี อัตราเร่งสามารถเรียกใช้ได้รวดเร็ว ด้วยเฉพาะช่วงขับขึ้นลงทางชันทางเขา ระบบเกียร์จะมีการเชนเกียร์ช่วยให้เหมาะสมกับการขับขี่ในเส้นทางนั้นๆทำให้การขับขี่ได้สนุก และยังสามารถเลือกการปรับเปลี่ยนเล่นเกียร์เองก็ได้ พร้อมด้วยโหมด Sport ที่คอนโซลเกียร์ที่จะเพิ่มความสนุกในการขับขี่ได้อีกด้วย แต่ตรงนี้ก็น่าจะมีแป้นแพดเดิลชิพมาให้ใช้งานจะได้ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยไปโยกคันเกียร์เพื่อเปลี่ยนเกียร์เวลาขับขี่แบบแมนนวล อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ขับขี่ได้มั่นใจก็คือเรื่องระบบเบรกที่สามารถชลอความเร็วของรถได้ตามสั่งตามแรงที่เหยียบแป้นเบรก ทั้งยังมีระบบช่วยการขับขี่อีกหลายตัวเข้ามาช่วยให้ความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้นอีกด้วย
สำหรับอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการขับขี่ในครั้งนี้อยู่ที่ 9.4 กิโลลิตร ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่ไม่สวยนัก อาจมาจากการทดลองขับขี่เรียกอัตราเร่ง รวมถึงใช้ความเร็วขับไล่ตามขบวน ซึ่งก็อาจจะเป็นการใช้งานที่เกินธรรมดาไปหน่อย ถ้าขับขี่ทั่วไป เดินทางใช้ความเร็วตามกำหนดตัวเลขก็น่าจะได้ใกล้เคียงที่ทางมาสด้าเคลมมาก็น่าจะไม่ยากนัก
ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ All-New Mazda CX-8 รถยนต์ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์เอสยูวี รุ่นที่เราได้ทดลองขับคือรุ่น Top ของเครื่องยนต์เบนซิน ที่ออพชั่นบางตัวจะมาไม่เต็มเท่ารุ่น Top เครื่องยนต์ดีเซล โดยเฉพาะไม่มีรุ่น 6 ที่นั่งให้เลือกในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน อัตราเร่งของรุ่นนี้ก็น่าจะเพียงพอกับการใช้งาน แต่ถ้าต้องการพละกำลังแบบจัดจ้านก็อาจต้องไปคบกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลตัว Top ที่จะต้องจ่ายเพิ่มอีกพอสมควร
ส่วนห้องโดยสารของ All-New Mazda CX-8 จะเด่นเรื่องการเก็บเสียงรบกวนจากภายนอก ในรุ่น 2.5 SP SKYACTIV-G แบบ 7 ที่นั่ง ที่ได้ทดลองขับสามารถตอบโจทย์การใช้งานกับรูปแบบเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 3 สามารถนั่งได้จริง นั่งจริงกับระยะทางกว่า 70 กม.ก็พอรับได้ ถ้าผู้โดยสารไม่ได้มีรูปร่างสูงเกิน 170 ซม. แต่ติดที่ว่าเบาะนั่งแถวที่ 3 จะค่อนข้างร้อนจากระบบแอร์ที่ไม่เพียงพอ ก็คงต้องอาศัยการติดฟิล์มกรองแสงและปรับเพิ่มแรงลมจากข้างหน้าและจากแถวที่ 2 เข้าช่วย ผู้โดยสารที่นั่งแถว 3 ก็น่าจะสะดวกสบายมากขึ้น แต่ถ้าคิดว่านานๆจะใช้งานสักที เมื่อปรับพับเบาะแถวที่ 3 ก็จะได้พื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นอีกมากในแบบที่รถกลุ่มเดียวกันรุ่นอื่นๆไม่สามารถให้ได้เท่า All-New Mazda CX-8 คันนี้แน่นอนครับ