อ๊อสซี่ฯ รุกเข้มช่วงล่างรถยนต์ พร้อมเด้งรับปิกอัพ พีพีวี และเอสยูวีใหม่ ส่งช่วงล่างใหม่รอ จับมือออสเตรเลียขยายฐานเตรียมปูพรมส่งออกทั่วอาเซียนหลังเข้า AEC

นายรัฐกิตติ์ วัชรไพศาลสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อ๊อสซี่ อันเดอร์ วิฮิเคิ้ลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดช่วงล่างรถยนต์แบรนด์ “OZY WESTCOAST” เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ทำตลาดชุดช่วงล่างทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น โช้คอัพ, คอยล์สปริง, แหนบ, ทอร์ชันบาร์ เป็นต้น เป็นสินค้าที่บริษัทได้นำเข้าภายใต้แบรนด์ อ๊อสซี่ เวสต์โคส (OZY WESTCOAST) พร้อมกับได้ พัฒนาระบบชุดช่วงล่างทั้ง โช้คอัพ โมโนทรูป, คอยล์สปริง, ทอชั่น บาร์, บูชโช้คอัพ, บูชยูรีเทรน, บูชหูแหนบ กันสะบัด (Steering Dampers), แหนบ เรียกว่า มาทั้งระบบของช่วงรถยนต์ สำหรับรถขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยได้ร่วมกับประเทศออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาระบบข่วงล่าง จนได้รับการยอมรับ อย่างสูงทั้งในและต่างประเทศ
“ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการออกแบบและพัฒนาระบบช่วงล่างให้กับรถหลากหลายประเภท อาทิ รถขนเงิน รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถไฟ เป็นต้น แต่บริษัทมีฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มรถอเนกประสงค์ต่างๆ ทั้ง เอสยูวี พีพีวี รถตู้ ปิกอัพ รวมถึง เอ็มพีวี ซึ่งปัจจุบันลูกค้าขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ไม่จะเป็น กลุ่มรถหรู BMW , Lexus suv , Toyota Alphard และ Vellfire รวมถึง MINI โดยบริษัทมีศักยภาพสามารถตอบสนองได้ความต้องการของลูกค้าในเรื่องช่วงล่าง และนอกเหนือไปจากการพัฒนา คือความมั่นใจในระบบช่วงล่างทำให้บริษัทเป็นเจ้าเดียวในประเทศที่กล้ารับประกันสินค้านานถึง 3 ปีหรือ 100,000 กม. ปัจจุบันข่วงล่าง อ๊อสซี่ เวสต์โคส มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ทั่วประเทศกว่า 60 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 70 แห่งในปีนี้”


นายรัฐกิตติ์ กล่าวว่า ล่าสุดเป็นการเติบโตไปอีกขั้นของ อ๊อสซี่ อันเดอร์ วิฮิเคิ้ลส์ นั่นคือ การ เดินหน้าร่วมมือกับออสเตรเลียขยายการส่งออก เพราะแนวโน้มการแข่งขันของตลาดอะไหล่ทดแทนของติดรถ ประกอบกับในอนาคตอันใกล้จะได้รับอิทธิพลจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ซึ่งอ๊อสซี่ฯ ต้องปรับตัวเตรียมรับมือโดยมองหาโนว์ฮาวน์ หรือความรู้เฉพาะด้านเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน
“ปัจจุบันตลาดรถในประเทศดูเหมือนจะซบเซาไปบ้างทำให้ยอดการจำหน่ายหายไปประมาณ 20 % แต่บริษัทกลับได้ผลประกอบการการส่งออกที่ดี แต่คาดว่าก่อนสิ้นปีนี้ตลาดรถน่าจะเริ่มดีขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยบวกเข้ามาไม่น้อยทั้งราคาน้ำมันที่ลดลง ประกอบกับในตลาดมีรถใหม่โดยเฉพาะในกลุ่มปิกอัพที่มีใหม่ทุกค่าย และกลุ่มพีพีวี นอกจากนี้ยังมี เอสยูวีใหม่ที่ค่ายรถกำลังจะส่งลงตลาดเพิ่มเติมอีด้วย ”
นายรัฐกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ตลาดรถยนต์มีรถรุ่นใหม่เข้ามามากทำให้บริษัทต้องมีสินค้าที่ผ่านการพัฒนามารองรับรถในกลุ่มนี้ให้มากที่สุด โดยล่าสุดได้ลงทุนกว่า 2 ล้านบาทซื้อเครื่องวัดการทำงานของระบบโช้คและช่วงล่างเข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย