นิสสัน ประเทศไทย พาร่วมทดสอบ Nissan Leaf ใหม่ ในระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เริ่มต้นจากในตัวเมืองเชียงใหม่ ขับขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,565 เมตร จากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พัก ซึ่งการทดสอบขับนี้ ใช้พลังงานไฟฟ้าจากการชาร์จเพียงเต็มครั้งเดียวเท่านั้น Nissan Leaf ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า มากกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า 38% มีแรงบิดเพิ่มขึ้น 26% เป็น 320 นิวตันเมตร ทางนิสสันเคลมตัวเลขอัตราเร่งจาก 0-100 กม/ชม ด้วยเวลาเพียง 7.9 วินาที และสามารถวิ่งได้ระยะทาง 311 กม. โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชุดใหม่ขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง Nissan Leaf ใหม่ ยังให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ ด้วย e-Pedal ที่จะให้ผู้ขับขี่ขับออกตัว เร่งความเร็ว ชลอความเร็ว หยุดรถด้วยการใช้แป้นคันเร่งอย่างเดียว ซึ่งตรงนี้จะต้องใช้ความคุ้นชินในการขับและคุ้นเคยกับระบบคือ จะต้องกะระยะห่างจากคันหน้าอย่างไร และถ้าคุ้นเคยแล้วการใช้งานโดยเฉพาะในช่วงการจราจรติดขัดเคลื่อนตัวช้าในเมืองจะสามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายเพียงแค่ผู้ขับขี่ควบคุมคันเร่งอย่างเดียวก็สามารถเดินหน้า ชลอความเร็ว และหยุดรถได้อย่างมั่นใจ Nissan Leaf ใหม่ จะมีตำแหน่งเกียร์สำคัญที่ต้องใช้งานก็คือ ตำแหน่งเกียร์ D เดินหน้า ด้วยการผลักคันเกียร์เข้าหาตัวผู้ขับขี่และดึงลง 1 ครั้ง ส่วนถ้าต้องการเข้าสู่ตำแหน่งเกียร์ B ก็เหมือนเดิมอีก 1 ครั้ง ซึ่งตำแหน่งเกียร์ B จะมีความสำคัญอย่างมากในการขับขี่ให้ได้ระยะทางมากขึ้น โดยจะช่วยในการชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้อีกทางหนึ่ง อีกฟังก์ชั่นที่ประทับใจในการทดลองขับ Nissan Leaf ใหม่ ก็คือโหมดการขับขี่ โดยจะมีโหมด ECO และโหมดธรรมดา ซึ่งการขับในโหมด ECO อัตราเร่งที่ได้ช่วงต้นจะมาในแบบเรื่อยๆ แต่ถ้ากดคันเร่งเพิ่มอัตราเร่งก็สามารถสอบสนองได้รวดเร็วทันใจเหมือนกัน แต่ถ้าเราใช้โหมดธรรมดาในการขับขี่ โดยกดปุ่ม ECO ที่คอนโซลเกียร์ให้ไฟ ECO ที่หน้าปัดดับ อัตราเร่งจะให้การตอบสนองที่รวดเร็วทันใจตั้งแต่เริ่มออกตัวกันเลยทีเดียว และยังสามารถทำความเร็วต่อเนื่องด้วยความเรียบเนียนไปจนถึงความเร็วสูง เรียกว่าตอบสนองได้ดีกว่ารถเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแบบชัดเจน ช่วงทดสอบ Nissan Leaf ใหม่ กับทีมงาน Auto-Thailand กิจกรรมเริ่มต้นที่โรงแรมที่พักชานเมืองเชียงใหม่ ด้วย Nissan Leaf ใหม่ ที่จอดชาร์จไฟรอพร้อมใช้งาน โดยวิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ใหม่ จะมีด้วยการ 3 วิธี คือ การชาร์จจากไฟบ้านปกติ หรือ standard outlet charging (มีไปให้กับรถ) ใช้เวลาชาร์จประมาณ 12-16 ชั่วโมง การชาร์จจากอุปกรณ์ชาร์จติดผนัง หรือ wall box charging (ต้องซื้อติดตั้งเพิ่ม) ใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง และรวมถึงการชาร์จแบบด่วนหรือที่เรียกว่า Quick Charge (ส่วนใหญ่อยู่ที่สนานีชาร์จและศูนย์บริการนิสสัน) ใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 40-60 นาที ซึ่งครั้งนี้ทางนิสสันได้มาติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จติดผนังกับรถทดสอบทุกคัน เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ยอดดอยอินทนนท์ ด้วยแบตเตอรี่ 100% มีระยะวิ่งใช้งานตามหน้าปัด 300 กม. โดยในเที่ยวขาไปจะเป็นแบบขับขี่ตามสบายให้ได้ทดลองขับ Nissan Leaf ใหม่ ในโหมดต่างๆ โดยเริ่มเคลื่อนตัว เราทดลองใช้งานระบบ e-Pedal โดยการกดปุ่มที่บริเวณคอนโซลเกียร์ สำหรับช่วงขับออกจากโรงแรมที่พักก็ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ สามารถเร่งความเร็วขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยการเหยียบคันเร่ง ส่วนในช่วงที่ต้องชลอความเร็วก็เพียงแค่กะระยะห่างจากรถคันหน้าและค่อยๆยกคันเร่ง รถก็จะชลอความเร็วลงให้จนสามารถหยุดสนิทเลยก็ได้ ส่วนในเส้นทางตรงยาวๆ ได้ลองใช้งานระบบครูสคอนโทรลของ Nissan Leaf ใหม่ ที่เรียกว่ามีการควบคุมความเร็วได้อย่างนุ่มเนียน และที่สำคัญระบบจะพยายามรักษาความเร็วให้อยู่ในช่วง ECO ซึ่งสามารถดูได้จากการแสดงผลบนหน้าปัดมาตรวัด ที่นอกจากสะดวกในการขับขี่แล้วยังประหยัดพลังงานได้อีกด้วย ในช่วงที่เป็นผู้ขับขี่การนั่งที่เบาะผู้ขับขี่ยังรู้สึกไม่ค่อยกระชับรับสัดส่วนนัก คุณภาพวัสดุภายในพอใช้ แต่จะมีตัวเครื่องเสียงที่คอนโซลกลางที่ดูแล้วไม่สมราคารถ โดยน่าจะดูทันสมัยและมีฟังก์ชั่นมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าออพชั่นต่างๆจะดูแล้วมาไม่สมกับราคา แต่ภายในห้องโดยสารของ Nissan Leaf ใหม่ ก็มีความกว้างขวางโดยเฉพาะด้านหลังนั้นกว้างไม่แพ้รถรุ่นอื่นๆเลย สำหรับการขับขึ้นยอดดอยอินทนนท์นั้นเส้นทางจะมีทั้งทางชัน โค้งซ้ายขวาตลอดเส้นทาง พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าของ Nissan Leaf ใหม่ สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้ทันใจ แม้ขับบนทางลาดชัน ซึ่งตรงนี้ชัดเจนเลยว่าให้การขับขี่ได้ดีกว่ารถเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลทั่วไป อัตราเร่งสามารถสั่งได้เพียงเติมคันเร่งในโหมด ECO ก็สามารถให้อัตราเร่งใช้งานขับขึ้นทางเขาทางชันสบายแล้ว แต่ถ้าต้องการพละกำลังและสนุกกับการขับขี่ก็ใช้โหมดธรรมดาซึ่งจะมีอัตราเร่งที่ปรูดปร้าดกว่ามาก และเมื่อมาได้ช่วงล่างของ Nissan Leaf ใหม่ ที่ปรับเซตมาแบบนุ่มหนึบก็สามารถขับขี่ในทางโค้งทางขึ้นดอยอินทนนท์ได้อย่างสบาย แต่โดยส่วนตัวยังเห็นว่าช่วงล่างของ Nissan Leaf ใหม่ ถ้าได้รับการปรับเซตให้หนึบขึ้นกว่าเดิมอีกนิดจะขับขี่สมบูรณ์แบบกว่านี้ ส่วนพวงมาลัยนั้นก็ให้น้ำหนักเบาควบคุมง่ายในความเร็วต่ำ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเบาเกินไป แต่ในการขับใช้ความเร็วสูงก็ปรับหนืดขันมาบ้างเล็กน้อย และเมื่อขับขึ้นไปถึงจุดพักบนยอดดอยอินทนนท์ที่มีการเช็กระดับแบตเตอรี่ที่เหลือ โดยคันของเรามีแบตเตอรี่เหลือ 21% กับระยะทางประมาณ 50 กม.ที่จะวิ่งได้ ซึ่งไม่สามารถกลับถึงโรงแรมที่พักได้แน่นอน โดยในเที่ยวขากลับวิ่งลงเขา ก็จะต้องใช้ประโยชน์จากเส้นทางชัน และเกียร์ B พร้อมโหมด ECO ใน Nissan Leaf ใหม่ เพื่อให้เดินทางกลับถึงจุดหมายได้ โดยในเกียร์ B จะช่วยให้มีการชาร์จพลังงานกลับเข้าไปที่แบตเตอรี่ ระยะทางจากยอดดอยลงมาถึงจุดตรวจด้านล่างระยะทาง 50 กม. เราสามารถได้พลังงานในแบตเตอรี่เพิ่มมาประมาณ 30% กับระยะทางที่วิ่งได้ 100 กม.นิดๆที่เพียงพอกับการขับใช้งานและเดินทางกับที่พักได้ แต่ก็ต้องบอกตรงๆว่าอาจมีลุ้นบ้างถ้าขับหลงหรือออกนอกเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในเที่ยวขากลับ ด้วยเกียร์ B พร้อมโหมด ECO ใน Nissan Leaf ใหม่ จะขับกันแบบเรื่อยๆ ไม่ได้กดหนักเหมือนช่วงขาไป เพราะบอกตรงๆว่า ก็กลัวกลับไม่ถึงโรงแรมที่พัก ซึ่งตรงนี้แหละครับที่คือความกังวลของผู้ใช้รถที่รู้สึกกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% เพราะถ้าแบตเตอรี่หมดไม่สามารถหาเติมเพิ่มได้ง่ายเหมือนใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และปัญหาตรงนี้ก็อยากจะบอกว่า มันจะไม่น่ากลัวเลย ถ้าเรามีการวางแผนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ในการเดินทาง ที่จะต้องคำนวนระยะทางที่วิ่งได้กับปริมาณแบตเตอรี่ในรถเรา รวมถึงวางแผนหาสถานีชาร์จตามสถานที่ที่เราต้องเดินทางผ่านไว้ด้วย เมื่อเดินทางถึงโรงแรมที่พัก Nissan Leaf ใหม่ รถคันที่เราขับมาเหลือปริมาณแบตเตอรี่อยู่ที่ 12% กับระยะทางที่ยังวิ่งได้อีก 35 กม. รวมระยะการเดินทางจากโรงแรมที่พัก - ดอยอินทนนท์ - โรงแรมที่พัก 206 กม. ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ Nissan Leaf ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มีดีเรื่องอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจสั่งได้ทุกเส้นทางแม้ในช่วงขับขึ้นเขาขึ้นดอย แต่ด้วยการที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ผู้ขับขี่ใช้งานก็ต้องมีการปรับตัวเข้าหารถและมีการวางแผนเส้นทาง การหาสถานที่ชาร์จไฟให้ตัวรถ คงต้องบอกว่า Nissan Leaf ใหม่ เป็นรถที่เหมาะกับคนที่มีความพร้อมและตั้งใจจะใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพราะว่าจะต้องมีการปรับตัวมากกว่าการใช้รถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป สรุปสุดท้ายสำหรับ Nissan Leaf ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า 100% เรื่องสมรรถนะของรถผ่าน 100% แต่ปัญหาของรถรุ่นนี้ก็คือ เรื่องราคาค่าตัวที่เปิดมาแรงเกินไปที่ 1.99 ล้านบาท ถ้าเปิดราคามาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ก็น่าจะได้รับความสนใจมากกว่านี้แน่นอนครับ