dot dot
dot
dot



car2day



Porsche Panamera 4 E-Hybrid

 มหกรรมยานยนต์ Paris Motor Show คือสถานที่ซึ่ง ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) จะปรากฎตัวออกสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรก รถสปอร์ตซาลูนสุดหรูล่าสุด พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและศักยภาพในการขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้เป็นระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร พละกำลังสูงสุดกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) จากขุมพลังเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน hybrid อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างน่าอัศจรรย์ในระดับ 40 กิโลเมตรต่อลิตร (2.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) ตามมาตรฐานการทดสอบอัตราบริโภคในรถยนต์ plug-in hybrid ของยุโรปหรือ NEDC ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (Co2) เพียง 56 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้นพร้อมให้เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้


Porsche Panamera 4 E-Hybrid,2016 Porsche Panamera 4 E-Hybrid,พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด,ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด, เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส


ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบเป็นระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร


สำหรับปอร์เช่ นิยามของคำว่า “hybrid” ไม่ได้มีความหมายแค่เพียงระบบขับเคลื่อนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงสมรรถนะการขับขี่ชั้นเลิศที่ไม่เคยลบเลือนไปจากยนตกรรมสายพันธุ์สปอร์ตเลยแม้แต่น้อย ข้อเท็จจริงที่ใช้ในการพิสูจน์คำกล่าวข้างต้นได้เป็นอย่างดี คือผลงานชัยชนะอันยอดเยี่ยมของรถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 hybird) ในการ แข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมง ฤดูกาล 2015 และ 2016 ที่ผ่านมา เกียรติยศอันยิ่งใหญ่นี้ ได้ถูกถ่ายทอดมายังปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) อย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย

รถยนต์ plug-in hybrid รุ่นใหม่จากปอร์เช่ สามารถเริ่มการทำงานได้จากระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางอย่างต่อเนื่องในสภาวะของยานพาหนะที่ปราศจากมลพิษหรือ zero-emission vehicle ได้เป็นระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร โดยยังคงทำความเร็วสูงสุดถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นจึงเป็นคำตอบว่าเพราะเหตุใดปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ จึงเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่อยู่ในเรือนร่างของซาลูนสุดหรูอย่างแท้จริง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อประสิทธิภาพสูงของปอร์เช่ ทำหน้าที่รองรับความเร็วสูงสุดกว่า 278 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมทั้งถ่ายทอดแรงบิดมหาศาลในระดับ 700 นิวตันเมตรลงสู่พื้นถนนได้ทันทีที่ออกตัวจากจุดสตาร์ทโดยไม่ขึ้นต้องอยู่กับรอบการทำงานของเครื่องยนต์รถสปอร์ต hybrid 4 ประตูคันนี้ ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.6 วินาทีเท่านั้น แรงบิดทั้งหมดได้รับการส่งต่อไปยังล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 อย่างสมบูรณ์โดยมีระบบช่วงล่างแบบถุงลม หรือ three-chamber air suspension ที่ให้เสถียรภาพในการทรงตัวอันยอดเยี่ยมพร้อมดุลยภาพระหว่างความนุ่มนวลสะดวกสบายและการบังคับควบคุมที่เฉียบคม

แนวคิดในการพัฒนาระบบ hybrid ใหม่ล่าสุดซึ่งมีพื้นฐานจากรถซูเปอร์สปอร์ต ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder)

สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญอย่างแน่นอน ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ใหม่ ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ hybrid ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด ถือได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ครั้งแรกของระบบขับเคลื่อนสุดล้ำยุคซึ่งไม่เคยมีการนำมาใช้งานในรถยนต์ระดับเดียวกันมาก่อน หลักการทำงานของระบบดังกล่าวใช้พื้นฐานแนวคิดเช่นเดียวกันกับ ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) รถสปอร์ตที่เปี่ยมด้วยพละกำลังสูงสุดถึง 887 แรงม้า (652 กิโลวัตต์) นอกจากนี้มันยังเป็นรถจากสายการผลิตปกติที่สามารถทำความเร็วต่อรอบสนามได้ดีที่สุดบน Nurburgring Nordschleife สร้างสถิติอันยากที่จะมีใครทำลายได้ที่ 6:57 นาทีต่อรอบสนาม ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยพละกำลังที่ได้รับเพิ่มเติมจากระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงถึง 2 ชุดด้วยกัน


Porsche Panamera 4 E-Hybrid,2016 Porsche Panamera 4 E-Hybrid,พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด,ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด, เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส


และเช่นเดียวกันกับ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) ด้วยกำลังเสริมจากชุดมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มให้ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่อีกกว่า 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อปลายเท้าสัมผัสแป้นคันเร่งเท่านั้น ในขณะเดียวกับที่ พานาเมร่า (Panamera) รุ่นก่อน ผู้ขับขี่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งลงถึง 80% ของระยะการทำงานจึงจะสามารถดึงเอาพละกำลังเสริมจากชุดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าดังกล่าวมาใช้งานได้ แต่สำหรับในตอนนี้ ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) รุ่นใหม่ติดตั้งชุดมอเตอร์ไฟฟ้าที่ผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันกับเครื่องยนต์เบนซินได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ข้อจำกัดใดๆ พร้อมให้สมรรถนะการขับขี่และประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนทั้ง 2 ได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มี่ที่ติ ในลักษณะการทำงานแบบเดียวกันกับชุดมอเตอร์ไฟฟ้าใน 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) ที่ให้ศักยภาพในการเสริมพละกำลังเครื่องยนต์ได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ทั้งนี้จากการปฏิบัติหน้าที่ประสานเป็นหนึ่งเดียวกันเข้ากับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาดความจุ 2.9 ลิตรไบเทอร์โบ (330 แรงม้า/243 กิโลวัตต์/แรงบิด 450 นิวตันเมตร) จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ใหม่ จะมีพละกำลังที่ยอดเยี่ยมเต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะอันสุดแสนประทับใจ ตอบสนองทุกสไตล์การขับขี่และรองรับทุกเส้นทางที่ต้องเผชิญได้เป็นอย่างดีจากแหล่งกำเนิดพลังชั้นเลิศทั้งชุดมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ประสิทธิภาพสูง

นอกจากนี้พลังงานที่ได้จากชุดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใน พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) นั้นยังมีส่วนสำคัญในการถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มอัตราความเร็วสูงสุดที่รถคันนี้สามารถทำได้อีกด้วย และนี่คือนิยามใหม่ล่าสุด ของระบบขับเคลื่อน hybrid แห่งอนาคตจากปอร์เช่ “E-Performance” ระบบขับเคลื่อนล้ำยุคที่ให้พละกำลังมากยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างน่าอัศจรรย์ สิ่งนี้ราวกับจากโลกอนาคต

ชุดขับเคลื่อน hybrid ใหม่ล่าสุด พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ PDK 8 จังหวะ


ด้วยการทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ซึ่งคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยปอร์เช่ผสานพลังร่วมกันกับเครื่องยนต์เบนซิน V6 สมรรถนะสูง พร้อมระบบ electric clutch actuator (ECA) นวัตกรรมเทคโนโลยีทางวิศวกรรมยานยนต์ที่ได้รับการติดตั้งลงใน ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ ทำงานด้วยการควบคุมของชุด electro-mechanically ซึ่งให้การตอบสนองที่แม่นยำฉับไวมากกว่าการควบคุมด้วย electro-hydraulic แบบเดิมใน พานาเมร่า (Panamera) รุ่นก่อนหน้า จึงเป็นที่มาของการถ่ายทอดกำลังที่มีความรวดเร็วและเฉียบคมมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับยนตกรรมปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นที่ 2 ในรุ่นอื่น ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ได้รับการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ Porsche Doppelkupplug หรือ PDK แบบ 8 จังหวะ รับหน้าที่ในการถ่ายทอดพละกำลังมหาศาลจากเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าลงสู่ล้อทั้ง 4 อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้เกียร์อัตโนมัติ PDK ถูกมอบหมายให้ประจำการแทนเกียร์อัตโนมัติแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ (Torque Converter) ซึ่งติดตั้งอยู่ใน พานาเมร่า (Panamera)  รุ่นก่อนหน้านี้


Porsche Panamera 4 E-Hybrid,2016 Porsche Panamera 4 E-Hybrid,พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด,ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด, เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส


ชุดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้านั้นได้รับพลังงานจากการจ่ายผ่านแหล่งพลังงานแบบแบตเตอรี่ระบายความร้อนด้วยของเหลวหรือ liquid-cooled Lithium-ion battery ถึงแม้แบตเตอรี่ดังกล่าว (ซึ่งได้รับการติดตั้งอยู่บริเวณพื้นตัวถังใต้ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ) จะมีอัตราความจุพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 9.4 กิโลวัตต์ชั่วโมงในรุ่นเดิม เป็น 14.1 กิโลวัตต์ชั่วโมงในรุ่นใหม่ก็ตาม แต่กลับมีน้ำหนักที่ไม่แตกต่างกัน คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงดังกล่าวได้จนเต็มความจุพลังงานไฟฟ้าภายในระยะเวลาเพียง 5.8 ชั่วโมง ด้วยสายชาร์จขนาด 230-V, 10-A สำหรับในกรณีที่ผู้ขับขี่เลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบพิเศษ 7.2 kW on-board charger และสายชาร์จขนาด 230-V, 32-A แทนอุปกรณ์แบบมาตรฐาน 3.2 kW ในปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera)  นั้น จะสามารถทำการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มความจุพลังงานไฟฟ้าได้ภายในระยะเวลาเพียง 3.6 ชั่วโมงเท่านั้น ขั้นตอนการชาร์จพลังงานดังกล่าวสามารถตั้งค่าในการกำหนดเวลาได้ผ่านระบบ Porsche Communication Management หรือ PCM ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ยังได้รับการติดตั้งระบบปรับอากาศแบบตั้งการทำงานอัตโนมัติซึ่งสามารถควบคุมการทำงานทั้งระบบทำความเย็นและระบบทำความร้อนให้แก่ห้องโดยสารในระหว่างการชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย

แนวคิดของระบบควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานล้ำยุค Porsche Advance Cockpit
และหน้าจอพิเศษแสดงสถานะการทำงานของระบบขับเคลื่อน hybrid 


อุปกรณ์ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษอย่างหนึ่งของปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นล่าสุด คือผลงานในการออกแบบและพัฒนาหน้าจอแสดงผลและฟังก์ชั่นควบคุมการทำงานตามหลักแนวคิดใหม่ของปอร์เช่ หรือ Porsche Advance Cockpit ซึ่งมาพร้อมแผงควบคุมระบบสัมผัสล้ำอนาคต และหน้าจอแสดงผลที่แบ่งแยกการทำงานโดยเฉพาะในแต่ละระบบภายในห้องโดยสารประกอบด้วยจอภาพความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว 2 ตัวซึ่งได้รับการติดตั้งลงในชุดแผงหน้าปัดโดยมีมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มสุดคลาสสิกคั่นกลางระหว่างหน้าจอทั้ง 2 และอีกหนึ่งความพิเศษสุดซึ่งคุณจะสามารถพบความแตกต่างจาก พานาเมร่า (Panamera) รุ่นอื่นๆ ได้ในปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) เท่านั้น คือหน้าจอ power meter สำหรับแสดงสภาวะการทำงานของระบบขับเคลื่อน hybrid โดยเฉพาะ หน้าจอดังกล่าวสามารถ


Porsche Panamera 4 E-Hybrid,2016 Porsche Panamera 4 E-Hybrid,พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด,ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด, เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส


บอกสถานะการทำงานของระบบขับเคลื่อน hybrid ให้แก่ผู้ขับขี่รับทราบได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายในลักษณะเดียวกับอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ในรถซูเปอร์สปอร์ต ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) นั่นเอง หน้าจอ power meter ดังกล่าวจะ แสดงข้อมูลได้หลากหลาย อาทิเช่น ปริมาณของพลังงานไฟฟ้าที่ถูกใช้งานอยู่ในขณะนั้น หรือ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับการชาร์จคืนกลับ

หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รับหน้าที่ในการควบคุมการทำงานระบบ PCM พร้อมแสดงผลทั้งหมด ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลของการทำงานจากระบบขับเคลื่อนแบบ hybrid ที่มีความหลากหลายได้ ทั้งจากหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงดังกล่าวหรืออ่านข้อมูลจากชุดแผงหน้าปัด ฟังก์ชั่นพิเศษ boost assistant และ hybrid assistant ออกแบบให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่ายและเปี่ยมไปด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดย boost assistant จะทำหน้าที่แสดงพลังงานที่สามารถใช้ได้ในขณะนั้น สำหรับ Hybrid assistant ทำหน้าที่ให้ข้อมูลการประมวลผลของสัญญาณจากหลายแหล่งที่เกี่ยวข้องกับกำลังขับเคลื่อนจากพลังงานไฟฟ้า

“Hybrid Auto” รูปแบบการขับขี่ที่ตอบรับประสิทธิภาพเหนือระดับ 

ชุดแต่งสปอร์ต โครโน (Sport Chrono Package) ติดตั้งพร้อมชุดสวิทช์เลือกรูปแบบการขับขี่บนพวงมาลัย สำหรับปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) นั้นมีความแตกต่างไปจากอุปกรณ์ดังกล่าวใน พานาเมร่า (Panaemra) รุ่นอื่น โดยทั่วไปสวิทช์เลือกรูปแบบการขับขี่หรือ mode switch และระบบควบคุมการติดต่อสื่อสารหรือ Porsche Commnication Management เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้งานรูปแบบการขับขี่ได้หลากหลายลักษณะ ซึ่งรูปแบบหรือ mode ที่คุ้นเคยกันดีได้แก่ “Sport” และ “Sport Plus” ซึ่งรูปแบบดังกล่าวถูกติดตั้งลงในปอร์เช่ พานาเมร่า (Panaemra) รุ่นอื่นที่มาพร้อมชุดแต่งสปอร์ต โครโน สำหรับรุ่น hybrid ได้รับการเพิ่มเติมเป็นพิเศษด้วยรูปแบบการขับขี่ “E-Power”, “Hybrid Auto”, “E-Hold” และ “E-Charge”

ทั้งนี้ปอร์เช่ พานาเมร่า อี-ไฮบริด (Panamera E-Hybrid) จะตั้งค่าการทำงานเริ่มต้นอัตโนมัติทุกครั้งเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรูปแบบการขับขี่จากพลังงานไฟฟ้า 100% ใน mode “E-Power” ในส่วนของ mode “Hybrid Auto” นั้นเป็นรูปแบบการขับขี่ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นใหม่ เมิ่อผู้ขับขี่เลือกใช้งานรูปแบบดังกล่าว พานาเมร่า (Panaemra) จะปรับตั้งการทำงานของระบบขับเคลื่อนทั้งหมดโดยอัตโนมัติเพื่อรองรับการขับขี่ที่ให้ประสิทธิภาพในการประหยัดสูงสุด


Porsche Panamera 4 E-Hybrid,2016 Porsche Panamera 4 E-Hybrid,พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด,ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด, เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส


รูปแบบการขับขี่ “E-Hold” เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบการชาร์จพลังงานได้อย่างเต็มที่ พร้อมรองรับการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ของรถยนต์ปราศจากมลพิษหรือ zero-emissions mode ตัวอย่างเช่นในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในเขตพื้นที่ที่มีความเข้มงวดในเรื่องสภาพแวดล้อม สำหรับ “E-Charge” mode เครื่องยนต์ เบนซิน V6 จะรับบทบาทในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าคืนกลับให้แก่ระบบ ในการเลือกใช้งานรูปแบบการขับขี่ลักษณะนี้เครื่องยนต์เบนซินอาจทำงานมากกว่าความต้องการใช้กำลังจากเครื่องยนต์เพื่อรองรับการขับขี่ในขณะนั้น     

รูปแบบการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะสูงสุดนั้นอยู่ใน mode การทำงานที่เรียกว่า “Sport” และ “Sport Plus” เครื่องยนต์ V6 ไบเทอร์โบ จะทำงานอย่างเต็มที่ต่อเนื่องเมื่อเลือกใช้ลักษณะการขับขี่ในรูปแบบทั้งสอง สำหรับ “Sport” อัตราการชาร์จพลังงานไฟฟ้าคืนกลับไปยังแบตเตอรี่นั้นจะถูกกำหนดให้อยู่ในระดับที่ต่ำสุดเพื่อให้แน่ใจว่าระบบขับเคลื่อนจะมีกำลังสำรองเพียงพอในการตอบสนองและรองรับการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่ผู้ขับขี่ต้องการ

ในส่วนของรูปแบบการขับ “Sport Plus” mode จะเป็นลักษณะการทำงานที่สมรรถนะสูงสุด ปลดปล่อย พานาเมร่า (Panamera) ให้ทำความเร็วสูงสุดทะลุขีดจำกัดจนถึงระดับ 278 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในรูปแบบการขับขี่นี้ระบบจะทำการชาร์จพลังงานในอัตราที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ จากการช่วยเหลือของเครื่องยนต์เบนซิน V6

ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นที่สองประกอบด้วย พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) 550 แรงม้า/404 กิโลวัตต์ พานาเมร่า 4 เอส (Panamera 4S) 440 แรงม้า/324 กิโลวัตต์ และพานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) 462 แรงม้า/340 กิโลวัตต์ จากสองระบบขับเคลื่อน ทั้ง 3 รุ่นคือตัวแทนของการผสมผสานรถสปอร์ตสมรรถนะสูงสายพันธ์แท้ให้เป็นหนึ่งเดียวกับรถแกรนทัวริ่งที่เพียบพร้อมไปด้วยความหรูหราควบรวมเอาที่สุดแห่งการขับขี่เข้ากันอย่างดีเยี่ยมกับ


Porsche Panamera 4 E-Hybrid,2016 Porsche Panamera 4 E-Hybrid,พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด,ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด, เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส


ความสะดวกสบายเหนือระดับ

ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 40 กิโลเมตรต่อลิตร (25 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) 56 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า 15.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร *ผลการทดสอบอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของยางรถยนต์ที่ใช้ 

ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 10.6 – 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร, (9.4-9.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยสำหรับการขับขี่ในเมือง 7.7 – 7.8 กิโลเมตรต่อลิตร (12.9-12.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 13.6 – 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร (7.3-7.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) 214 - 212 กรัมต่อกิโลเมตร

ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 เอส (Panamera 4S): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.1 – 12.3 กิโลเมตรต่อลิตร, (8.2-8.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยสำหรับการขับขี่ในเมือง 9.8 – 9.9 กิโลเมตรต่อลิตร (10.2-10.1 ลิตรต่อ 100 กิโลมตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 14.7 – 14.9 กิโลเมตรต่อลิตร (6.8-6.7 ลิตรต่อ 100 กิโลมตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) 186 - 184 กรัมต่อกิโลเมตร


ปอร์เช่ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 10 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขายของ เอเอเอส โดยทุ่มเทงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” “AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า AAS The Name you can Trust ซึ่งได้พิสูจน์ให้ท่านเห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินการมากกว่า 30 ปี

 

 




WorldCartoday

เอ็มจี เปิดตัว MG3 HYBRID+ ที่แรกในโลก พร้อมยกขบวนรถยนต์สุดล้ำมากกว่า 10 รุ่น เข้างาน GENEVA INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2024
เกรท วอลล์ มอเตอร์ กวาดยอดขายปี 2566 ทั่วโลกทะลุ 1 ล้านคันติดต่อกันเป็นปีที่ 8
โรงงานปอร์เช่ในเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) เฉลิมฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 2 ล้านคัน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ บุกงานมหกรรมกวางโจว ออโต้โชว์ ครั้งที่ 21
ฮอนด้า เผยไฮไลต์ ผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน ภายในงาน JAPAN MOBILITY SHOW 2023 ที่ประเทศญี่ปุ่น
ฮอนด้า แนะนำเทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง 360 (Honda SENSING 360) และฮอนด้า เซนส์ซิ่ง อีลิท (Honda SENSING Elite) เจเนอเรชันใหม่
ฮอนด้า เปิดตัวเทคโนโลยีความปลอดภัยแห่งอนาคตเป็นครั้งแรกในโลก
มาสด้าเผยโฉม ‘MAZDA ICONIC SP’ รถต้นแบบสปอร์ตคอมแพ็คคาร์ ครั้งแรกในงาน Japan Mobility Show 2023
ปอร์เช่ ร่วมศึกษาพัฒนาเทคโนโลยี DAC
เอ็มจี เปิดตัว MG CYBERSTER ครั้งแรกในจีน ที่ เฉิงตู ออโต้ โชว์ 2023
ระบบจำลองเสมือนจริงเพื่อพัฒนายางล้อ (Tire-Development Simulation) เทคโนโลยีขั้นสูงที่มุ่งยกระดับการสัญจรและสมรรถนะในการแข่งรถ
สงครามราคาของเทสลาในจีนกลับมาเดือดอีกครั้งหลังจากยอดขาย BYD พุ่งสูงขึ้น
ปอร์เช่ Cayenne ทดสอบโหด เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้
ย้อนระลึกเกียรติประวัติของปอร์เช่ 959 Paris-Dakar
ฮุนได IONIQ 5 ได้รับเลือกจาก Wards เป็นหนึ่งในสิบของเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อนที่ดีที่สุด
ยอดส่งมอบรถยนต์ปอร์เช่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 9 เดือนแรกของปี
NETA เน้นไทยเป็นศูนย์กลางรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน ร่วมโชว์นวัตกรรมในงาน CHINA-ASEAN EXPO สนับสนุนความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียน
ฟอร์ด มัสแตง ใหม่ เผยโฉมที่งานดีทรอยต์ ออโต้ โชว์
ฮอนด้ามอเตอร์ประกาศพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน วางเป้าเปิดตัวรถรุ่นใหม่ไม่น้อยกว่า 10 รุ่น ภายในปี 2025
art car คันใหม่ล่าสุด Taycan 4 Cross Turismo จาก Sean Wotherspoon
นิสสัน เปิดเผยโรงงานต้นแบบสำหรับแบตเตอรี่แบบ All-solid-state พร้อมเร่งเดินหน้านำงานวิจัยไปใช้งานจริง
ปอร์เช่ เพิ่มงบประมาณใน Rimac สำหรับรอบการลงทุนใหม่
บริดจสโตน ประกาศ “พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน (Bridgestone E8 Commitment)”
ปอร์เช่ ทุ่มงบกว่า 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเชื้อเพลิง eFuels ตามพันธกิจองค์กร
ฮุนได มอเตอร์ ได้รับรางวัล GOOD DESIGN Awards จากดีไซน์ รถยนต์ไอออนิค และสตาร์เรีย
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยสถิติยอดขายทั่วโลกปี 2564 โตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รับกระแสความต้องการรุ่นไฮบริด
Fisker จับมือ บริดจสโตน ให้บริการและส่งมอบโซลูชั่นสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในฝรั่งเศสและเยอรมนี
ปอร์เช่ เผยโฉม 5 ยนตกรรมสปอร์ตรุ่นล่าสุด ในงาน LA Auto Show 2021
บททดสอบสุดหฤโหด เตรียม #NextGenRanger ให้พร้อมเผชิญทุกสถานการณ์
มาสด้าเผยแผนขยายผลิตภัณฑ์รถอเนกประสงค์เอสยูวีตั้งแต่ปี 2565
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดศักราชใหม่สู่ยุคพลังงานอัจฉริยะ ขนทัพรถยนต์ใหม่กว่า 12 รุ่นจาก 5 แบรนด์ จัดแสดงในงานเฉิงตู มอเตอร์ โชว์ 2021
Porsche Taycan เพิ่มเฉดสีตัวถังใหม่ พร้อมปรับโฉมนวัตกรรมในการติดต่อสื่อสาร เพื่อเพิ่มทางเลือกและยกระดับประสบการณ์ในการใช้งานแด่ลูกค้าปอร์เช่
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ฉลองครบรอบ 10 ปี HAVAL H6 ด้วยยอดขายกว่า 3.5 ล้านคันทั่วโลก พร้อมเผยโฉมรถยนต์เอสยูวีสองรุ่นใหม่
นิสสัน เปิดตัวโครงการ EV36Zero ฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านปอนด์
Porsche 911 GT2 RS ทำลายสถิติเวลาต่อรอบ 6:43.300 นาที ที่สนาม Nürburgring Nordschleife
“อีซูซุดีแมคซ์” คว้ารางวัลรถยนต์แห่งปี 2021 ประเภทรถปิกอัพ 4 ประตูยอดเยี่ยม จากสื่อดังในประเทศออสเตรเลีย
ชมพิพิธภัณฑ์ Porsche Museum ในรูปแบบเสมือนจริง ตื่นตาไปกับนิทรรศการพิเศษ “25 Years of the Boxster”
‘มิชลิน’ ผนึกกำลัง ‘คาร์ไบโอส์’ มุ่งพัฒนายางล้อที่ยั่งยืน 100%
ยอดขายรถยนต์ อี-พาวเวอร์ ในญี่ปุ่นทะลุ 500,000 คัน
บริดจสโตนและไลท์เยียร์ ผนึกกำลังพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่สามารถวิ่งระยะทางไกลได้เป็นรุ่นแรกของโลก
มาสด้า3 คว้ารางวัล Canadian Car of the Year 2021 ติดต่อกันถึง 2 ปีซ้อน
The new Porsche 911 GT3
เกรท วอลล์ มอเตอร์ โกยยอดขายทั่วโลก ทะลุ 1.11 ล้านคัน สูงที่สุดในรอบ 30 ปี เสริมทัพความเชื่อมั่นก่อนบุกตลาดไทยปีนี้
บริดจสโตน เปิดตัวเมืองเสมือนจริงแห่งอนาคต โชว์ผลงานโซลูชั่นด้านการเดินทางในงาน CES 2021
Porsche Taycan รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ดริฟท์ทำลายสถิติ Guinness World Records
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขนทัพยนตรกรรมร่วมงาน Guangzhou International Automobile Exhibition
911 Turbo S รุ่นพิเศษ Special edition เอกสิทธิ์พิเศษสำหรับเจ้าของเครื่องบิน ส่วนตัว Embraer
ฮุนได ก้าวขึ้นสู่หนึ่งในห้าแบรนด์ยานยนต์ของโลกจัดอันดับโดย อินเตอร์แบรนด์ 2563
รถกระบะ P Series ของค่าย GWM พรางตัววิ่งตามท้องถนนในหลายประเทศทั่วโลก
Nissan Z Proto รถสปอร์ตต้นแบบจากตำนานของนิสสัน
รอยัล เอนฟิลด์ เปิดตัว ทวินส์ เอฟที ครั้งแรก ในการแข่งขันอเมริกันแฟลตแทร็ก
ฮุนไดมอเตอร์เปิดตัว "Channel Hyundai" สำหรับสมาร์ททีวี มอบประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือระดับให้กับลูกค้า
Bridgestone นำเทคโนโลยี ENLITEN ใช้ใน Volkswagen Golf 8 รุ่นล่าสุด
ปอร์เช่ เปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตซาลูน รุ่นปรับโฉม Panamera เสริมทัพด้วยรุ่นไฮบริดสมรรถนะสูง
บริดจสโตน เข้าซื้อธุรกิจ ไอแทรค โซลูชั่น จากทรานเซนส์ เทคโนโลยี
ปอร์เช่ ลงทุนกว่า 15 พันล้านยูโร ในโครงการพัฒนายานพาหนะแห่งอนาคตระยะเวลา 5 ปี
แนวคิดในการพัฒนา ทาร์กา (Targa) นิยามใหม่แห่งประสบการณ์ขับขี่รถสปอร์ตปอร์เช่
Porsche Taycan คว้า 2 รางวัล World Car of the Year 2020
ฉลองวันเกิดฟอร์ด มัสแตง กับ 6 ภาพยนตร์ดัง นำแสดงโดยเจ้าตำนานม้าป่าสุดปราดเปรียว
ฮุนไดเตรียมเผยโฉมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าต้นแบบรุ่นล่าสุด “Hyundai Prophecy” ที่งานเจนีวา มอเตอร์ โชว์
‘‘ซูบารุ ฟอเรสเตอร์’ คว้ารางวัล มาตรฐานความปลอดภัย 5 ดาวด้วยคะแนนรวมสูงสุดในกลุ่ม โดย EURO NCAP
พาชมบูธโตโยต้า ที่งาน โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2019 ประเทศญี่ปุ่น (มีVDO)
Toyota LQ รถไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ เผยโฉมในงาน Tokyo Motor Show 2019 (มีVDO)
Lexus เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ LF-30 ในงาน Tokyo Motor Show 2019 (มีVDO)
