บริษัท เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส จำกัด  ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย  จัดกิจกรรม “Porsche Driving Experience 2012”  ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยได้ทำการเชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์เข้าร่วมทดสอบสมรรถนะอันทรงพลังกับบ็อกซเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ (The New Boxster) ที่ถูกกล่าวขานว่าคือ Porsche รุ่นใหม่ที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา





ซึ่งได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ และเป็นรถไฮไลท์ของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยจุดเด่นที่เบากว่า แข็งแกร่งกว่า โดดเด่นกว่า และประหยัดน้ำมันมากกว่า ซึ่งในวันนี้ทีมงาน Auto-Thailand ก็ได้โอกาสมาสัมผัสกับอีกหนึ่งสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์จากปอร์เช่ ที่รวบรวมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมาสู่ บ็อกซเตอร์ ใหม่ (The New Boxster) คันนี้ได้อย่างใกล้ชิด โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่รถยนต์ปอร์เช่จากประเทศเยอรมนี คุณปีเตอร์ โรว์เวอร์ และคุณแมน วราวุธ มานิตย์ คอยให้คำแนะนำเทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัย





สำหรับบ็อกซเตอร์ ใหม่ (The New Boxster) ได้รับการพัฒนาเพื่อเข้าสู่เจเนอเรชั่นใหม่ รถยนต์เปิดประทุน 2 ที่นั่งคันนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนตัวถังใหม่ให้เบาขึ้น เพื่อความสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักที่เบาลง ฐานล้อที่ยาวขึ้น ตัวรถที่กว้างขึ้นและมีล้อที่ใหญ่ขึ้น อีกทั้งยังติดตั้งระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (electro-mechanical power steering) ทำให้รถยนต์สปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางคันนี้มีความคล่องตัวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น





รูปลักษณ์ของบ็อกซเตอร์ ใหม่ (The New Boxster) ใหม่แตกต่างจากเดิมไม่ว่าจะเป็นระยะยื่นจากล้อถึงปลายกันชนที่สั้นลง ตัวรถที่แบนราบยิ่งขึ้น กระจกหน้าที่มีมุมตั้งไปทางด้านหน้ามากยิ่งขึ้น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้รถมีความสง่างามและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น











ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่หมดด้วยเช่นกัน รวมไปถึงหลังคาที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมดและมีน้ำหนักเบา แนวคิดภายในห้องโดยสารที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่นี้ส่งผลให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งยังเสริมคอนโซลกลางรูปแบบใหม่ของปอร์เช่ที่ได้แนวคิดมาจากรุ่นคาร์เรร่า จีที (Carrera GT) เข้าไปเพื่อพัฒนาให้ภายในห้องโดยสารของรถนั้นถูกต้องตามหลักกลศาสตร์มากยิ่งขึ้น  





บ็อกซเตอร์ ใหม่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบ เรียงนอน พร้อมด้วยระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง (Direct Petrol injection) ระบบการดึงพลังงานกลับคืนหรือนำพลังงานในการเบรกกลับมาใช้ใหม่ (electrical system recuperation) ระบบการจัดการความร้อน (Thermal management system) และระบบสตาร์ท/หยุดอัตโนมัติ (Auto start stop function) ให้พละกำลังสูงสุดถึง 265 แรงม้า (195 กิโลวัตต์) ซึ่งมาจากเครื่องยนต์ 2.7 ลิตร และถือได้ว่ามากกว่ารุ่นเดิมถึง 10 แรงม้าเลยทีเดียว ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทซ์คู่ 7 จังหวะอย่าง Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) ช่วยให้มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมและมีอัตราเร่งที่เหนือชั้นอีกด้วย  (ข้อมูลจากปอร์เช่ : อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่แค่เพียง 7.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในระยะเวลาแค่เพียง 5.7 วินาทีเท่านั้น)

ทั้งยังติดตั้ง Sport Chrono Package เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบควบคุมการกระจายแรงบิดไปยังแต่ละล้อเพื่อสมรรถนะในการเกาะถนน (Porsche Torque Vectoring (PTV)) ที่มาพร้อมกับระบบเฟืองท้ายทางเพลาหลังได้อีกด้วยเช่นกัน

พร้อมกันนี้ทางเอเอเอสฯ ยังมอบสิทธิพิเศษในการเป็นเจ้าของรถสปอร์ตปอร์เช่ด้วยการรับประกันจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีนาน 9 ปี และ Service Package นาน 4 ปี เรียกว่าขับกันแบบสบาย แถมมีคนคอยดูแลรถให้เราตลอด ขอเน้นว่าเฉพาะรถที่ออกจากบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด เท่านั้นนะครับ





ช่วงทดสอบ The New Boxster กับทีมงาน Auto-Thailand

ต้องขอบอกก่อนว่า การทดสอบรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่างนี้ ไม่ได้มีโอกาสได้สัมผัสกันง่ายๆ ทำทีมงาน Auto-Thailand พลาดไม่ได้กับการได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ The New Boxster ตัวนี้

แรกพบกับรูปโฉมที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ The New Boxster ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ในระหว่างรอคิวที่จะได้ขับทดสอบ  เราพยายามศึกษาดูไลน์สนามที่ทางทีมงานปอร์เช่ได้เซตไว้รอการทดสอบที่สนามกรมทหารราบที่ 11 ก่อนเพื่อในเวลาที่ลงไปขับจะได้ไม่หลงไลน์สนาม











โดยลักษณะของไลน์สนามถูกว่างไว้ ในรูปแบบให้วิ่งใช้ความเร็วในทางตรง และมีไพล่อนวางบังคับบีบเส้นทางวิ่งให้หักหลบไปทางซ้าย ออกจากจุดนี้ก็จะมีไพล่อนวางบังคับเส้นทางคล้ายกับการสลาลอมซ้าย ก่อนขับตรงไปกลับรถ เพื่อเข้าสู่ไลน์ทดสอบในขากลับ โดยวิ่งใช้ความเร็วในทางตรง และมีไพล่อนวางบังคับบีบเส้นทางหลบขวาซ้าย แล้วขับตรงไปยังจุดเริ่มต้น จะเห็นว่ารูปแบบการทดสอบนั้นจะเป็นแบบสั้นๆ แต่ก็เพียงพอที่จะสัมผัสถึงสมรรถนะของ The New Boxster ได้เหมือนกัน

เริ่มการทดสอบรอบแรก ทีมงาน Auto-Thailand ก้าวขึ้นไปนั่งในตำแหน่งผู้โดยสารคู่กับผู้เชี่ยวชาญจากปอร์เช่ โดยจะพาวิ่งดูไลน์ก่อนหนึ่งรอบ โดยใช้ความเร็วไม่มาก หลังจากนั้นในรอบที่สองจะเพิ่มความเร็วมากขึ้น สำหรับในการนั่งเป็นผู้โดยสารนั้น อยากบอกว่า เริ่มออกตัวก็สัมผัสสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินบ๊อกเซอร์ 6 สูบนอน DOHC 24 วาล์ว 2,706 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า 6,700 รอบต่อนาที แรงบิด 28.53 กก.-ม. ที่ 4,500-6,500 รอบต่อนาที  ตามมาด้วยการเปลี่ยนเกียร์ที่ให้พละกำลังได้อย่างต่อเนื่อง จากระบบเกียร์ PDK  คลัทซ์คู่ 7 สปีด  เรียกใช้ได้อย่างทันใจ











และเมื่อต้องวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วหลบไพล่อนที่วางดักไว้ สมรรถนะของระบบช่วงล่าง The New Boxster ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เรียกว่าเกาะหนึบ คล่องตัวในการเปลี่ยนเลนกระทันหัน ยิ่งมีผู้ที่เชี่ยวชาญกับ The New Boxster เป็นผู้ขับขี่ให้นั่ง ทำให้สัมผัสถึงสมรรถนะตัวรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หลังจากนั่งเป็นผู้โดยสารสองรอบ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้ทดลองด้วยตัวเราเองแล้ว เมื่อเข้ามานั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ ความรู้สึกที่เห็นตรงหน้าเต็มไปด้วยมาตราวัด แผงคอนโซลสไตล์ปอร์เช่ที่มีเอกลักษณ์ เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนังแท้นั่งกระชับ ปรับด้วยไฟฟ้า ให้อารมณ์ของความเป็นรถสปอร์ต และเมื่อปรับท่านั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากจุดเริ่มต้นด้วยความเร็วแบบเรื่อยๆ ที่ไม่เร็วนัก วิ่งไปตามไลน์ที่วางไพล่อนบังคับไว้ เริ่มออกตัวมาก็สัมผัสถึงพละกำลังจากเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์  นี่ขนาดเราขับขี่แบบธรรมดา เนื่องจากยังไม่ชินรถ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องวิ่งแล้วหลบซ้ายขวา ไม่ว่าจะเป็นการบังคับควบคุมพวงมาลัยที่คมสามารถควบคุมได้ดั่งใจ  ช่วงล่างที่แน่นหนึบ อาการโยนตัวน้อย ตามมาด้วยระบบเบรกที่สามารถชลอความเร็วในยามที่ต้องหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ก็ทำได้อย่างมั่นใจ หลังจากนั้นก็วิ่งต่อไปตั้งลำเพื่อทดสอบในไลน์ที่สอง











โดยช่วงนี้ถึงจะเป็นรอบแรกในการขับขี่ แต่พอได้สัมผัสพละกำลังและสมรรถนะรวมๆมาช่วงหนึ่งแล้ว เราจึงลองเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิดหน่อย  ก็ยังสามารถให้ความมั่นใจได้เช่นเดิม ยิ่งช่วงที่ต้องหลบไพล่อนขวาซ้าย เท่าที่ทีมงาน Auto-Thailand  เคยทดลองขับมาความรู้สึกเกาะหนึบแบบนี้  ถ้ามีโอกาสอยากให้มาลองด้วยตัวเองจริงๆครับ

มาถึงในรอบที่สองของการขับทดสอบ The New Boxster ทีมงาน Auto-Thailand จึงลองเพิ่มความเร็วขึ้นมากกว่ารอบแรก เรียกว่าสมรรถนะของ The New Boxster ก็ยังให้ความมั่นใจอยู่เช่นเคย  ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมพวงมาลัย ระบบช่วงล่าง ระบบเบรก  นี่ถ้าได้มีเวลาในการสัมผัสทดลองขับ The New Boxster ระยะทางมากและนานกว่านี้ รับรองว่าจะสามารถสนุกกับการขับขี่ได้อย่างมั่นใจขึ้นไปอีก











ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้  The New Boxster โดดเด่นด้วยรูปโฉมที่ได้รับการพัฒนาใหม่ พละกำลังจากเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์สูบนอนที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของรถปอร์เช่ รวมถึงสมรรถนะช่วงล่างที่มั่นใจได้ในทุกรูปแบบการขับขี่ อยากบอกว่า นอกจากจะต้องมีเงินในการเป็นเจ้าของแล้ว ยังจำเป็นต้องมีทักษะในการขับขี่เพื่อที่จะได้สัมผัสสมรรถนะของ The New Boxster ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 


ข้อมูลเปิดตัว The New Boxster พร้อม VDO

https://www.auto-thailand.com/CarGallory/AAS-The-New-Porsche-Boxster.html