dot dot
dot
dot


ford ranger

car2day



“อีซูซุคาราวานสัญจร” นำประชาคมอีซูซุชมอารยธรรม สปป.ลาว 4 วัน 3 คืน เที่ยวเพลินสุดคุ้มเกินบรรยาย

จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น 


จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”

จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”

จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”


สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ 

ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน


จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”

จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”      จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”

จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”


รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป 

คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ” 


จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ” .   จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”

จัดกันอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นตลอด 14 ปี สำหรับ “อีซูซุคาราวานสัญจร” โดยในปีนี้ อีซูซุเบิกฤกษ์ดีที่บุกตลาดลาว นำประชาคมอีซูซุและคณะสื่อมวลชนกว่า 150 ชีวิต ลัดเลาะเส้นทางจากด่านช่องเม็ก – วังเต่า สู่หลายเมืองใน สปป. ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทร์ รวมเวลา 4 วัน 3 คืน  ทั้งนี้มีผู้บริหารอีซูซุทั้งจากประเทศไทย และลาว ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น   สำหรับพิธีตีธงปล่อยตัวคาราวานสัญจร จัดขึ้น ณ โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,  มร. เรียวตะ อิมาอิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขายดีลเลอร์ บี, คุณนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี  พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถอีซูซุกว่า 30 คัน  มุ่งหน้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองต่างๆ เลาะเรื่อยไปจากเมืองปากเซ ข้ามแม่น้ำโขงและหุบเขา ไปสิ้นสุดการเดินทางที่เมืองหลวงนครเวียงจันทร์ โดยแห่งแรกที่ขบวนคาราวานไปเยี่ยมชม คือ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่แทรกตัวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าและขุนเขา โดยในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  อาณาเขตของปราสาทวัดพู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้น 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในสมัยโบราณ   ในวันที่สองของการเดินทาง อีซูซุนำผู้ร่วมเดินทางไปสัมผัสความงามของน้ำตกตาดฟาน ในแขวงจำปาสัก โดยเป็นการไหลของสายน้ำ 2 สายจากห้วยผักกูดและอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวลงมายังจุดเดียวกันที่ความสูง 120 เมตร เกิดเป็นน้ำตกคู่แฝดตระการตา ซึ่งเมื่อผู้เข้าร่วมคาราวานไปถึงสายหมอกได้ปกคลุมบริเวณน้ำตก ต้องรอเวลาเพื่อให้เห็นความสวยงามของน้ำตก ทั้งตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  ต่อด้วยการเดินทางไปนมัสการพระธาตุอิงฮัง ในวันที่สามของการเดินทาง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า ว่ากันว่าเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมของไทย ตั้งอยู่ในเมืองคันทะบุลี แขวงสุวรรณเขต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับโดยรอบ คาดว่าน่าจะเป็นศิลปะแบบเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงรายทั้งสี่ด้าน  พระธาตุแห่งนี้ถือเป็นพระธาตุคู่แขวงสาละวัน ซึ่งตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังบริเวณที่เป็นพระธาตุอิงฮังในปัจจุบัน และทรงฉันภัตตาหารเพลบริเวณใต้ต้น “อิงฮัง” หรือต้นสาละในภาษาไทย  จากนั้นขบวนคาราวาน จึงเดินทางต่อสู่นครหลวงวียงจันทน์  โดยในช่วงค่ำ  อีซูซุได้จัดงานเลี้ยงรับรองขึ้นอย่างสนุกสนาน โดยมีคุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ (EVP) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลรับผิดชอบตลาดลาวและกัมพูชา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในประเทศลาว ให้เกียรติร่วมงานด้วย   บรรยากาศในงานนอกจากจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชนชาติลาวสนุกๆ มาให้ชื่นชมแล้วนั้น  ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจาก “คุณจอห์น – นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในประชาคมอีซูซุ ร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้แก่ค่ำคืนสุดพิเศษ ตบท้ายด้วยคำบอกเล่าความรู้สึกจากใจของผู้ร่วมคาราวานทุกท่านแถมท้ายเป็นคำราตรีสวัสดิ์แสนหวานก่อนเข้านอน   รุ่งขึ้นเปลี่ยนโหมดมานั่งรถบัสชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในนครหลวงเวียงจันทน์ แบบสบายๆ โดยเริ่มตั้งแต่ พระธาตุหลวง (พระเจดีย์โลกะจุฬามณี)  ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแล้วยังเป็นเครื่องแสดงความหมายถึงเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวอีกด้วย  ต่อด้วยการเดินทางไปแวะเช็คอิน ถ่ายภาพคู่กับประตูชัย อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่เสียสละชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีเอกลักษณ์ศิลปะลาวปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน และใกล้ๆ กัน ยังเป็นที่ตั้งของวัดศรีสะเกษ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ ออกแบบตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กว่า 6,840 องค์  จบท้ายการเดินทางท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยการเดินทางไปยังวัดพระศรีเมือง หรือวัดแห่งโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลส่งท้ายอวยชัยให้ประชาคมอีซูซุทุกท่านรุ่งเรือง โชคดีตลอดไป   คุณวาทินี เซอร์มา ผู้ร่วมขบวนคาราวานรถอีซูซุหมายเลข 1 กล่าวถึงความรู้สึกประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ทราบข่าวกิจกรรมคาราวานอีซูซุมาโดยตลอดค่ะ มีแต่คนบอกว่าสนุกมาก ก็อยากมาด้วยตลอด จนมีโอกาสในปีนี้ได้มาร่วมกิจกรรมด้วยเป็นปีแรก เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกจริงๆ ทีมงานดูแลเราดีมาก เส้นทางก็สวย บรรยากาศดี เรื่องรถไม่ต้องห่วง เพราะมั่นใจในอีซูซุมิว-เอ็กซ์อยู่แล้ว นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือฟังเพลงเราทำได้สะดวก มาครั้งแรกก็ติดใจเลยค่ะ”   เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ”


