เซรั่มลดริ้วรอย ช่วยได้จริงไหม เทียบกับครีมบำรุงแล้วแบบไหนดีกว่า


 

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเมื่อใช้เซรั่มแล้วผลลัพธ์ผิวจึงดีกว่าการใช้ครีมบำรุงเพียงอย่างเดียว เซรั่มทำงานอย่างไร ทำไมควรใช้ทาหน้าก่อนครีมบำรุง แล้วที่บอกว่า เซรั่มลดริ้วรอย นั้นช่วยได้จริงไหม และอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับเซรั่มที่คนอยากมีหน้าใสควรรู้

เซรั่ม เป็นสกินแคร์ที่สารบำรุงชนิดเข้มข้นแต่กลับมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ยิ่งกว่านั้นเซรั่มยังมีโมเลกุลที่เล็กกว่าครีมบำรุงผิว จึงซึมซาบลงสู่ผิวได้ง่ายกว่า เร็วกว่า และเห็นผลได้มากกว่า แถมยังไม่ทิ้งคราบมันหรือความเหนอะหนะไว้บนผิวหน้าด้วย เซรั่มจึงสามารถใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิวได้ และเมื่อใช้เซรั่มร่วมกับครีมบำรุงผิวแล้ว ผลลัพธ์ผิวจึงเห็นได้ชัดเจนขึ้นกว่าการใช้ครีมบำรุงผิวเพียงอย่างเดียว

ครีมบำรุงมีโมเลกุลที่ใหญ่กว่าจึงทำหน้าที่เคลือบผิวชั้นนอกเพื่อเก็บกักความชุ่มชื้นและสารบำรุงผิวไม่ให้ระเหยออกไป ดังนั้นเราควรใช้เซรั่มก่อนครีมบำรุง เพื่อให้สารบำรุงผิวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นจึงตามด้วยครีม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

จากที่บอกมาทั้งหมด สรุปข้อดีของเซรั่ม ได้ดังนี้คือ

1. มีสารบำรุงผิวที่เข้มข้น

2. ไม่ทิ้งคราบบนผิว

3. ซึมลงผิวได้ดี ไม่หนักหน้า

4. แก้ปัญหาได้ตรงกับความต้องการ

5. แก้ปัญหาผิวที่ชั้นผิวที่อยู่ลึกลงไป

6. ใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ได้

 

ประโยชน์ของเซรั่ม คือการดูแลผิวจากชั้นผิวที่ลึกลงไปนั่นเอง โดยประโยชน์ที่ได้แยกตามประเภทของเซรั่มที่เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเติมความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มความกระชับ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สร้างความกระจ่างใส ลดรอยแดง รอยดำ และรอยสิว เป็นต้น

 

เซรั่มแบ่งตามส่วนผสมที่ต้องการให้มีผลลัพธ์กับผิวพรรณ โดยที่เซรั่มบางตัวช่วยแก้ปัญหาผิวได้มากกว่าหนึ่งอย่าง แล้วแต่ส่วนผสมของสูตรนั้น ๆ

1. เซรั่มลดริ้วรอย (anti-ageing serums) เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องเส้น รอยพับ หรือรอยย่นบนใบหน้า เป็นเซรั่มที่ช่วยเร่งการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

2. เซรั่มเพื่อใบหน้ากระจ่างใส (brightening serums) เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าที่หมองคล้ำ มีจุดด่างดำ หรือรอยสิว เซรั่มหน้าใส ของ ELCA ทำให้ผิวหน้ากลับมาเนียนเรียบและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

3. เซรั่มซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว (reparative and renewing face serums) เมื่อผิวต้องเผชิญกับแสงแดด การใช้เครื่องสำอาง การอดนอน การเกิดสิว หรือปัญหาผิวต่าง ๆ เราจำเป็นต้องฟื้นฟูผิวด้วยเซรั่มที่ทำหน้าที่ช่วยซ่อมแซมและกระตุ้นการซ่อมแซมผิวโดยธรรมชาติ รวมถึงปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระด้วย

4. เซรั่มผลัดเซลล์ผิว (exfoliating serums) เมื่อเราอายุมากขึ้น ความสามารถของการผลัดเซลล์ผิวลดลง เป็นสาเหตุของผิวหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวแห้ง มีริ้วรอย เซลล์ผิวเก่ายังเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวด้วย การใช้เซรั่มผลัดเซลล์ผิวทำให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกไป ความหมองคล้ำหรือความเสียหายของผิวที่เกิดจากการทำลายของแสงแดดก็จะถูกเอาออกไปด้วย และช่วยลดริ้วรอยและรอยด่างดำอย่างเป็นธรรมชาติ

5. เซรั่มเติมความชุ่มชื้น (hydrating serums) การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เพียงอย่างเดียวกับกับผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำนั้นไม่เพียงพอ มีเซรั่มบางประเภทที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวด้วย การทำงานร่วมกันของเซรั่มกับมอยเจอร์ไรเซอร์ จะช่วยให้ผิวหน้าคงความชุ่มชื้นไว้ได้

6. เซรั่มป้องกันสิว (acne fighting serums) โดยทั่วไปเราจะรักษาสิวเมื่อมีสิวเกิดขึ้นบนผิวหน้าแล้ว แต่เซรั่มป้องกันสิว จะซึมลึกลงเข้าไปใต้ผิวหนังและจัดการสาเหตุของการเกิดสิว ซึ่งแตกต่างจากโฟมล้างหน้าหรือครีมบำรุงผิวที่ดูแลเฉพาะผิวชั้นนอก

 

การใช้เซรั่มทำให้ผิวได้รับดูแลจนถึงผิวด้านใน ผลลัพธ์ผิวที่ต้องการ เช่น ริ้วรอยจางลง หรือ หน้ากระจ่างใสขึ้น จึงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วเราจะเลือกใช้ เซรั่มตัวไหนดี ของ ELCA เราขอแนะนำเซรั่มยอดนิยมจาก Estee Lauder ที่เพิ่มความชุ่มชื้น และแก้ปัญหาผิว เมื่อผิวชุ่มชื้น ผิวจะฉ่ำและอิ่มฟู ช่วยผลัดเซลล์ผิว ส่งผลให้รอยสิว รอยดำ รอยแดง และริ้วรอยต่าง ๆ จางลง และเมื่อผิวไม่ขาดน้ำ ต่อมไขมันไม่จำเป็นต้องสร้างน้ำมันมากเกินไปเพื่อมาปกป้องผิว รูขุมขนจึงเล็กลง โอกาสที่จะเกิดการอุดตันลดลง ทำให้การเกิดสิวลดลงตามไปด้วย เริ่มดูแลผิวของคุณวันนี้ด้วยเซรั่มจาก Estee Lauder เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวให้ผิวกลับมาสุขภาพดีอย่างที่ต้องการ

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ nemophilanie :: วันที่ลงประกาศ 2023-09-16 01:28:47


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2011 All Rights Reserved.