dot dot
dot
dot


ford ranger

car2day



‘มิชลิน’ ชูกลยุทธ์ “ความยั่งยืนทุกด้าน” รุกก้าวสู่ปี 2573 ภายใต้แนวคิด MICHELIN IN MOTION

ในงานประกาศแผนการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ต่อกลุ่มนักลงทุน หรือ Capital Markets Day ของกลุ่มมิชลิน  มร.ฟลอรองต์ เมอเนโกซ์ (Florent Menegaux) ประธานกรรมการจัดการ, มร.อีฟ ชาโป (Yves Chapot) ผู้จัดการทั่วไปและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ตลอดจนกรรมการบริหารกลุ่มมิชลินทั้งคณะ ได้ร่วมกันนำเสนอแผนกลยุทธ์ “ความยั่งยืนทุกด้าน” (All Sustainable) ของกลุ่มมิชลินเพื่อก้าวสู่ปี 2573 ภายใต้แนวคิด MICHELIN IN MOTION


MICHELIN IN MOTION,มิชลิน,ยางมิชลิน,ยางรถยนต์มิชลิน,ยางรถยนต์ MICHELIN,ยาง MICHELIN


โดย มร.เมอเนโกซ์ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ “ความยั่งยืนทุกด้าน” บนพื้นฐานของความพยายามสร้างสมดุลระหว่างผู้คน (People), ผืนโลก (Planet) และผลกำไร (Profit) พร้อมทั้งเผยถึงเป้าหมายของกลุ่มมิชลินในปี 2573 ซึ่งเชื่อมโยงกับดัชนีชี้วัด 12 ประการ ที่ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ไปจนถึงผลประกอบการทางสังคมและทางการเงิน (ดูรายละเอียดที่หน้า 4-5)


นอกจากนั้น มร.เมอเนโกซ์ ยังเน้นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มมิชลินที่จะบรรลุเป้าหมายดังต่อไปนี้


ผู้คน

มีอัตราความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรมากกว่าร้อยละ 85

เพิ่มสัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งบริหารให้ถึงร้อยละ 35

กำหนดค่ามาตรฐานทั่วโลกสำหรับความปลอดภัยในที่ทำงาน โดยมุ่งให้มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน (Total Case Incident Rate: TCIR)[1] ต่ำกว่า 0.5


ผืนโลก

ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมประเภท (Scope) ที่ 1 และ 2 ลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปี 2553 รวมทั้งลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมประเภทที่ 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาคการคมนาคมขนส่งลงให้ได้อย่างชัดเจน โดยทุกประเภทมีเป้าหมายร่วมกันคือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ภายในปี 2593

เพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนในผลิตภัณฑ์ให้อยู่ที่ร้อยละ 40 ภายในปี 2573 เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายที่จะใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนทั้งหมด หรือ ร้อยละ 100 ภายในปี 2593


ผลกำไร

ขับเคลื่อนการเติบโตแบบยั่งยืนต่อเนื่อง โดยมียอดขายระหว่างปี 2566-2573 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5 ต่อปี หลังจากวิกฤติที่สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ้นสุดลง

มีสัดส่วนยอดขายจากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับยางล้ออยู่ที่ร้อยละ 20-30 เพื่อเสริมสร้างคุณค่าที่สำคัญโดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินทุน (Return On Capital Employed: ROCE) ระหว่างปี 2566-2573 อยู่ที่มากกว่าร้อยละ 10.5


MICHELIN IN MOTION,มิชลิน,ยางมิชลิน,ยางรถยนต์มิชลิน,ยางรถยนต์ MICHELIN,ยาง MICHELIN


ช่องทางการเติบโตทางธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับยางล้อ


มิชลินจะขยายตัว ลงทุน และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ในธุรกิจยางอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มการเดินทางสัญจรหลังวิกฤติโควิด-19 และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นโอกาสในการเติบโตของกลุ่มมิชลิน ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีที่เหนือกว่าในด้านการออกแบบและผลิตยางล้อสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะมาโดยตลอด ในภาคการขนส่งทางบก กลุ่มมิชลินจะให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่า ขณะที่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถเหมือง ยางรถตักดิน ยางรถเพื่อการเกษตร ยางล้อเครื่องบิน และยางรถยนต์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ มิชลินจะยังคงเป็นผู้กำหนดบรรทัดฐานด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่นแตกต่าง

