บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทย จัดการทดสอบ Toyota Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่ขึ้น โดยมีทั้งการทดสอบทั้งแบบ Off road และ On road โดยการทดสอบครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามทดสอบ Off road ไร่ทองสมบูรณ์ เขาใหญ่ โดยทีมงาน Auto-Thailand ก็มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย





สำหรับ Toyota Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่ จะมีจุดที่ได้รับการปรับเปลี่ยนเด่นๆ อาทิ ระบบเบรกหลัง ที่เปลี่ยนจากระบบดรัมเบรคมาเป็นแบบดิสเบรคในทุกรุ่น  บันไดข้างได้รับการเปลี่ยนเป็นสีเงิน  ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED  เบาะนั่งฝั่งคนนั่งด้านหน้า แบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางเฉพาะในรุ่น V และ TRD และเพิ่มรุ่น 2.4V ∑4 ขับเคลื่อนสี่ล้อ

เริ่มกิจกรรมกันที่ Toyota Driving Experience Park บางนา กม.3 ก่อนจะเดินทางนั่งรถตู้ไปยังสนามทดสอบ Off Road ไร่ทองสมบูรณ์  โดยภายในสนามมีด่านอุปสรรคในการทดสอบความสามารถในการขับเคลื่อนแบบต่างๆมากมาย ทั้งข้ามขอนไม้ เนินชันทั้งขาขึ้นและขาลง ทางต่างระดับ บ่อน้ำ และเนินเอียง โดยรถที่เราได้ทดสอบครั้งนี้ เป็น Toyota Fortuner 2.8V ∑4 ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ L4 

โดยเริ่มจากสถานนีแรก เป็นการขับข้ามขอนไม้ ซึ่ง Fotuner สามารถข้ามได้สบายๆ เพียงแค่เลี้ยงรอบเครื่องไว้ที่1000 รอบ/นาทีเท่านั่น ต่อมาเป็นสถานนีเนินชัน เพื่อทดสอบระบบ HAC  หรือระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน โดยขณะที่เราจอดรอบนทางลาดชัน ระบบจะสั่งให้ระบบเบรคทำงาน ช่วยให้รถหยุดนิ่งอยู่บนเนินประมาณ 3 วินาทีไม่ไหลลงมาขณะที่เราปล่อยเบรคเพื่อจะเปลี่ยนไปเหยียบคันเร่ง ทำให้การออกตัวทำได้อย่างนุ่มนวล และง่ายดาย แม้ในทางลาดชันมากๆ

มาถึงขาลงจะเป็นการทดสอบระบบ DAC  หรือระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน โดยแค่ปล่อยรถลงมา ระบบจะทำการควบคุมความเร็วของรถให้ไม่เร็วจนเกินไป โดยที่เราไม่ต้องเหยียบเบรคช่วยเลยแม้แต่น้อยรถก็สามารถไหลลงมาอย่างนุ่มนวลไม่มีการกระชากแต่อย่างใด 




     



     




ถัดมาจะเป็นสถานนีบ่อน้ำ ซึ่ง Fortuner ก็สามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เร่งรอบเครื่อง 1000-1500รอบ/นาที เท่านั่น เราก็สามารถผ่านอุปสรรคอย่างง่ายดาย ขับต่อมาจะเป็นสถานนีข้ามสิ่งกีดขวาง เป็นการทดสอบความนุ่มนวลของช่วงล่าง ซึ่ง Fortuner แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพช่วงล่างที่นุ่มนวลแม้ผ่านในสภาพทางที่มีอุปสรรคมากก็ไม่ได้มีอาการดีดเด่ง หรือกระแทกอย่างรุนแรง ต่อมาเป็นสถานนีทดสอบระบบ A-TRC  หรือระบบป้องกันล้อหมุนฟรี โดยระบบนี้ จะมาแทน ระบบ LSD Limited Slip Differential โดย ระบบนี้จะทำงานโดยใช้เซนเซอร์ของระบบ ABS ตรวจจับการหมุนฟรีของล้อ ถ้ามีล้อใดล้อหนึ่งหมุนฟรี ระบบจะสั่งให้ ABS Actuator ส่งแรงเบรคไปที่ล้อที่กำลังหมุนฟรีเพื่อลดกำลังลง แรงขับเคลือนก็จะถูกส่งไปล้ออีกฝั่งหนึ่งทันที สำหรับในการทดสอบจริงนั่น ระบบ A-TRC ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะในขณะที่เรากำลังเข้าสถานนีทดสอบล้อด้านนึงจมในหลุม อีกด้านนึงยกลอยจนหมุนฟรี เราเพียงเพิ่มแรงกดคันเร่งลงไปเพียงเล็กน้อย พอระบบรับรู้การหมุนฟรี ก็เริ่มทำงาน ทำให้ล้อฝั่งในหลุมมีแรงผลักรถขึ้นมาจากหลุมทันที โดยทั้งสามระบบที่อยู่ใน Fortuner ทำให้เราสามารถผ่านอุปสรรค ในทาง off road ได้อย่างง่ายดายจนจบการทดสอบ หลังจากนั่นจึงเดินทางไปเข้าพักที่โรงแรม My Ozone เขาใหญ่ เพื่อเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมการทดสอบ On Road ในวันรุ่งขึ้น

เริ่มการทดสอบ Toyota Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่ ในวันนี้กับรูปแบบ On Road ขับขี่ใช้งานบนถนนจริง โดยเริ่มต้นจากโรงแรม My Ozone เขาใหญ่ กลับไปยัง Toyota Driving Experience บางนา กม.3 โดยเส้นทางจะแบ่งเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงแรก : โรงแรม My Ozone เขาใหญ่ – อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง  ช่วงที่ 2 : อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง –Kantary Hotel  ช่วงที่ 3 : Kantary Hotel – ปตท.พนมสารคาม ช่วงที่ 4 : ปตท.พนมสารคาม –Toyota Driving Experience บางนา กม.3

โดยในช่วงแรก ทีมงาน Auto-Thailand ได้รถทดสอบเป็น Toyota Fortuner 2.8V ∑4 โดยในเส้นทางช่วงแรกไปยังอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงนั่น เป็นถนนสองเลนสวน และคดเคี้ยวไปมา Fortuner 2.8 สามารถแสดงพละกำลังให้เราเห็น พาเราเร่งแซงรถสิบล้อและรถเพื่อการเกษตรตลอดทางได้อย่างง่ายดาย แม้ใช้เพียงครึ่งคันเร่ง พละกำลังจากเครื่อง 2.8 ที่ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้าที่ 3400 รอบ และแรงบิดแบบแฟลชทอร์ค 450 นิวตันเมตร ที่ 1600-2400 รอบ ทำให้สามารถขับขี่สนุกกับเส้นทางที่คดเคี้ยว รวมถึงการเร่งแซงสามารถตอบสนองได้ทันใจ ในส่วนของระบบเบรคที่ได้รับการปรับปรุงเป็นระบบดิสเบรคทั้งสี่ล้อนั่น จากการทดสอบพบว่าการตอบสนองของเบรคทำได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นคุณสมบัติของดิสเบรคอยู่แล้ว เพียงแค่แตะแป้นเบรคเบาๆรถก็ชลอความเร็วลงทันที ทำให้การขับขี่ในทางที่คดเคี้ยวในช่วงแรกที่ต้องใช้เบรคเพื่อลดความเร็วก่อนเข้าโค้งทำได้มั่นใจมากขึ้น




     

     




ในช่วงที่สอง เรายังคงใช้ Fortuner 2.8V คันเดิม เส้นทางจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงไปยังโรงแรม Kantary ด้วยเส้นทางที่ยังคงมีความคดเคี้ยวแต่เพิ่มเติมในส่วนของการปรับปรุงก่อสร้างเส้นทาง ทำให้เราต้องเจอกับหลุมบ่อตลอดเส้นทาง ซึ่งเป็นการทดสอบความนุ่มนวลของช่วงล่างได้เป็นอย่างดี โดยช่วงล่างของ Fortuner นั่นเมื่อเจอเข้ากับสภาพเส้นทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อก็สามารถทำได้ดี สามารถซับแรงสะเทือนได้น่าพอใจ ทำให้เราสามารถขับรูดผ่านไปได้อย่างสบาย ไม่มีอาการกระแทก หรือเสียอาการขณะขับผ่านหลุมบนถนน ถึงแม้บางช่วงจะใช้ความเร็วเกินกว่า 100 กม./ชม. ก็ยังสามารถให้ความมั่นใจได้

มาถึงช่วงที่สาม เริ่มจากโรงแรม Kantary จุดนี้ทีมงาน Auto-Thailand ได้เปลี่ยนรถมาเป็น Toyota Fotuner 2.4V ∑4 โดยเส้นทางตรงนี้จะเป็นถนนสี่เลน และสามารถทำความเร็วได้มากขึ้น  สำหรับในตัว 2.4V ∑4 นั่น ในช่วงความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. สามารถทำได้ดีไม่แพ้ 2.8V ∑4 เลยทีเดียว ซึ่งอาจจะมาจากการปรับเซตอัตราทดเฟืองท้ายที่สูงกว่า (4.100) เพื่อช่วยให้การใช้งานในเมืองทำได้คล่องตัว แต่สำหรับการใช้งานที่ความเร็วสูงนั่นอาจจะไม่ทันใจเท่าเครื่องยนต์ 2.8 ที่ความเร็วเกิน 80 ขึ้นไป รถก็จะไปอย่างเรื่อยๆ เวลาเร่งแซงก็อาจจะต้องเผื่อระยะและต้องคิกดาวน์ช่วยซะหน่อยซึ่งก็เป็นเพราะแรงม้าที่น้อยกว่า ตัวเครื่องยนต์ 2.8 อยู่ 27 ตัว และแรงบิดน้อยกว่าอีก 50 นิวตันเมตร อีกทั้งยังต้องมาแบกน้ำหนักของระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออีก จึงทำให้อัตราเร่งแซงของรุ่น 2.4 อาจจะด้อยไปซักหน่อย

ในช่วงสุดท้ายของการทดสอบ Toyota Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่ ออกจากปั้ม ปตท.พนมสารคาม มุ่งหน้าสู่ Toyota driving experience park บางนา ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในการทดสอบสำหรับทริปนี้ เส้นทางในช่วงนี้ การจราจรค่อนข้างคับคั่ง  เนื่องจากเป็นช่วงเข้าตัวเมืองแล้ว จึงได้มีโอกาสได้ทดสอบระบบ Start&Stop System โดยระบบจะดับเครื่องยนต์เมื่ออยู่ในเกียร์ D เมื่อเหยียบเบรคค้างไว้ และจะสตารท์เครื่องยนต์เมื่อเราปล่อยเบรค เพื่อช่วยในด้านการประหยัดพลังงาน และลดมลภาวะ แต่ถ้าเมื่อใดที่อุณภูมิของระบบปรับอากาศสูงถึงเกณท์ที่กำหนด ระบบก็จะสั่งให้เครื่องยนต์กลับมาทำงานเพื่อช่วยคงอุณภูมิในห้องโดยสารให้คงที่ อย่างไรก็ดี เราก็สามารถปิดระบบนี้ด้วยปุ่มบริเวณคอนโซลกลางได้เช่นกัน แต่เมื่อเราดับเครื่องยนต์แล้วสตาร์ทอีกครั้ง ระบบก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง ไม่สามารถปิดแบบถาวรได้ เนื่องจากโตโยต้าหวังให้เกิดประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานสูงสุดนั่นเอง แต่เท่าที่ทดสอบระบบนี้ก็ไม่ทำให้ผู้ขับขี่รำคาญเท่าใดนัก เพราะเมื่อเรายกเท้าออกจากเบรคเครื่องยนต์ก็จะสตารท์ให้เราทันที ไม่มีการหน่วงดีเลย์แต่อย่างใด




     




ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ สำหรับ Toyota Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่นั่น มีจุดเด่นอยู่ที่การปรับเปลี่ยนระบบเบรคเป็นระบบดิสเบรคทั้งสี่ล้อ ในทุกรุ่น เพื่อสร้างความมั่นใจในขับขี่  และเพิ่มรุ่น 2.4V ∑4 เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่อยากได้เครื่องยนต์ขนาดเล็ก เพื่อความประหยัดพลังงาน และยังต้องการระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะทางโตโยต้าเล็งเห็นว่าแนวโน้มลูกค้ากลุ่มนี้มีมากขึ้นกว่าในอดีต ซึ่งในการใช้งานในเมือง 2.4V ∑4 ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี และประหยัดน้ำมันตามสไตล์เครื่องเล็ก แต่ถ้าต้องการอัตราเร่งแซงที่ทันใจ ก็ต้องเลือกรุ่น 2.8V ∑4 แต่ตรงนี้ก็ต้องยอมแลกด้วยราคาค่าตัวที่สูงกว่าและอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากกว่าเช่นกัน