เช่นเดียวกับคุณกฤติญา สถิตย์ธรรม  จากรถหมายเลข 15 “พี่เคยได้มาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวกับอีซูซุมาบ้างแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการมาร่วมกิจกรรมในเส้นทางระหว่างประเทศกับอีซูซุครั้งแรก  คือทีมงานดูแลพี่และครอบครัวดีมาก ประทับใจมากเลย เพราะอย่างลูกชายพี่เขาจะเดินลำบากสักนิดนึง แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลย ไม่เฉพาะแต่ทีมงานเท่านั้น เพื่อนๆ ผู้ร่วมเดินทางต่างก็ช่วยเหลือกันอย่างดี มาครั้งนี้สนุกและสุขใจทุกวัน เรื่องการขับรถหรือเส้นทางต่างๆ พี่ไม่ห่วงเลย เพราะรถอีซูซุนั่งสบายแล้วทีมงานก็ทำงานอย่างมืออาชีพมาก ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ สนุกมากค่ะ อยากฝากถึงท่านผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่านนะคะ อย่าลืมหาโอกาสลองมาเที่ยวคาราวานอีซูซุดูสักครั้ง รับรองท่านจะติดใจค่ะ” 




PR News

Tesla ประเทศไทย เปิด Tesla Experience Center แห่งใหม่ ณ One Bangkok พร้อมขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ Supercharger และปรับราคา Model 3 ใหม่ ให้เข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น
Edison EV ร่วมฉลอง 20 ปี ครบรอบการส่งออกรถยนต์แบรนด์ DFSK ของ SERES Group ย้ำจุดยืนผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ DFSK แต่เพียงผู้เดียวในไทย
SUZUKI CARRY รถสร้างอาชีพตัวจริง! ตอกย้ำภาพลักษณ์รถคู่คิด SME พร้อมหนุนคนไทย 'Carry Your Dream' ฉลองยอดขายสะสมเกิน 50,000 คัน ด้วยดอกเบี้ย 1.99% หรือ ผ่อนเริ่มต้นวันละ 222 บาท
เอ็มจี ชู EV LIFETIME WARRANTY ส่งต่อ “ความผูกพัน ความห่วงใย” ถึงผู้บริโภคผ่านเรื่องราวภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์
สยามมิชลิน ร่วมกับ เมกาพาร์ท สนับสนุน RC Club ร่วมสร้างสังคมการขับขี่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน
คาราวาน มิตรภาพไทย-จีน BYD SEALION 6 DM-i ถึงปักกิ่งแล้ว พิสูจน์ความแกร่งและสมรรถนะกว่า 5,000 ก.ม.
ไอคอนสยาม จับมือ สมาคมรถโบราณฯ จัดงาน “VINTAGE CAR SHOW at ICONSIAM” อวดโฉม “ดารารถ” จากหนังดัง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บี-ควิก ฉลองเปิดใหม่ สาขา บรมราชชนนี-ศาลายา (ติดเซ็นทรัล ศาลายา)
โตโยต้าเปิดเวทีให้นักศึกษาวิศวกรรมรุ่นใหม่ ประชันไอเดียสร้างสรรค์ ใน “TOYOTA YOUNG ENGINEER CAR CONTEST สตาร์ตแพชชัน ปั้นไอเดีย” ชิงทุนรวมกว่า 600,000 บาท
Benz BKK Group ฉลองก้าวขึ้นแท่นผู้นำกลุ่มตัวแทนจำหน่าย ครองแชมป์ยอดขาย พร้อมจัดกิจกรรมสุดพิเศษแห่งปีแทนคำขอบคุณไม่สิ้นสุด
“กลุ่มตรีเพชร” เพิ่มพื้นที่สีเขียว เดินหน้าโครงการ “Tri Petch Group Saves the Earth
PTG คว้ารางวัล Premium T-VER Award
อีซูซุรับรางวัลเกียรติยศ “สุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี” (BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2025)
MICHELIN PASSION EXPERIENCE 2025 นำเสนอประสบการณ์ขับรถมาราธอนประเภท Endurance เต็มรูปแบบ ณ สนามแข่งเจ้อเจียง เมืองเส้าซิง ประเทศจีน
70mai เปิดตัวกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 กล้องติดรถยนต์แบบสามช่องสัญญาณรุ่นแรกที่รองรับการบันทึกภาพแบบ Dual-4K
GAC Thailand ฉลองครบรอบ 2 ปี นวัตกรรม EV สู่อนาคต พร้อมจัดกิจกรรมทดสอบขับ “2nd DRIVE 2GETHER WITH YOU” สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
GEELY EM-P Super Hybrid เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด แบบ AWD สมรรถนะสูง ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยขั้นสูง
BIG MOTOR SALE 2025 สร้างปรากฎการณ์ 10 วันแห่งความสุข รวมโชว์รูมแบรนด์ดังกระตุ้นกำลังซื้อ ดันเศรษฐกิจไทยเติบโตช่วงกลางปี article
กรุงศรี ออโต้ ชวนสัมผัสประสบการณ์ “ทดลองขับขี่” ยานยนต์แบบครบจบทุกสไตล์ ในงาน “Krungsri Auto Ultimate Test Drive & Ride 2025” ครั้งที่ 2
Benz BKK Group จัดแคมเปญ “Mother’s Day Special Deals!” ซื้อรถเบนซ์มือสอง รับทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กรุงเทพฯ–ฮ่องกง 2 ที่นั่ง ฟรี! ข้อเสนอสุดพิเศษ ฉลองวันแม่ 7–17 สิงหาคม 2568 ที่โชว์รูม 3 มุมเมือง บางนา – วิภาวดี – กาญจนาภิเษก
GAC ฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญ! จัดงาน AION UT Play Day สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า AION UT ครบ 1,000 คันในประเทศไทย
กระทรวงอุตสาหกรรม เตือนภัยหลังตรวจพบมียางรถยนต์ไม่ได้มาตรฐานจำหน่ายในตลาด
WTech สนับสนุนงานเเข่งรถ DC 2025 Drift Competition Series
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลันใน 3 จังหวัด น่าน แพร่ และสุโขทัย
โตโยต้า เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ภายใต้แนวคิด “TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน”
เอ็มจี ชวนร่วมสนุกกับกิจกรรม #MG3SAVESAVE ซีซั่น 2 ท้าพิสูจน์ความประหยัดของ ALL NEW MG3 HYBRID+
ปอร์เช่ ประเทศไทย พาเจ้าของรถปอร์เช่กว่า 30 คัน จัดเต็มประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตสุดเร้าใจระดับโลกใน Porsche Carrera Cup Asia 2025 ณ ชลบุรี
บางจากฯ และสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ร่วมบริจาคให้องค์กรสาธารณประโยชน์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้า 4 รางวัลระดับโลก จากเวที Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม



Copyright © 2011 All Rights Reserved.