ด้วยศักยภาพด้านนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้านวัสดุ มิชลินมุ่งขับเคลื่อนการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งไปยัง ‘ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยาง’ และ ‘ธุรกิจอื่นนอกเหนือจากยาง’ รวม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ บริการและโซลูชั่น (Services & Solutions), วัสดุคอมโพสิตชนิดยืดหยุ่น (Flexible Composites), เครื่องมือแพทย์ (Medical Devices), การพิมพ์โลหะ 3 มิติ (Metal 3D Printing) และการสัญจรด้วยพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Mobility)

สำหรับธุรกิจบริการและโซลูชั่น กลุ่มมิชลินกำลังขยายโซลูชั่นด้านธุรกิจเดินรถขนส่งให้มีความหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำวัตถุอัจฉริยะ (Smart Objects) และข้อมูลที่จัดเก็บได้มาเพิ่มคุณค่าให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น

มิชลินตั้งเป้ารุกขยายธุรกิจอย่างจริงจังในตลาดวัสดุคอมโพสิตชนิดยืดหยุ่น [อุปกรณ์ลำเลียง (Conveyor), สายพาน (Belt), ผ้าเคลือบ (Coated Fabrics), ซีลปิดผนึก (Seals) ฯลฯ ] ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว[2] ด้วยกลยุทธ์การเข้าซื้อและควบรวมกิจการเพื่อเสริมสร้างคุณค่า รวมทั้งการบ่มเพาะธุรกิจใหม่ๆ

เครื่องมือแพทย์เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า

ในด้านการพิมพ์โลหะ 3 มิติ กลุ่มมิชลินได้พัฒนาความเชี่ยวชาญที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพของ ‘แอ๊ดอัพ’ (Add Up) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ‘มิชลิน’ กับ ‘ไฟฟ์ส’ (Fives) ในการทำตลาดโซลูชั่นหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของผู้ผลิตเฉพาะราย

สำหรับการสัญจรด้วยพลังงานไฮโดรเจน กลุ่มมิชลินมุ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนผ่าน ‘ซิมบิโอ’ (Symbio) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ‘มิชลิน’ กับ ‘โฟเรอเซีย’ (Faurecia)


ตั้งเป้าบรรลุหมุดหมายแรกแห่งความสำเร็จในปี 2566

ภายในงาน Capital Markets Day มิชลินยังได้นำเสนอปัจจัยขับเคลื่อนขีดความสามารถทางการแข่งขันเชิงอุตสาหกรรมหลายประการ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อคำนึงถึงภาวะเงินเฟ้อแล้ว (Net of Inflation) ได้สูงถึง 80 ล้านยูโรต่อปี ระหว่างปี 2563-2566 ยิ่งกว่านั้น ยังจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายทั่วไป และค่าใช้จ่ายทางธุรการ (SG&A) ในธุรกิจยาง เมื่อคำนึงถึงภาวะเงินเฟ้อแล้ว ลงได้ 65 ล้านยูโร ภายในปี 2566 และ 125 ล้านยูโร ภายในปี 2568

จากนั้น มร.อีฟ ชาโป ได้ประกาศเป้าหมายทางการเงินของกลุ่มมิชลินในปี 2566 โดยคาดการณ์ว่าในปีดังกล่าวจะมียอดขายอยู่ที่ราว 24.5 พันล้านยูโร, รายได้จากการดำเนินงานตามส่วนงาน[3] (Segment Operating Income) อยู่ที่มากกว่า 3.3 พันล้านยูโร, กระแสเงินสดอิสระเชิงโครงสร้าง (Structural Free Cash Flow) [ยอดรวมปี 2565 และ 2566] อยู่ที่ 3.3 พันล้านยูโร และอัตราผลตอบแทนจากเงินทุน (Return On Capital Employed: ROCE) อยู่ที่ร้อยละ 10.5

นอกจากนี้ กลุ่มมิชลินยังได้เริ่มคำนวณต้นทุนของผลกระทบภายนอกเชิงลบ (Negative Externalities) บางประการ อาทิ ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งปริมาณการใช้น้ำและสารทำละลาย ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบเหล่านั้นลงราวร้อยละ 10 ภายในปี 2566

