สมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขอความชัดเจนหลัง ก.พลังงานมีแนวคิดไม่รับจดทะเบียนรถใช้ก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิง ชี้กระทบหนักต่อผู้ใช้รถติดตั้งก๊าซ LPG เกือบ 1 ล้านคันและผู้ประกอบการทั่วประเทศ ชี้ก๊าซ LPG เป็นพลังงานทางเลือกที่ทั่วโลกนิยมใช้ทั้งสหรัฐ ยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย ขณะที่ World LP Gas Association เผยทั่วโลกมีปริมาณการใช้รถยนต์ติดตั้งก๊าซ LPG กว่า 23.7 ล้านคัน ขอความจัดเจน นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย ได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ขอความชัดเจนหลัง ก.พลังงานมีแนวคิดไม่รับจดทะเบียนรถใช้ก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิง ชี้กระทบหนักต่อผู้ใช้รถติดตั้งก๊าซ LPG เกือบ 1 ล้านคันและผู้ประกอบการทั่วประเทศ ที่กระทรวงพลังงาน นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย เปิดเผยว่า สมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย ได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร , นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน , พลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม , รองปลัดกระทรวงพลังงาน และอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดค้านแนวคิดหรือนโยบายที่จะยกเลิกการรับจดทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ระบบก๊าซ LPG และขอความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการต่างๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก๊าซรถยนต์ของประเทศไทย ที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากกรณีที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานมีแนวคิดที่จะยกเลิก ไม่รับจดทะเบียนรถที่ใช้ก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิง สาเหตุที่ส่งผลให้รถติดตั้งระบบก๊าซ LPG เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ อย่างไรก็ดี จากการศึกษาถึงปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถติดตั้งก๊าซ LPG และ NGV นั้นส่วนใหญ่มาจาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่ 1. การเลือกใช้ระบบ และอุปกรณ์ก๊าซที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยที่ดี 2. สถานที่ติดตั้ง หรืออู่ติดตั้งที่ไม่ชำนาญการ บุคลากรขาดการฝึกอบรมที่ครบถ้วนอย่างแท้จริง และไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และ 3. ผู้ใช้ขาดความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานและการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ถึงแม้ว่าจะไม่แตกต่างจากการใช้ระบบน้ำมันมากนักก็ตาม แต่การบำรุงรักษา ตรวจสภาพการใช้งาน ย่อมเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นในการแก้ไขและป้องกันปัญหารถติดก๊าซไฟไหม้ ควรจะส่งเสริมและมุ่งเน้นที่มาตรฐานของอุปกรณ์และผู้ประกอบการติดตั้งที่ได้มาตรฐานและได้รับใบอนุญาตฯเป็นสำคัญ ทั้งนี้จากข้อมูลกรมขนส่งทางบก ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 พบว่าในประเทศไทยมีรถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซ LPG ทั้งประเทศเกือบ 1 ล้านคัน เนื่องจากก๊าซ LPG เป็นพลังงานทางเลือกที่ได้รับความนิยม จากประชาชนที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้น้อย ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ สามารถนำมาใช้เพื่อลดรายจ่าย และลดภาระค่าเชื้อเพลิงของครอบครัวได้ “แนวคิดที่จะยกเลิกการจดทะเบียนรถ LPG เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการใช้พลังงานทางเลือกอย่างเสรี และยังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์มากว่า 30 ปี หากมีการยกเลิกย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และแรงงานในอุตสาหกรรมจำนวนมาก ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการศูนย์ติดตั้งก๊าซ ที่ได้รับใบอนุญาตแล้วกว่า 330 ราย ผู้จัดจำหน่ายระบบและอุปกรณ์ก๊าซกว่า 50 บริษัท โรงงานผลิตถุงบรรจุก๊าซ 5 โรงงาน รวมถึงสถานีบริการปั้มก๊าซ LPG อีกกว่า 1.16 พันแห่งทั่วประเทศ และแรงงานที่เกี่ยวข้องอีกนับหมื่นคน” นายสุรศักดิ์ กล่าวและว่า ก๊าซ LPG ที่ใช้ในรถยนต์ถือเป็นพลังงานทางเลือกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย ส่งผลให้ปัจจุบันมีรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซ LPG มากกว่า 23 ล้านคันทั่วโลก โดยมากกว่าร้อยละ 50 เป็นรถยนต์ส่วนบุตคลหรือรถครอบครัวทั่วไป ผลการสำรวจข้อมูลจาก World LP Gas Association (WLPGA) พบว่า ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมาธุรกิจก๊าซ LPG มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากต่อไปอีกหลายปี โดยตัวเลขการใช้งานก๊าซ LPG ในปี 2554 มีปริมาณการใช้ก๊าซ LPG ในจีน เกาหลีใต้ ซาอุดิอาราเบีย ญี่ปุ่น และอินเดีย โดยเฉพาะความต้องการใช้และการขยายตัวของกลุ่มยานยนต์ที่ใช้ก๊าซ LPG (Autogas) มีปริมาณการใช้ทั่วโลกสูงถึง 23.7 ล้านตัน สูงขึ้นร้อยละ 3 จากปีก่อน ซึ่งนอกจากรถยนต์ติดตั้งก๊าซ LPG จะเป็นที่นิยมในหลายประเทศ ยังพบว่า ในประเทศอังกฤษ นอกจากประชาชนจะนิยมใช้ก๊าซ LPG แล้ว สมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบทที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ยังทรงใช้ก๊าซ LPG ในรถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์มากว่า 10 ปี ด้วยคำกล่าวของพระองค์ที่ว่า LPG ถูกและสะอาดกว่าการใช้น้ำมัน และในอังกฤษนั้นมีสถานีปั้มก๊าซ LPG สำหรับรถยนต์กว่า 1.5 พันสถานี เพื่อรองรับจำนวนรถยนต์ติดก๊าซ LPG ที่สูงถึง 1.65 แสนคัน และรัฐบาลอังกฤษยังสนับสนุนการใช้ก๊าซ LPG ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเชื้อเพลิงสำหรับรถที่ใช้ก๊าซ LPG ที่ถูกกว่าภาษีเชื้อเพลิงประเภทน้ำมัน (Petrol) ด้วย นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการติดตั้งก๊าซ LPG มีการนำเทคโนโลยีทันสมัยจากต่างประเทศเข้ามาให้บริการติดตั้งก๊าซ LPG มากขึ้น และศูนย์บริการติดตั้งแก๊สมีมาตรฐานมากขึ้น เทียบเท่าศูนย์บริการรถยนต์ ขณะเดียวกันยังได้รับการยอมรับในมาตรฐานระดับโลก ดังนั้นจึงควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนเลือกใช้ผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาตฯ มากกว่าจะใช้วิธียกเลิก ด้วยการไม่รับจดทะเบียนรถที่ใช้ก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิง