จากนโยบายโครงการคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรก ล่าสุดนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะไม่พิจารณาต่ออายุโครงการคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรกไม่เกิน 100,000 บาท ที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ โดยหากประชาชนต้องการซื้อรถยนต์และใช้สิทธิ์มาตรการดังกล่าวนี้ ให้รีบตัดสินใจซื้อรถยนต์คันแรกได้ทันที ไม่ต้องคิดว่ารัฐบาลจะขยายเวลาให้ และเมื่อสิ้นสุดมาตรการแล้ว อาจจะพิจารณาผ่อนผันเฉพาะการส่งมอบรถยนต์ที่ผลิตไม่ทันจริง ๆ แต่ต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้งก่อน
นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า “นโยบายรถคันแรกนี้ เป็นการปรับลดภาษีสรรพสามิตให้บางส่วน ไม่ได้นำงบประมาณไปอุดหนุนทั้งหมด และไม่ได้เพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบ แต่เป็นการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตลงในระดับหนึ่ง เพื่อแบ่งเบ่งภาระให้กับประชาชน โดยรัฐบาลได้จำกัดราคาและขนาดเครื่องยนต์ ไม่ได้ให้เป็นการทั่วไป และโครงการดังกล่าวยังช่วยกระตุ้นการผลิต การบริการหลังการขาย ช่วยสร้างงาน และเพิ่มบริการทางการเงินในการผ่อนชำระ ซึ่งยืนยันว่าจะให้สิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้แน่นอน เพื่อจะได้ไม่ต้องรอตัดสินใจเพื่อหวังให้ขยายเวลาออกไป ส่วนการส่งมอบรถหากมีปัญหาไม่ทันสิ้นปีนี้ค่อยพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง”
กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จนถึงเดือนพ.ค.นี้ มีผู้ขอใช้สิทธิ์คืนเงืนแล้วกว่า 40,000 คัน และมีรถยนต์เข้าข่ายขอคืนเงินภาษีที่อยู่ระหว่างจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกอีก 200,000 คัน จากเป้าหมายขอคืนเงิน 500,000 คัน หรือรวมเป็นเงินที่ต้องคืนภาษี 30,000 ล้านบาท
ขณะนี้กรมสรรพสามิตได้เปิดช่องทางให้ยื่นเรื่องผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วย เพื่อให้ผู้ขอใช้สิทธิ์ขอคืนเงิน ได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น แต่ต้องมีเล่ม จดทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบกก่อน เมื่อซื้อรถแล้วจะได้เงินคืน 100,000 บาท ภายใน 1 ปี โดยผู้ที่ได้สิทธิ์ตั้งแต่ช่วงเริ่มโครงการในเดือนต.ค.นี้ ก็จะได้เงินคืนแล้ว และผู้ที่ได้รับสิทธิ์เองจะต้องครอบครองรถไม่ต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งหากเปลี่ยนมือก่อนรัฐบาลก็จะเรียกเงินคืนในรูปแบบภาษี