อีกทั้งกลุ่มมิชลินยังได้ตัดสินใจปรับนโยบายเงินปันผล โดยกำหนดเป้าหมายใหม่ในปี 2564 ที่จะจ่ายเงินปันผลในสัดส่วนร้อยละ 50 ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ (Non-Recurring Items)

ภายในงาน มร.เมอเนโกซ์ ได้เปิดเผยว่า “ภายใต้แผนกลยุทธ์ใหม่ MICHELIN IN MOTION กลุ่มมิชลินได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตใน 10 ปีข้างหน้าเอาไว้สูงมาก ผมเชื่อว่าความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรและศักยภาพด้านนวัตกรรมของทีมงานจะช่วยให้เรารักษาสมดุลระหว่างผลประกอบการทางธุรกิจที่ยั่งยืน, การพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพันธกิจต่อผืนโลกและชุมชนที่เราเข้าไปดำเนินงาน เอาไว้ได้อย่างดี  แม้จะยังคงยึดมั่นในจิตวิญญาณดั้งเดิมของเรา แต่ภายในปี 2573 ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มมิชลินจะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเราจะเร่งขยายกิจการไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ทั้งในตลาดที่เกี่ยวข้องกับยางและตลาดอื่นนอกเหนือจากยาง ศักยภาพในการปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ได้ตลอดเวลาเช่นนี้ไม่เพียงเป็นคุณสมบัติที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับมิชลินมานานกว่า 130 ปี แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราในการก้าวสู่อนาคตด้วย”

มร.ชาโป ยังได้กล่าวเสริมว่า “ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติในปัจจุบันและภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน มิชลินได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพพื้นฐานในการปรับตัวได้ดีต่อปัจจัยแวดล้อมต่างๆ  ตลอดจนการมีโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม  สำหรับ MICHELIN IN MOTION ซึ่งเป็นแผนกลยุทธ์ใหม่ของมิชลิน จะช่วยให้กลุ่มมิชลินมีแนวทางในการขับเคลื่อนการเติบโตรูปแบบใหม่ๆ และลดผลกระทบภายนอกเชิงลบหลักๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  มิชลินจะพัฒนาการดำเนินธุรกิจด้านยางอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ร่วมด้วย โดยมุ่งเน้นการรักษาสถานะงบดุลและกำไรขั้นต้นให้แข็งแกร่ง”

 




PR News

Benz BKK Group จัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “3 Days 2 Nights Praycation in Hong Kong” มอบประสบการณ์เหนือระดับให้ลูกค้า Mercedes-Benz Certified article
โค้งสุดท้ายก่อนสิ้นสุดมาตรการ EV 3.0 กับ NEW MG4 และ NEW MGS5 EV PLUS ราคาพิเศษ article
GAC AION Thailand มอบข้อเสนอพิเศษสำหรับ GAC AION UT พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ Lifetime Warranty แบตเตอรี่และชุดมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้า article
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดเต็ม! ส่งดีลเด็ด "โปรแรง ส่งท้ายปี" เป็นเจ้าของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% ก่อนใคร ไม่ต้องรอถึง Motor Expo 2025 article
นิสสัน ประเทศไทย มอบสองรางวัลผลงานยอดเยี่ยมให้กับสยามนิสสันบูรพาปราจีน Best of the Best Dealer Award 2024 และ Nissan Global Award article
Tesla ประเทศไทย เปิด Tesla Experience Center แห่งใหม่ ณ One Bangkok พร้อมขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ Supercharger และปรับราคา Model 3 ใหม่ ให้เข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น
Edison EV ร่วมฉลอง 20 ปี ครบรอบการส่งออกรถยนต์แบรนด์ DFSK ของ SERES Group ย้ำจุดยืนผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ DFSK แต่เพียงผู้เดียวในไทย
SUZUKI CARRY รถสร้างอาชีพตัวจริง! ตอกย้ำภาพลักษณ์รถคู่คิด SME พร้อมหนุนคนไทย 'Carry Your Dream' ฉลองยอดขายสะสมเกิน 50,000 คัน ด้วยดอกเบี้ย 1.99% หรือ ผ่อนเริ่มต้นวันละ 222 บาท
เอ็มจี ชู EV LIFETIME WARRANTY ส่งต่อ “ความผูกพัน ความห่วงใย” ถึงผู้บริโภคผ่านเรื่องราวภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์
สยามมิชลิน ร่วมกับ เมกาพาร์ท สนับสนุน RC Club ร่วมสร้างสังคมการขับขี่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน
คาราวาน มิตรภาพไทย-จีน BYD SEALION 6 DM-i ถึงปักกิ่งแล้ว พิสูจน์ความแกร่งและสมรรถนะกว่า 5,000 ก.ม.
ไอคอนสยาม จับมือ สมาคมรถโบราณฯ จัดงาน “VINTAGE CAR SHOW at ICONSIAM” อวดโฉม “ดารารถ” จากหนังดัง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บี-ควิก ฉลองเปิดใหม่ สาขา บรมราชชนนี-ศาลายา (ติดเซ็นทรัล ศาลายา)
โตโยต้าเปิดเวทีให้นักศึกษาวิศวกรรมรุ่นใหม่ ประชันไอเดียสร้างสรรค์ ใน “TOYOTA YOUNG ENGINEER CAR CONTEST สตาร์ตแพชชัน ปั้นไอเดีย” ชิงทุนรวมกว่า 600,000 บาท
Benz BKK Group ฉลองก้าวขึ้นแท่นผู้นำกลุ่มตัวแทนจำหน่าย ครองแชมป์ยอดขาย พร้อมจัดกิจกรรมสุดพิเศษแห่งปีแทนคำขอบคุณไม่สิ้นสุด
“กลุ่มตรีเพชร” เพิ่มพื้นที่สีเขียว เดินหน้าโครงการ “Tri Petch Group Saves the Earth
PTG คว้ารางวัล Premium T-VER Award
อีซูซุรับรางวัลเกียรติยศ “สุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี” (BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2025)
MICHELIN PASSION EXPERIENCE 2025 นำเสนอประสบการณ์ขับรถมาราธอนประเภท Endurance เต็มรูปแบบ ณ สนามแข่งเจ้อเจียง เมืองเส้าซิง ประเทศจีน
70mai เปิดตัวกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 กล้องติดรถยนต์แบบสามช่องสัญญาณรุ่นแรกที่รองรับการบันทึกภาพแบบ Dual-4K
GAC Thailand ฉลองครบรอบ 2 ปี นวัตกรรม EV สู่อนาคต พร้อมจัดกิจกรรมทดสอบขับ “2nd DRIVE 2GETHER WITH YOU” สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
GEELY EM-P Super Hybrid เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด แบบ AWD สมรรถนะสูง ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยขั้นสูง
BIG MOTOR SALE 2025 สร้างปรากฎการณ์ 10 วันแห่งความสุข รวมโชว์รูมแบรนด์ดังกระตุ้นกำลังซื้อ ดันเศรษฐกิจไทยเติบโตช่วงกลางปี article
กรุงศรี ออโต้ ชวนสัมผัสประสบการณ์ “ทดลองขับขี่” ยานยนต์แบบครบจบทุกสไตล์ ในงาน “Krungsri Auto Ultimate Test Drive & Ride 2025” ครั้งที่ 2
Benz BKK Group จัดแคมเปญ “Mother’s Day Special Deals!” ซื้อรถเบนซ์มือสอง รับทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กรุงเทพฯ–ฮ่องกง 2 ที่นั่ง ฟรี! ข้อเสนอสุดพิเศษ ฉลองวันแม่ 7–17 สิงหาคม 2568 ที่โชว์รูม 3 มุมเมือง บางนา – วิภาวดี – กาญจนาภิเษก
GAC ฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญ! จัดงาน AION UT Play Day สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า AION UT ครบ 1,000 คันในประเทศไทย
กระทรวงอุตสาหกรรม เตือนภัยหลังตรวจพบมียางรถยนต์ไม่ได้มาตรฐานจำหน่ายในตลาด
WTech สนับสนุนงานเเข่งรถ DC 2025 Drift Competition Series
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลันใน 3 จังหวัด น่าน แพร่ และสุโขทัย



Copyright © 2011 All Rights Reserved.