“ไทยเร้นท์อะคาร์ฯ” รถเช่าแบรนด์ไทย ประกาศเป็นผู้นำอันดับหนึ่งรถเช่าในประเทศไทย โดยมีจำนวนรถให้บริการแก่ลูกค้าทั่วประเทศกว่า 7,000 คัน ถือเป็นบริษัทที่มีรถยนต์มากที่สุดในสมาคมรถเช่าไทย ประกาศเตรียมรุกตลาดรถเช่า เดินหน้าใช้ระบบแฟรนไชส์เป็นเครื่องมือการขยายตลาด รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จัดแคมเปญส่งเสริมการขายหวังดึงลูกค้ารายย่อยเพิ่ม

นายสุขุม ธรรมณีวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ (1978) จำกัด บริษัทรถเช่าครบวงจรของไทย ที่ให้บริการมานานกว่า 35 ปี เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง รถเช่าในประเทศไทย ที่มีจำนวนรถให้บริการแก่ลูกค้าทั่วประเทศกว่า 7,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีรถยนต์มากที่สุดในสมาคมรถเช่าไทย
ที่สำคัญ บริษัทรถเช่าโดยส่วนใหญ่จะแบ่งประเภทการเช่ารถออกเป็น 2 ประเภท คือ การเช่าระยะยาว ซึ่งเป็นการเช่าจากองค์กร และการเช่าระยะสั้น เป็นการเช่าเพื่อการท่องเที่ยว หรือเดินทางเพื่อการทำงานระยะสั้นๆ โดยแต่ละบริษัทจะเน้นเป็นประเภทใดประเภทหนึ่ง แต่สำหรับ ไทยเร้นท์อะคาร์ ฯ จะเน้นทำตลาดทั้ง 2 ประเภท
สำหรับรายได้ในปี 2555 ที่ผ่านมา ไทยเร้นท์อะคาร์ ฯ มีรายได้รวม 1,200 ล้านบาท เกิดจากบริการให้เช่ารถยนต์ประมาณ 4,500 คัน 1 ใน 5 มาจากรายได้ระยะสั้น หรือลูกค้ารายย่อย รายได้โดยรวมโตขึ้น 10 % จากปีก่อนหน้านี้
ส่วนในปี 2556 ไทยเร้นท์อะคาร์ ฯ ตั้งเป้ามีรายได้รวมอยู่ 1,600 ล้านบาท จากจำนวนรถยนต์เช่าทั้งสิ้น 8,000 คัน ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการขยายการลงทุน และความสามารถในการขยายตลาดมากขึ้น อาทิ การลงทุนขยายสาขาเพิ่ม หรือการลงทุนใหม่
นอกจากนี้ ในส่วนของสาขาการให้บริการยังครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ และเป็นที่รู้จักแก่กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป โดยได้เปิดสาขาใหม่ล่าสุดบนสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีสาขาอยู่ที่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่, พัทยา, หัวหิน, เชียงใหม่, เชียงราย, ขอนแก่น, อุดรธานี, ภูเก็ต, สมุย, เขาหลัก และกระบี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ และย่านใจกลางเมือง ในอนาคตมีแผนจะเปิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พิษณุโลก และอุบลราชธานี ภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มจำนวนรถเพื่อรองรับตลาดระยะสั้นอีก 20 % ซึ่งจะใช้งบลงทุนสาขาใหม่ สาขาละ 25 ล้านบาท
สำหรับแผนงานการตลาดปีนี้ มุ่งเน้นเจาะตรงไปยังกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มมากขึ้น ด้วยการสร้าง แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น มุ่งเน้นไปที่กลุ่มการท่องเที่ยว เดินทาง และกลุ่มคนทำงาน โดยให้ความสำคัญกับตลาดรายย่อย และวางแผนที่จะขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขวางมากขึ้น ดังนั้นบริษัท ฯ จึงมีแนวทางในการหาพันธมิตรร่วมกันส่งเสริมการขาย เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการรถเช่า เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยมุ่งเป้าหมายหลักเป็นการขยายตลาดในกลุ่มผู้เดินทางรายย่อย ซึ่งหมายถึงกลุ่มผู้เช่ารถที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยว และกลุ่มผู้เช่ารถที่เป็นผู้ประกอบกิจการขนาดเล็ก ที่มีการเดินทางเพื่อธุรกิจ หรือบริการเดินทางรับส่งบุคลากร ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 2 ใน 3 ของตลาดเดินทางท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคมนี้ ทางบริษัท ฯ มีแผนเปิดตัวรถเช่าด้วยระบบแฟรนไชส์ในงาน TFBO ที่ BITEC บางนา ในวันที่ 25-28 กรกฏาคม นี้ พร้อมกันนี้ทางบริษัท ฯ ได้ศึกษาลู่ทางในการขยายตลาดไปยังกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC โดยวิธีการขยายแฟรนไชส์เช่นเดียวกัน

นายสุขุม กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท ฯ มั่นใจว่าภาพรวมของตลาดด้านการท่องเที่ยวนั้นมีการขยายตัวมาก ทั้งจากการขยายตัวของเศรษฐกิจเอง และการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งการขยายตัวของสายการบินราคาถูกหรือ Low Cost Airline ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินถูกลง นักท่องเที่ยวมีเงินเหลือมาเช่ารถขับเอง ภาพรวมของการเช่ารถก็น่าจะมีมูลค่ามากขึ้น
ดังนั้นบริษัท ฯ ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค เมื่อเทียบกับ Brand ต่างชาติ ที่มีการลงทุนในการสร้าง Brand ให้เป็นที่รู้จักมานาน ในขณะที่ ไทยเร้นท์อะคาร์ ฯ เพิ่งเริ่มต้นมาแค่ 6 ปี เท่านั้น ดังนั้นจึงมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง และกลยุทธ์ในการเติบโตนี้ คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า ในการดูแลรักษาคุณภาพ และสมรรถนะของรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถมีคุณภาพ และขับขี่ปลอดภัย รวมทั้งการบริการและภาพลักษณ์ที่ดี จะสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าบอกต่อ เป็นการขยายตลาดด้วยการพูดปากต่อปาก ซึ่ง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
นายสุขุม กล่าวสรุปว่า ตลาดรถเช่ามีการแข่งขันด้วยกลยุทธ์ราคาเป็นเครื่องมือในการแข่งขัน แต่ไทยเร้นท์อะคาร์ ฯ พยายามชี้ให้ลูกค้าเห็นว่า เงื่อนไขการเช่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เพราะบางรายมีการเสนอราคาเริ่มต้นดึงดูดใจจากลูกค้าอย่างมาก แต่สรุปสุดท้ายมีการบวกเพิ่มมากมาย กลยุทธ์ที่ไทยเร้นท์อะคาร์ ฯ ใช้จะแสดงให้เห็นว่า บริษัท ฯ มีเงื่อนไขในการเช่าที่ดีที่สุด โดยจัดรายการส่งเสริมการขายพิเศษให้กับลูกค้าในช่วงเดือนกรกฏาคม ศกนี้ จะเป็นการให้ cash back กับทุกการใช้จ่ายที่ ไทยเร้นท์อะคาร์ ฯ กับธนาคารที่ร่วมรายการ ถึงแม้จะเป็นราคาโปรโมชั่นที่ดีที่สุดแล้วก็ยัง cash back ให้ สำหรับทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมี แคมเปญพิเศษ สำหรับผู้ที่ต้องการเช่า Mercedes-Benz S-Class ระยะยาว ลูกค้าสามารถเช่า และ เลือกว่า จะซื้อรถในปีที่ 2 หรือต้องการจะเปลี่ยนเป็น S-Class รุ่นใหม่ก็ได้” นายสุขุม กล่าวในที่สุด