โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) รถยนต์ยอดนิยมอีกรุ่นจากค่ายโตโยต้าที่ได้รับการตอบรับและมียอดจำหน่ายติดอันดับต้นๆมาโดยตลอด ทั้งยังโดดเด่นเรื่องความทนทานจากการใช้งานที่เห็นกันทั่วไปตามท้องถนน ซึ่งหลังๆมานี้ โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) ก็ได้รับการพัฒนาปรับรูปโฉมให้ดูดีขึ้น รวมถึงยังมีสมรรถนะและระบบความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ โดยในครั้งนี้ ทีมงาน Auto-Thailand ได้มีโอกาศร่วมทดสอบ โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) รุ่นล่าสุดที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ไปเมื่อไม่นานนี้ สมรรถนะจะเป็นอย่างไรติดตามได้ครับ สำหรับ โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) โฉมนี้นั้นได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีความโฉบเฉี่ยวเพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับเซตระบบช่วงล่างใหม่ โดยภายนอกได้รับการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้า Bi-Beam LED Projector ปรับระดับและเปิด-ปิด อัตโนมัติ พร้อมไฟเดย์ไลท์แบบ LED ในโคมเดียวกัน ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding ส่วนในรุ่น ESport จะเพิ่มชุดแต่งรอบคัน และติดตั้งแผงใต้ท้องรถ พร้อมครีบแหวกม่านอากาศ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วนภายในได้รับการปรับเล็กๆน้อยๆหลายจุด อาทิ แผงคอนโซลใหม่แบบวัสดุนุ่มเดินตะเข็บด้ายขาว พร้อมช่องแอร์ด้านข้างทรงกลมใหม่ ชุดมาตรวัดปรับใหม่ โดยในรุ่น ESport จะเพิ่มรุ่น Option ที่จะมีเบาะนั่งคู่หน้าแบบ Bucket Seat ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าด้านคนขับ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมแป้น Paddle Shift ทั้งยังมีการเพิ่มวัสดุซับเสียงในหลายจุดเพื่อลดเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสารที่ดีขึ้น โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FBE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ขนาด 1,798 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ พร้อมสวิตซ์การขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode Switch) ช่วยเพิ่มสมรรถนะอัตราเร่งในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น และยังรองรับเชื้อเพลิง E85 ได้อีกด้วย ช่วงทดสอบ โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) กับทีมงาน Auto-Thailand การทดสอบช่วงแรกเริ่มต้นที่สนามทดสอบรถ Toyota Driving Experience Park ด้วยโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.8V และ ESPORT โดยทางโตโยต้าต้องการเน้นให้ได้สัมผัสความแตกต่างของการเซตระบบช่วงล่างของทั้ง 2 รุ่น เริ่มรอบแรกด้วยการทดลองขับ Toyota Corolla Altis รุ่น 1.8V ช่วงแรกเป็นการขับแบบสลาลอมด้วยความเร็วต่ำประมาณ 15 กม./ชม. เพื่อทดลองระบบพวงมาลัยในความเร็วต่ำ ที่สามารถให้ความคล่องตัวมีน้ำหนักเบาควบคุมง่าย ขับต่อมาจะเป็นสภาพพื้นผิวกระเบื้องลื่นฉีดน้ำ เพื่อให้ได้ลองใช้งานระบบเบรก ABS โดยขับเข้าไปแล้วเบรกจนรถหยุด