Porsche 911 Turbo บรรทัดฐานแห่งยนตรกรรมสปอร์ตที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอด 45 ปี
Porsche Panamera 10 Years Edition รุ่นพิเศษ
พาชมรถยนต์ต้นแบบพลังงานไฟฟ้า Mercedes-Benz Vision EQS ที่งาน Frankfurt MotorShow 2019 (มีVDO)
ฮุนได มอเตอร์ เผยโฉมรถยนต์อีวีต้นแบบ ฮุนได 45 ที่งานแฟรงก์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์
‘MICHELIN Air X’ ผ่านการทดสอบเพื่อติดตั้งกับเครื่องบิน Embraer E170
โตเกียวมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ปี 2019 ก้าวข้ามอุตสาหกรรมยานยนต์ ผ่านการสอดประสานแนวคิดและเทคโนโลยีหลากหลายสาขา เปิดม่าน 24 ตุลาคม 62 นี้
Macan และ Cayenne ผนึกกำลังสร้างยอดจำหน่ายให้ปอร์เช่ในประเทศจีน เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งปีแรก
ฮุนได มอเตอร์ เปิดตัวสื่อโฆษณาไวรัลวีดีโอ รถเอสยูวีรุ่น “เวอนู” สู่ทั่วโลก (มีVDO)
"ฮอนด้า" ทีมแกร่งตลอดกาลแห่ง “โมโตจีพี” 60 ปีแห่งความสำเร็จบนสังเวียนความเร็ว
มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สร้างสถิติยอดจำหน่ายทั่วโลกครบ 200,000 คัน
Nissan LEAF Nismo RC รถแข่งไฟฟ้ารุ่นใหม่
เทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ ตัวช่วยลดความเสี่ยงและเอาชนะความท้าทายบนท้องถนน
บริดจสโตนกับภารกิจการสำรวจอวกาศนานาชาติกับ JAXA และโตโยต้า
Porsche Taycan พร้อมเผชิญบททดสอบสุดทรหดขั้นตอนสุดท้าย
ความเงียบจากรถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนช่วยสุขภาพของหัวใจ และลดมลพิษทางเสียง
ปอร์เช่ เผยโฉม Porsche Cayenne Coupe (มีVDO)
Toyota CAMRY ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ASEAN NCAP แบบใหม่
Porsche 911 ใหม่ ที่สุดแห่งปลอดภัยในการขับขี่ด้วย Porsche Wet Mode
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอินสตาแกรม
บริดจสโตน ยกระดับมาตรฐานการทดสอบยางรถยนต์ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับ
Porsche 919 Hybrid สร้างความฮือฮาหลังปรากฏตัวยามค่ำคืนใจกลางกรุงเทพฯ
บริดจสโตน ยกระดับคุณภาพยาง คิดค้นนวัตกรรมโพลิเมอร์ชนิดใหม่รายแรกของโลก
ฟอร์ดฉลองยอดการผลิตรถมัสแตงครบ 10 ล้านคัน
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เผยดีไซน์ใหม่ของโชว์รูมและศูนย์บริการ เตรียมพลิกโฉมทุกสาขาทั่วโลก
ปอร์เช่ปรับโฉม มาคันน์ ใหม่ (The new Porsche Macan) เปิดตัวครั้งแรกของโลกที่เซี่ยงไฮ้
นิสสัน เผยจุดเด่นของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อนจากแนวคิด Nissan Intelligent Mobility
วอลโว่ ทรัคส์ ส่งมอบรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติให้กับบริษัทขนส่งในประเทศนอร์เวย์
ฉลองครบรอบ ดูคาติ มอนสเตอร์ 25 ปี ในงาน World Ducati Week 2018
ปอร์เช่ เปิดตัว สถานีชาร์จพลังงานระบบดิจิทัล พร้อมให้บริการสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ไทคานน์ (Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกจากปอร์เช่
วอลโว่ ทรัคส์ เปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าเต็มรูปแบบครั้งแรก
Subaru VIZIV Tourer ครั้งแรกในโลกในงาน Geneva International Motor Show
กู๊ดเยียร์ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมด้านสมรรถนะ คุณภาพ และนวัตกรรม จากเจนเนอรัล มอเตอร์ส
นิสสัน เปิดตัว “เทอร์รา” รถยนต์เอสยูวี รุ่นล่าสุด สู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศฟิลิปปินส์
ฟอร์ด นำเสนอหน้าต่างอัจฉริยะ เปิดโลกการมองเห็นให้แก่ผู้พิการทางสายตา (มีVDO)



Copyright © 2011 All Rights Reserved.