MINI Cooper รถยนต์ขนาดเล็กแบรนด์หรูที่ใครหลายคนอยากมีไว้ในครอบครอง ด้วยรูปโฉมที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังสะดุดตาแก่ผู้พบเห็น แน่นอนว่าทีมงาน Auto-Thailand ได้มีโอกาสนำ The New MINI Cooper 2014 (F56) รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีราคาค่าตัว 2.19 ล้านบาท มาทำการทดสอบใช้งาน





The New MINI Cooper 2014 (F56)  ถือเป็นนวัตกรรมแห่งความสำเร็จอีกขั้นของการดีไซน์ที่เติมเต็มทุกอารมณ์ ด้วยมิติที่เพิ่มขึ้น ความยาวฐานล้อและความกว้างช่วงล้อด้านหน้าและด้านหลังเพิ่มขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกถ้ามองผ่านๆ นั้นก็ยังคงคล้ายกับรุ่นเดิม แต่จะมีปรับเปลี่ยนชุดโคมไฟหน้า และกระจังหน้า รวมถึงกรอบไฟท้ายที่มีความแตกต่างไปจากรุ่นก่อน

ภายในห้องโดยสารของ The New MINI Cooper 2014 (F56)  มีความกว้างขวางโดยที่นั่งด้านหน้าได้รับการออกแบบใหม่ให้ปรับตำแหน่งได้มากขึ้น การปรับเบาะนั่งยังใช้แบบมือโยกเช่นเดิม  ส่วนพื้นที่เบาะโดยสารด้านหลังเพิ่มมากกว่าเดิม เบาะหลังยังสามารถพับแยกได้ ใช้เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระที่กระโปรงหลังได้มากขึ้นอีกด้วย

ส่วนที่คอนโซลหน้าจะมีหน้าจอแสดงผลระบบปฏิบัติการแบบใหม่  โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี LED ใหม่ล่าสุดที่ให้แสงไฟสีสันต่างๆ รอบวงแหวน รวมถึงที่แผงประตูทั้ง 4 บาน  ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนสีได้  และในรุ่นนี้ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์จะอยู่ที่บริเวณคอนโซลกลาง  มาตราวัดความเร็วและรอบเครื่องยนต์ รวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถควบคุมระบบเครื่องเสียง โทรศัพท์ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่เพิ่มความสะดวกในการขับขี่

The New MINI Cooper 2014 (F56)  มาพร้อมเครื่องยนต์  MINI TwinPower Turbo Technology  ขนาด 1.5 ลิตร 3 สูบ ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 4,500 – 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์ตัวนี้ยังสามารถรองรับเชื้อเพลิง E20 ได้อีกด้วย















ช่วงทดสอบ The New MINI Cooper 2014 (F56) 
กับทีมงาน Auto-Thailand

แรกสัมผัสในวันที่ทีมงานได้เข้าไปรับรถ  เท่าที่มองด้วยสายตา และเดินสำรวจรอบตัวรถ อยากบอกว่า The New MINI Cooper 2014 (F56) คันนี้มีขนาดที่ไม่เล็กเลย รูปโฉมภายนอกได้รับการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์แบรนด์ MINI  ที่ยังคงเรียกความสนใจจากสายตาผู้ร่วมทางทุกครั้งที่ได้ขับขี่

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารก็ให้อารมณ์ความสปอร์ตบวกกับความคลาสสิก โดยในตำแหน่งผู้ขับขี่นั้น เบาะนั่งกระชับนั่งสบาย ให้ความกว้างขวางพอตัว การปรับตำแหน่งของเบาะทำได้ด้วยการโยกการเลื่อนแบบธรรมดา ไม่มีระบบไฟฟ้ามาให้ใช้งานซึ่งก็เป็นแบบนี้ทุกรุ่น  มาตราวัดต่างๆ ถูกออกแบบให้ใช้งานชัดเจน รวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถควบคุมระบบเครื่องเสียง พร้อมกับระบบครูสคอนโทนมาให้ใช้งานเพิ่มความสบายในการขับขี่

คอนโซลหน้ายังคงเอกลักษณ์ด้วยหน้าจอแสดงผลทรงกลมขนาดใหญ่ ปุ่มปรับระบบปรับอากาศและช่องแอร์ก็เน้นไปในทางทรงกลม  และที่คอนโซลกลางนี้จะเป็นตำแหน่งของปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยรวมแล้วถือว่าก็สามารถใช้งานได้สะดวก  แถมยังมีลูกเล่นสีสันด้วยการติดตั้งไฟสีที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งที่หน้าจอแสดงผลที่คอนโซลกลางและที่ประตูทั้ง 4 บาน









มากันที่ห้องโดยสารด้านหลังนั้น การเข้าออกอาจจะไม่สะดวกนัก กับการที่เป็นรถแบบ 3 ประตู การขึ้นลงจึงต้องมีการพับเบาะ  สำหรับวางขานั้นถ้าผู้นั่งด้านหน้าไม่เลื่อนเบาะถอยหลังมามากเกินไปก็ยังพอมีพท้นที่ให้นั่งได้อย่างสบายๆ  ซึ่งตรงนี้ถ้าว่ากันตามจริงแล้วรถแนวนี้น่าจะเหมาะกับการขับขี่ใช้งานเที่ยวเล่นกันแบบ 2 คน พร้อมกับสัมภาระ แต่ก็สามารถโดยสารด้านหลังได้ในระยะทางที่มาน่าไกลนัก เพราะอาจจะไม่สะดวกสบายนัก  ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังนั้นก็มีพื้นมาให้พอตัวในการใช้งาน

ในด้านการขับขี่นั้น The New MINI Cooper 2014 (F56) มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบ ที่ถ้ามองแค่นี้หลายคนอาจจะบอกว่า แล้วจะเอาแรงที่ไหนมาขับเคลื่อน  แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ เครื่องยนต์ตัวนี้มีแรงม้าถึง 136 แรงม้า บวกกับยังให้แรงบิดที่ 220 นิวตันเมตร ที่ถือว่าไม่ธรรมดาเลย และเมื่อได้สัมผัสกับการขับขี่ทดสอบจริง  ความรู้สึกจากการขับขี่เรียกว่า ถ้าไม่บอกว่าเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบไม่มีทางรู้ได้เลย  พละกำลังที่ถูกส่งออกมา เมื่อเหยียบคันเร่งนั้นสามารถตอบสนองได้ค่อนข้างรวดเร็ว ทั้งยังสามารถสนุกกับระบบเกียร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเองได้อีกด้วย

ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากการขับขี่นั้น  พวงมาลัยของ The New MINI Cooper 2014 (F56) ถือว่าให้การตอบสนองได้ค่อนข้างคม น้ำหนักในการบังคับควบคุมก็สามารถปรับให้มีความหนืดเพิ่มขึ้นเมื่อเราขับขี่ใช้ความเร็วสูง  สมรรถนะระบบช่วงล่างก็ถือว่าทำได้น่าพอใจ เรียกว่าเกาะหนึบมั่นใจทุกเส้นทาง  แต่มีข้อสังเกตกับระบบเบรกของ The new MINI Cooper 2014 (F56) ตัวนี้ที่ยังให้ความรู้สึกว่าไม่ค่อยมั่นใจมากนัก  เรียกว่าการขับขี่มาด้วยความเร็วแล้วต้องชลอหยุดความเร็วจะต้องอาศัยความคุ้นเคยกับระยะเบรกและน้ำหนักในการเหยียบแป้นเบรกก็จะสามารถเพิ่มความมั่นใจได้











มาถึงด้านอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ The New MINI Cooper 2014 (F56) โดยตลอดการขับขี่ทดสอบนั้น เรียกว่าใช้งานกันแบบชีวิตประจำวันกันเลย สำหรับในเมืองที่มีสภาพการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดนั้นสามารถทำตัวเลขเฉลี่ยประมาณ 11-12 กิโลลิตร  ส่วนในช่วงที่ออกเดินทางขับขี่นอกเมืองนั้นสามารถทำได้ประมาณ 15-16 กิโลลิตร ถือว่ารับได้กับสมรรถนะที่ได้กับตัวเลขแบบนี้จากการขับขี่ใช้งานจริง และอย่าลืมว่าเครื่องยนต์ตัวนี้ยังสามารถรองรับเชื้อเพลิง E20 ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ The New MINI Cooper 2014 (F56) รถยนต์แบรนด์หรูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  โดดเด่นสะดุดตาแก่ผู้พบเห็น ด้วยขนาดตัวถังที่ให้ความคล่องตัว พละกำลังจากเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้หลายรูปแบบ รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่มั่นใจ แต่อาจต้องมีการปรับตัวเข้ากับระบบเบรกเล็กน้อย  รับรองว่าจะได้สัมผัสการขับขี่ที่สนุกในแบบที่คุณจะติดใจกับ  The New MINI Cooper 2014 (F56)