จะเห็นว่าพวงมาลัยยังสามารถควบคุมทิศทางได้ในขณะเบรก หลังจากนั้นกดคันเร่งสุดขณะอยู่บนพื้นผิวลื่น เพื่อทดลองระบบควบคุมการทรงตัว VSC และ TRC ซึ่งตัวรถจะยังขับเคลื่อนไปแบบช้าๆและสามารถควบคุมทิศทางได้ ซึ่งถ้าไม่มีระบบนี้ก็สามารถทำให้รถหมุนและเสียการทรงตัวในทางลื่นๆได้อย่างแน่นอน หลังจากนั้นจะเป็นการทำสลาลอมที่ความเร็ว 70 กม./ชม. เพื่อทดสอบการบังคับควบคุม ความคล่องตัว และสมรรถนะของระบบช่วงล่าง ซึ่งถือว่า Toyota Corolla Altis รุ่น 1.8V ก็สามารถขับผ่านได้อย่างสบาย แต่อาจจะรู้สึกถึงการโยนตัวนิดหน่อย จากการที่ได้รับการปรับเซตช่วงล่าง รวมถึงขนาดของยางที่เน้นความนุ่มนวลมากกว่าที่จะขับขี่แบบสปอร์ต ขับต่อมาจะเป็นช่วงที่ให้ทดสอบอัตราเร่งจากเครื่องยนต์ 2ZR-FBE 141 แรงม้า กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ เริ่มออกตัวถือว่าให้อัตราเร่งได้น่าพอใจ การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ต่อเนื่องนิ่มนวล เรียกว่าเป็นเกียร์ CVT ที่ตอบสนองดีตัวหนึ่ง แต่ตรงนี้ก็จะมีอาการรอบฟาดขึ้นสูงในสไตล์ของเกียร์ CVT ให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งเราก็ต้องปรับการเดินคันเร่งให้เข้ากับระบบเกียร์ก็จะขับขี่เรียกพละกำลังออกมาใช้งานได้อย่างเต็มสมรรถนะ หลังจากนั้นจะเป็นการขับผ่านเส้นทางที่จำลองสภาพถนนทั้งการขับขี่ผ่านคอสะพาน เส้นทางขุขระ ฝาท่อต่างบนถนนที่ในการใช้งานจริงสามารถพบเจอได้ในท้องถนนบ้านเรา Toyota Corolla Altis รุ่น 1.8V ก็สามารถขับขี่ผ่านได้ด้วยความนิ่มนวล ช่วงล่างสามารถซับแรงกระแทกได้น่าพอใจ เปลี่ยนมาทดลองขับ Toyota Corolla Altis รุ่น ESPORT โดยในรุ่นนี้ได้รับการปรับเซตช่วงล่างมาเน้นแน่นหนึบแบบสปอร์ต และยังมาพร้อมล้อขนาด 17 นิ้วกับยางซีรี่ส์ต่ำ โดยในช่วงแรกในการขับขี่ผ่านสลาลอมความเร็วต่ำนั้น จะสามารถรู้สึกถึงการคล่องตัวในการควบคุมบางเล็กน้อย ส่วนในช่วงที่ขับขี่ผ่านพื้นผิวลื่นก็ให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับรุ่น 1.8V แต่พอมาถึงช่วงที่ต้องขับขี่สลาลอมด้วยความเร็ว 70 กม./ชม. ตรงนี้รู้สึกได้ถึงความแน่นหนึบของระบบช่วงล่างที่เน้นการขับขี่แบบสปอร์ต การบังคับพวงมาลัยทำได้คล่องตัว เรียกว่าให้การขับขี่ที่ดีกว่ารุ่น 1.8V แบบสัมผัสได้ หลังจากนั้นก็มาถึงช่วงทางตรงที่ให้ทดสอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์ซึ่งก็สามารถให้การตอบสนองได้ดีเช่นเดิมกับรุ่น 1.8V และมาปิดท้ายด้วยการขับเส้นทางที่จำลองสภาพถนนแบบต่างๆ ที่มีทั้งการขับขี่ผ่านคอสะพาน เส้นทางขุขระ ฝาท่อต่างบนถนน ซึ่งความรู้สึกตรงนี้ ระบบช่วงล่างของ Toyota Corolla Altis รุ่น ESPORT ก็สามารถซับแรงกระแทกได้ดีระดับหนึ่ง แต่ด้วยการที่ถูกปรับเซตมาเน้นการขับขี่ใช้งานแบบสปอร์ตด้วยยางซีรี่ส์ต่ำทำให้อาจรู้สึกถึงความกระด้างเมื่อต้องวิ่งผ่านเส้นทางขุขระมากกว่ารุ่น 1.8V จากการได้ทดลองขับขี่ในสนามทดสอบ โดยใช้สภาพเส้นทางเดียวกัน แต่ขับขี่ด้วย Toyota Corolla Altis ทั้ง 2 รุ่น ก็ทำให้เห็นถึงการออกแบบปรับเซตมาให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เรียกว่าก็เลือกกันตามสไตล์การขับขี่และการใช้งานกันเลยครับ จบจากการขับขี่ในสนามทดสอบก็พร้อมออกเดินทางขับขี่ทดสอบโดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - หัวหิน ซึ่งมีระยะทางให้ได้ขับขี่กันคนละประมาณ 100 กม. โดยในช่วงแรกทีมงาน Auto-Thailand เป็นผู้นั่งโดยสารก่อนในรถ Toyota Corolla Altis รุ่น ESPORT Option ความรู้สึกในการนั่งโดยสารในการเดินทางช่วงแรกนั้น ออกจากสนามทดสอบก็ต้องเจอกับการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดเกือบตลอดทาง แต่ก็ทำให้ได้สัมผัสความคล่องตัวในช่วงที่ต้องเปลี่ยนเลนมุดซ้ายมุดขวาที่สามารถตอบสนองได้ทันใจ ตลอดการเดินทางยังสามารถผ่อนคลายกับความสะดวกสบายภายในรถ Toyota Corolla Altis รุ่น ESPORT Option ไม่ว่าจะเป็นความเย็นสบายจากระบบแอร์ที่ต้องบอกว่าเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่นเลยก็ว่าได้ ทั้งยังมีเครื่องเสียงคุณภาพดีที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้ ภายในห้องโดยสารยังสามารถเก็บเสียงรบกวน อาทิ เสียงลมปะทะ เสียงล้อกับถนนจากภายนอกได้ดี แต่จะมีเสียงเครื่องยนต์ให้ได้ยินบ้างเวลาที่เราเหยียบเค้นคันเร่งเพื่อเร่งแซงยาวๆ แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่นเดิม เมื่อถึงจุดแวะพักก็เป็นหน้าที่ของทีมงาน Auto-Thailand เป็นผู้ขับขี่ทดสอบ Toyota Corolla Altis รุ่น ESPORT Option สัมผัสแรกกับความสะดวกสบายก็คือเบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้าใช้งานสะดวก เสียอย่างเดียวไม่มีหน่วยความจำล็อกตำแหน่ง เผื่อไว้ใช้งานขับขี่หลายคน เริ่มออกตัวก็พอรู้สึกถึงการส่งกำลังของระบบเกียร์ CVT ที่ทำได้ค่อนข้างรวดเร็วทันใจ แถมยังมีแป้น Paddle Shift มาให้ปรับเปลี่ยนเกียร์อีกด้วย จากการที่ได้ลองใช้งานถือว่าให้การตอบสนองที่น่าพอใจทั้งในการเชนเกียร์ลง หรือปรับเกียร์ขึ้น และที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใน Toyota Corolla Altis รุ่นใหม่ก็คือ ปุ่ม Sport ที่จากการลองใช้งานถึงแม้จะไม่ได้ดึงกันขนาดหลังติดเบาะ แต่ก็เพียงพอที่จะให้อัตราเร่งที่รู้สึกถึงความแตกต่าง โดยจะมีรอบเครื่องที่สูงขึ้นนิดหน่อย เอาเป็นว่าก็ต้องแลกกับอัตราความสิ้นเปลืองที่เพิ่มขึ้นอีกนิดก็สามารถขับขี่ได้อย่างสนุกคล่องตัวมากกว่า จากการขับขี่ในเส้นทางนอกเมืองทั้งในช่วงที่เจอการจราจรแบบติดขัด และเมื่อเส้นทางโล่งๆก็ได้ใช้ความเร็วกันพอสมควร ตัวเลขที่วัดได้จากหน้าปัดอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็อยู่ประมาณ 13 กิโลลิตร เรียกว่าถ้าขับขี่ใช้งานแบบทั่วไปไม่ได้เค้นความเร็วอะไรมากนัก ตัวเลขจะดีกว่านี้แน่นอน ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ Toyota Corolla Altis รุ่น ESPORT Option ด้วยการออกแบบที่เน้นในสไตล์สปอร์ตกับชุดแต่งรอบคัน ออพชั่นที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากรุ่นก่อน รวมกับการปรับเซตช่วงล่างให้มีความหนึบแน่นเน้นการขับขี่สนุก เรียกว่าถ้าชอบการขับขี่สไตล์นี้รับรองว่า Toyota Corolla Altis รุ่น ESPORT Option จะเป็นตัวเลือกที่ลงตัวอีกรุ่นหนึ่ง ส่วนถ้าเน้นการใช้งานขับขี่กันแบบสบายๆในการเดินทาง Toyota Corolla Altis รุ่น 1.8V ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเหมือนกันครับ...