ออโตโมบิลี แลมบอร์กินี บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอิตาลี และบลองแปง บริษัทผู้ผลิตนาฬิกาหรู สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ร่วมประกาศเปิดตัวซีรีย์การแข่งขันในเอเชียเป็นครั้งแรก กับรายการ แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ ณ สนามเซปังอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สำหรับการแข่งขันรายการนี้นับเป็นปีที่ 4 ในยุโรป กับความพิเศษของการแข่งขันในเอเชียจะมีการจัดสนามแข่งขันพิเสษสำหรับนักขับผู้ชาย โดยจะแบ่งเป็นประเภทเดี่ยวและประเภททีม ทีมละ 2 คน เพื่อลงชิงชัยประลองความเร็วไปกับเจ้ากระทิง แลมบอร์กินี ซุปเปอร์ โทรฟิโอ และขณะนี้มีทั้งหมด 18 ทีมจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น ที่ตบเท้าเข้าร่วมประลองความเร็วกับการแข่งขันรายการนี้
จากการที่มีผู้ชมรับชมเป็นจำนวนมาก ทีมเข้าแข่งขันจะทำตามรูปแบบการแข่งขันที่ตั้งขึ้นสำหรับฤดูกาลนี้ ประกอบด้วย ระยะเวลา 50 นาที่สำหรับการฝึกซ้อมเพื่อให้กิดความคุ้นเคยกับสนาม ก่อนที่จะลงแข่งขันในรอบคัดเลือกอีก 35 นาที และการแข่งขันอย่างเป็นทางการอีก 2 รอบ รอบละ 50 นาที ข้อบังคับของนักขับที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจาก 20 นาทีมาเป็น 30 นาที ในการแข่งขันแบบเป็นทางการทั้งสองรอบ เพื่อช่วยสร้างความมันส์และความตื่นเต้นให้กับผู้ชมมากยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละทีมต้องขับเคี่ยวชิงชัยกันอย่างสุดความสามารถ
สำหรับเอเชีย ซีรีย์ ในปีนี้เกิดขึ้นจากความสำเร็จตลอดสามฤดูกาลที่ผ่านมาของ ยูโรเปี่ยน ซีรีย์ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2552 เป็นต้นมา ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้สนามแข่งขันที่เป็นตำนาน ไม่ว่าจะเป็น สนามสปา-ฟรองโกชองส์ และ มอนซา และทางแลมบอร์กินี ก็พร้อมแล้วที่จะนำความมันส์มาสู่ทวีปเอเชีย และได้มาหยุดอยู่ที่สนามแข่งขันที่มีมาตราฐานระดับสากล ได้แก่ เซปัง ฟูจิ ออร์ดอส จูไห่ เพนเบย์ และที่เซี่ยงไฮ้ ในสนามสุดท้าย ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
“ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ ถือเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับบริษัทของเรา” กล่าวโดย สเตฟาน วิงเคิลแมน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แห่ง บริษัท ออโตโมบิล แลมบอร์กินี “ แลมบอร์กินี นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องรถซุปเปอร์คาร์ แต่ขณะนี้เราตื่นเต้นที่จะแบ่งปันความหลงใหลในโลกยานยนต์เหล่านี้ไปสู่กีฬามอเตอร์สปอร์ตและความตื่นเต้นเร้าใจอื่นๆทั่วทวีปเอเชีย และเรามีความตื่นเต้นได้ต้อนรับนักขับระดับโลก และเรามองไปข้างหน้าที่จะติดตามตลอดการแข่งขัน ในฐานะที่บรรดานักขับจะได้สัมผัสกับเจ้ากระทิงเปลี่ยวแลมบอร์กินี่ที่ดุดัน”
สำหรับการแข่งขันรายการนี้เป็นมากกว่ารายการกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่ง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ แชมเปี่ยนชิพ ยังมอบประสบการณ์ให้กับผู้ที่มีความกล้าที่จะมาควบเจ้ากระทิงตัวนี้ ในฐานะเป็นแบรนด์ระดับหรูและเป็นผู้ให้การสนับสนุนผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในงานฝีมือ ทางแลมบอร์กินี ถือเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับ บลองแปง บริษัทผู้ผลิตนาฬิกาหรู สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ และ บรรดาผู้ให้การสนับสนุนยุโรปซีรีย์ ในการจัดการแข่งขันเอเชีย ซีรีย์ เป็นครั้งแรก
โดยมร. เดรามูรัส รองประธานและหัวฝ่ายการตลาดของบลองแปลง กล่าวว่า “มากกว่า 20 ปีมาแล้วที่บลองแปง เป็นที่นิยมอยู่ในทวีปเอเชีย เรามีความตื่นเต้นที่ได้เปิดตัวการแแข่งขันชิงแชมป์ ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชียในปีนี้ รายการการแข่งขันนี้จะคล้ายคลึงกับ ซุปเปอร์ โทรฟิโอในยุโรป ที่จะนำผู้ที่หลงใหลในกีฬาความเร็วมาร่วมชิงชัยในสนามแข่งขันที่ยอดเยี่ยมของทวีปเอเชีย สำหรับบลองแปงและแลมบอร์กินี โปรเจ็คนี้ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่ได้จากการร่วมมือกันที่ดีในทวีปยุโรปตลอด 3 ปีที่ผ่านมา”
การเปิดตัวซีรีย์ ในเซปัง ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งเคียงคู่กันกับรายการยอดนิยมอย่าง มาเลเชีย ซุปเปอร์ ซีรีย์ สำหรับสนามต่อๆไปของ ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ ทางแลมบอร์กินีจะทำงานร่วมกับผู้จัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในเอเชีย เช่น ฟอร์มูล่า นิปปอน ใน ญี่ปุ่น และ Audi Pandelta Race ในจูไห่ และกับประเทศจีนที่จะร่วมกันทำให้เกิดการแข่งขันในสนามสุดท้ายที่เซียงไฮ้ ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ร่วมกับกลุ่มสุดท้ายอย่าง (Lamborghini ST, Audi R8 LMS Cup, VW Scirocco Cup Asia และ Porsche Cup Asia).
แลมบอร์กินี มอเตอร์สปอร์ต และ รถแข่งซุปเปอร์ โทรฟิโอ
สำหรับแลมบอร์กินี ถือไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยแลมบอร์กินี ได้เริ่มผลิตเครื่องยนต์ สำหรับฟอร์มูล่า วัน เป็นครั้งแรกในช่วงปีพ.ศ. 2532 ถึง 2536 นอกจากนี้รถแลมบอร์กินี ได้เข้าไปอยู่ในการแข่งขันรายการดีอาโบล ซุปเปอร์โทรฟี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2539 ถึง 2542 ด้วยการใช้รุ่น ดิอาโบล เอสวีอาร์ และ ดิอาโบล 6.0 จีทีอาร์ ตามมาด้วยการพัฒนาของรุ่น เมอร์ซีลาโก อาร์-จีที ซึ่งทำให้แลมบอร์กินีประสบความสำเร็จ ในการแข่งขันรายการ FIA GT Championship Super GT Championship และ American Le Mans Series จากนั้นในปีพ.ศ. 2552 ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของแลมบอร์กินีที่ได้ก้าวลงสู่สนามแข่งขันประลองความเร็ว ได้การผลิตรุ่นสำหรับแข่งขันอย่าง กัลญาร์โด้ แอลพี560-4 และถือเป็นอีกหนึ่งความทันสมัยทั้งในด้านการผลิตและการออกแบบ
ในการแข่งขัน เอเชีย ซีรีย์ ครั้งนี้ บรรดานักแข่งจะได้ควบเจ้ากระทิง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ ที่พัฒนามาจากรุ่นกัลญาร์โด้ แอลพี560-4 โดยได้มีการปรับปรุงแชสซี และเครื่องยนต์อยู่ที่ 419 กิโลวัตต์ ที่ส่งกำลังมาจากเครื่องยนต์ V10 สำหรับเจ้ากระทิงที่ใช้ทำการแข่งขันประกอบด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมถึงอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น เซลล์เชื้อเพลิง FIA FT-3 ระบบเบรค Brembo Racing และความสอดคล้องเข้ากันกับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย HANS
สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของแลมบอร์กินี คือ ตัวถังของ ซุปเปอร์ โทรฟิโอ ซึ่งมิใช่แค่เพียงมีความเบาเท่านั้น แต่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความปลอดภัย ด้วยความคงทนแข็งแรง เจ้ากระทิงซุปเปอร์ โทรฟิโอ ยังคงรักษาประสิทธิภาพนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับคาร์บอนไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบหลักของรถ ไม่ว่าจะเป็น ตัวถัง สเกิร์ตหน้า สปิรตเตอร์ ฝากระโปรงหลัง สเกิร์ตข้าง ดิฟฟิวเซอร์ สเกิร์ตหลัง และปีกท้ายรถขนาดใหญ่ โดยปีกท้ายสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสนามแข่งขันและสภาพแวดล้อม ในขณะที่กระจกหน้ารถและหน้าต่างทำมาจาก Makrolon เทคโนโลยีโพลีคาร์บอเนตที่มีน้ำหนักเบา
สิ่งที่ทำให้ซุปเปอร์ โทรฟิโอ สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น คือ การตกแต่งด้วย คาร์บอนไฟเบอร์หุ้ม Alcantara สีดำ โดยได้มีการติดตั้งเบาะนั่งแบบ low-mounted racing bucket seat ทำมาจาก Kevlar คาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ที่จะมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่
ผลการแข่งขัน
Race 1
1. Liu / Rizzo (#37), China
2. Wiser (#66), China
3. Charlz (#99), Singapore
4. Shigeru / Hideto (#10), Japan
5. Chan / Tse (#88), Hong Kong
6. Chou / Chen (#6), China
7. Chen (#3), China
8. Choi / Lau (#8), Hong Kong
9. Henry / Se (#22), China
10. Motoaki (#12), Japan
11. Cheng / Lok (#2), China
12. Wong / Hui (#23), Thailand
13. Chao / Lin (#38), Taiwan
14. Kai / Dong (#7), China
15. Ramli (#9), Malaysia
16. Lu (#36), Taiwan
17. Yeo (#11), China
18. Lu (#1), China
Race 2
1. Liu / Rizzo (#37), China
2. Charlz (#99), Singapore
3. Wiser (#66), China
4. Chan / Tse (#88), Hong Kong
5. Shigeru / Hideto (#10), Japan
6. Xu / Zhang (#7), China
7. Chou / Chen (#6), China
8. Chen (#3), China
9. Motoaki (#12), Japan
10. Wong / Hui (#24), Thailand
11. Chao / Lin (#38), Taiwan
12. Henry / Se (#22), China
13. Cheng / Lok (#2), China
14. Choi / Lau (#8), Hong Kong
15. Lu (#36), Taiwan
16. Yeo (#11), China
17. Ramli (#9), Malaysia
18. Lu (#1), China