เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญประจำไตรมาสที่สองของปีนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านเหรียญฯ หรือ 0.75 เหรียญฯ ต่อหุ้นปรับลด ผลประกอบการดังกล่าวครอบคลุมการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ ทำให้รายได้สุทธิลดลงราว 0.2 ล้านเหรียญฯ หรือ 0.09 เหรียญฯ ต่อหุ้นปรับลด
ในไตรมาสที่สองของปี 2555 รายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญของจีเอ็ม มีตัวเลขอยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญฯ หรือ 0.90 เหรียญฯ ต่อหุ้นปรับลด
รายได้สุทธิของไตรมาสที่สองประจำปี 2556 รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านภาษีที่เพิ่มเข้ามาอยู่ที่ 500 ล้านเหรียญฯ หรือ 0.29 เหรียญฯต่อหุ้นปรับลด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2555
ขณะที่รายได้สุทธิในไตรมาสที่สองของปีนี้อยู่ที่ 39.1 พันล้านเหรียญฯ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 37.6 พันล้านเหรียญฯ ส่วนรายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 2.3 พันล้านเหรียญฯ เทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 2.1 พันล้านเหรียญฯ

“เรายังคงมีผลประกอบการที่ดีในตลาดที่มีความสำคัญที่สุดในโลก อย่างสหรัฐอเมริกาและจีน” มร. แดน เอเคอร์สัน ประธานใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม กล่าว “ธุรกิจของเราในยุโรปมีความก้าวหน้าที่ดี ส่วนแบรนด์ระดับโลกของเราทั้งเชฟโรเลต และคาดิลแลค ต่างมีการดำเนินงานที่มั่นคง สำหรับในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เราจะมุ่งเน้นที่การมัดใจลูกค้าด้วยรถที่มีคุณภาพและความคุ้มค่าสูง”
ผลประกอบการแยกตามภูมิภาค
• จีเอ็ม อเมริกาเหนือ รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของไตรมาสที่สองของปีนี้อยู่ที่ 2.0พันล้านเหรียญฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปี 2555 อยู่ที่ 1.9 พันล้านเหรียญฯ
• จีเอ็ม ยุโรป รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีไตรมาสสองประจำปี 2556 อยู่ที่ 100 ล้านเหรียญฯ เมื่อเทียบผลการดำเนินงานไตรมาสที่สองของปี 2555 ซึ่งมีอยู่ที่ 400 ล้านเหรียญฯ
• จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ รายงานผลรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีไตรมาสสองของปีนี้อยู่ที่ 200 ล้านเหรียญฯ เทียบกับไตรมาสสองประจำปี 2555 ที่ 600 ล้านเหรียญฯ
• จีเอ็ม อเมริกาใต้ รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีไตรมาสที่สองอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญฯ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 0 ล้านเหรียญฯ
• รายได้ทางการเงินของจีเอ็ม ก่อนภาษีในไตรมาสสองปี 2556 อยู่ที่ 300 ล้านเหรียญฯ เทียบกับ 200 ล้านเหรียญฯในไตรมาสสองของปี 2555
กระแสเงินสดและสภาพคล่อง
ในไตรมาสสองที่ผ่านมา กระแสเงินสดจากธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 4.5 พันล้านเหรียญฯ ขณะที่กระแสเงินสดอิสระจากธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 2.6 พันล้านเหรียญฯ จีเอ็ม สิ้นสุดไตรมาสที่สองของปีนี้ด้วยสภาพคล่องอันแข็งแกร่ง 34.8 พันล้านเหรียญฯ พร้อมกับมีกระแสเงินสดรถยนต์และหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดอยู่ที่ 24.2 พันล้านเหรียญฯ เทียบกับ 24.3 พันล้านเหรียญฯ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556
“ผลประกอบการในไตรมาสนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสำเร็จของคาดิลแลค เอทีเอส เชฟโรเลต อิมพาลา และโอเปิล ม็อกกา” มร. แดน อัมมานน์ รองประธานอาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของจีเอ็ม กล่าว “เราจะเดินหน้าก้าวข้ามความท้าทายทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในอนาคตอย่างสมบูรณ์แบบและที่สำคัญที่สุด คือการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า”