บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ชวนสื่อมวลชนขับรถ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” รวม 10 คัน เก็บตกสายลมหนาว ไปกับกิจกรรม All-New ISUZU D-Max Press Trip เส้นทาง น่าน – เชียงราย ร่วมสัมผัสเสน่ห์เมืองเหนือกับเส้นทางที่อุดมไปด้วยความสุข การเดินทางในครั้งนี้ เรารวบรวมสมาชิกทั้งหมด 32 คน ร่วมเหินฟ้าจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดน่าน จังหวัดเล็กๆ ที่เงียบสงบ มีวัดหลายแห่งในเขตตัวเมืองเรียงรายอยู่ใกล้ๆ กัน เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่ง ไฮไลท์ของจังหวัดน่านที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาด คือ “วัดภูมินทร์” ซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกที่พวกเรามีโอกาสได้เข้าไปกราบไหว้สักการะ ความงดงามภายในวัดที่ทำให้ผู้ร่วมทริป ทุกคนนั้นตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษก็คือ “พระอุโบสถจตุรมุข” สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ ที่รวมเอาโบสถ์ วิหาร และเจดีย์ ไว้ในอาคารเดียวกัน โดยมีพระประธานจตุรทิศปางมารวิชัย 4 องค์ หันหน้าออกสู่ประตูทั้ง 4 ทิศ ประดิษฐานอยู่ภายใน และยังตระการตาด้วย จิตกรรมฝาผนัง ซึ่งภาพที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คือ ภาพ “เสียงกระซิบบันลือโลก” หรือภาพ “ปู่ม่าน ย่าม่าน” ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อสมัยโบราณ ในลักษณะกระซิบสนทนากันนั่นเอง หลังจากอธิษฐานขอพร และถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกกันเป็นที่เรียบร้อย การเริ่มต้นของขบวน “ออล-นิว อีซูซุ ดีแมคซ์” ปิกอัพสำหรับคนทั้งโลก รวม 10 คัน ได้เคลื่อนขบวนออกจากหจก.อีซูซุน่าน (1989) โดยแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหาร “เรือนแก้ว” ร้านอร่อยริมแม่น้ำน่านอันสวยงาม ก่อนเดินทางด้วยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1091 และเลี้ยวขวาที่สามแยกจุน ไปยังทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1021 ต่อไปยังจังหวัดพะเยา ถึงแม้ว่าเส้นทางนั้นค่อนข้างจะคดเคี้ยว แต่ด้วยโครงสร้างช่วงล่างของ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” ที่มีสมรรถนะสูงในการเกาะถนน ทรงตัวเยี่ยมในทุกสภาวะ แต่คงความนุ่มนวลในการขับขี่ แบบฉบับรถปิกอัพอีซูซุโดยเฉพาะ ทำให้ทุกคนได้ชมวิวสองข้างทางกันอย่างเพลิดเพลินกว่า 180 กิโลเมตร จนมาถึงจังหวัดพะเยา จุดหมายแห่งที่ 2 ของเรา อยู่ที่ “วัดนันตาราม” วัดแห่งนี้เป็นโบราณสถานแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดพะเยา มีศิลปะแบบพม่า ตัววิหารสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ตกแต่งอย่างสวยงามวิจิตรบรรจง ด้วยลวดลายฉลุไม้ตามส่วนประกอบต่างๆ ของวิหาร เช่น หน้าต่าง หน้าบัน และระเบียง หลังจากชื่นชมความงามของวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราได้เดินทางต่อไปยังภูใจใส รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นที่พักของพวกเรา ระหว่างการเดินทางจากจังหวัดพะเยาไปยังเชียงรายนั้น เส้นทางลัดเลาะไปตามท้องนาทำให้เราได้ค้นพบความงดงามที่เต็มไปด้วยสีเขียวขจีตลอดสองข้างทาง ขบวนของเราถึงที่หมายพร้อมกับสายฝน อากาศที่เย็นสบายจึงหนาวขึ้นจนต้องหยิบเสื้อกันหนาวมาสวมทับ มื้อเย็นพวกเราทานกันท่านกลางอากาศหนาวเย็นเพียง 18 องศาเซลเซียส แต่อาหารที่แสนอร่อยทำให้เราสามารถนั่งทานได้อย่างเพลิดเพลินพร้อมกินลมชมบรรยากาศแบบแนบชิดกับธรรมชาติ ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนหลับพักผ่อนภายใต้บรรยากาศเงียบสงบ ยามเช้าพวกเราตื่นรับวันใหม่ด้วยอากาศสดใสเย็นสบาย หลังอิ่มท้องกับอาหารเช้าชมวิวขุนเขาอันสวยงาม ขบวนได้ออกเดินทางอีกครั้งเพื่อท่องเที่ยวอีก 2 แห่ง โดยเราออกเดินทางไปยัง “วัดร่องขุ่น” ที่มีความสวยงามโดดเด่นต่างจากวัดอื่นๆ ชื่นชมกับสุดยอดความอลังการของสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงาม ด้วยฝีมือการออกแบบและก่อสร้างของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี พ.ศ. 2554 แล้ว จากนั้นจึงได้ออกเดินทางด้วย ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์ คันเดิมต่อไปยัง “ไร่บุญรอด” แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีทั้งไม้ผล เช่น พุทรา มะเฟือง สตรอเบอร์รี่ พืชสวน เช่น ชาพันธุ์อู่หลง มัลเบอร์รี่ รวมทั้งแปลงเกษตรผสมผสาน และที่ตื่นตาตื่นใจที่สุด คือ แปลงดอกไม้พันธุ์ต่างๆ ที่หากบานพร้อมกันคงแลดูคล้ายพรมดอกไม้หลากสี ทำให้ผู้ร่วมทริปต่างเข้ามาร่วมเฟรมเพื่อถ่ายภาพกันทั่วถ้วนหน้ากับทุ่งดอกบลูซิลเวียอันงดงาม และแวะรับประทานอาหารกลางวันกันอย่างอิ่มอร่อยที่ร้านอาหารภูภิรมย์ซึ่งอยู่ในไร่บุญรอด ก่อนโบกมืออำลาเชียงราย ด้วยความสุขใจ และสบายกาย แล้วขึ้นเครื่องกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