บริษัท สยามมิชลิน จำกัด จัดกิจกรรมเปิดตัวและทดสอบยางรถยนต์รุ่นใหม่ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ที่ได้รับการพัฒนาออกแบบมาเพื่อรถเอสยูวี และพีพีวี ที่สามารถให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการยึดเกาะถนน และระยะเบรกที่สั้นกว่าจึงให้ความปลอดภัยในการขับขี่ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) มาพร้อมเทคโนโลยี Flexmax 2.0 และ StabiliGrip ดีไซน์ใหม่ ผสมผสานการทำงานเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานกับรถเอสยูวี ด้วยสูตรเนื้อยางที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวเข้ายึดจับผิวถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีการอออกแบบดอกยางแบบตัดมุมช่วยลดการบิดตัวและป้องกันการโก่งตัวของดอกยาง จึงทำให้ยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ส่วนเทคโนโลยี StabiliGrip ของมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ที่นอกจากจะป้องกันการล้มตัวของดอกยางและเพิ่มประสิทธิภาพการยืดเกาะแล้ว ด้วยดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบเป็นปุ่มยางเสริมในร่องบาก ทำให้ดอกยางรีดน้ำและระบายน้ำได้ดียิ่งขึ้น มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ยังมีร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ กว้าง และลึก เพิ่มความสามารถในการระบายน้ำ ช่วยให้ขับขี่ถนนเปียกได้อย่างมั่นใจ ส่วนร่องบากแบบละเอียดที่มีร่องบากขนาดเล็กเต็มพื้นที่หน้าดอกยาง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดฟิล์มน้ำ ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการยืดเกาะถนนได้ดีขึ้น มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ยังเพิ่มความแข็งแรงของบล๊อคดอกยาง และแรงกด จึงให้ระยะเบรกที่สั้นกว่า (ระยะเบรกสั้นกว่า 2.1 เมตรบนถนนเปียก และ 3.5 เมตรบนถนนแห้ง เมื่อเทียบกับคู่แข่งชั้นนำ) ป้องกันการล้มตัวของบล๊อคดอกยาง ช่วยให้การบังคับขับขี่ที่มั่นคงและการตอบสนองที่แม่นยำ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ให้ความนุ่มสบายตามแบบฉบับมิชลิน ไพรมาซี่ ด้วยเทคโนโลยี CushionGuard พร้อมกับชั้นผ้าใบเสริมพิเศษ ช่วยดูดซับแรงสั่นจากการกระแทก เนื้อยางพิเศษช่วยกรองแรงสั่นสะเทือนและลดเสียงรบกวนไม่ให้ผ่านถึงห้องโดยสาร แก้มยางโค้งมนช่วยซึมซับแรงกระแทก ตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี EvenPeak กับลายดอกยางแบบละเอียดช่วยตัดเสียงรบกวน มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ได้รับการออกแบบโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ด้วยโครงสร้างไนลอนเสริมพิเศษ 2 ชั้น พร้อมสำหรับการรับน้ำหนักของรถเอสยูวี ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเมื่อต้องแบกรับสัมภาระเพื่อการเดินทางในทุกรูปแบบ ช่วงทดสอบยางรถยนต์ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) กับทีมงาน Auto-Thailand.com สำหรับกิจกรรมการทดสอบยางรถยนต์ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ครั้งนี้ เริ่มต้นที่การรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลของยางรถยนต์กันที่ ทอสคาน่า วัลเลย์ (Toscana Valley) เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก ก่อนที่จะเดินทางไปทำการขับขี่ทดสอบในวันรุ่งขึ้นที่ แรนโช่ ชาญวีร์ (Rancho Charnvee) ซึ่งจะใช้พื้นที่บริเวณสนามบินเป็นลานทดสอบยางรถยนต์มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) โดยการทดสอบครั้งนี้นั้นจะมีรถยนต์ เอสยูวี หลากหลายรุ่น พร้อมใส่ยางรถยนต์ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ให้ได้ทดสอบขับขี่เพื่อให้ได้สัมผัสสมรรถนะกันแบบเต็มอิ่ม แบ่งเป็น รูปแบบการทดสอบทั้งบนพื้นถนนแห้ง และถนนเปียก ทีมงาน Auto-Thailand เริ่มต้นด้วยการทดลองขับขี่ใช้งานจริง ขับขี่เป็นขบวนคาราวานไปในถนนหลวง และเส้นทางดิน ลัดเลาะไปตามเส้นทางภูมิประเทศของเขาใหญ่ ที่มีหลายรูปแบบ ทั้งทางชัน ทางโค้งต่อเนื่อง ซึ่งตลอดเส้นทางจะมีช่วงให้ได้สลับกันขับขี่ รวมถึงเปลี่ยนรุ่นรถในการทดสอบ พร้อมกันนี้ระหว่างเดินทางยังมีกิจกรรมเกมแบบแรลลี่ให้ได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย ความรู้สึกของการขับขี่ และนั่งโดยสารนั้น ยางรถยนต์ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ก็สามารถให้ความนุ่มนวลในระดับหนึ่ง แต่ตรงนี้เนื่องจากรุ่นรถแต่ละคันที่มีความหลากหลายก็ยังคงเป็นตัวแปร เรียกว่าช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นการขับขี่ท่องเที่ยวกันแบบสบายๆชิลๆกันไป ก่อนที่จะลงขับขี่ทดสอบในสนามที่จะสามารถสัมผัสสมรรถนะและบอกความแตกต่างได้ดีกว่านี้ หลังจากพักรับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ทีมงาน Auto-Thailand เริ่มลงขับขี่ทดสอบยางรถยนต์ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ที่สถานี Comfort โดยใช้รถยนต์ Subaru Forester 2 คัน คันหนึ่งใช้ยางมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) เติมลมยางตามมาตรฐานของผู้ผลิต ส่วนอีกคันจะใส่ยางรถยนต์คู่แข่งแบรนด์ชั้นนำ รูปแบบในการทดสอบในสถานีนั้น จะใช้ส่วนหนึ่งของสนามบินตั้งไพล่อนเป็นเส้นทางให้ขับขี่ ในหนึ่งรอบทดสอบจะมีเส้นทาง 2 ฝั่งที่จำลองพื้นผิวให้ขับขี่ผ่านเพื่อทดสอบความนุ่มนวลการซับแรงกระเทือน และเสียงของยางในการขับขี่ เริ่มด้วยการขับขี่วิ่งทำความเร็วประมาณ 60 ก.ม./ช.ม. แล้วปล่อยไหล เพื่อสังเกตและฟังเสียงยางกับพื้นถนน ส่วนอีกฝั่งจะมีการขึงเชือกไว้กับพื้นถนนมีระยะห่างเท่าๆกันเป็นระยะทางประมาณหนึ่ง โดยขับขี่มาด้วยความเร็ว 40 ก.ม./ช.ม. แล้วปล่อยไหล เพื่อสังเกตการณ์ซับแรงและฟังเสียงยางกับพื้นถนนในช่วงที่วิ่งผ่านเชือกที่ขึงไว้ที่พื้น โดยความรู้สึกที่ได้จากการทดสอบในสถานีนี้นั้น รถยนต์ Subaru Forester ที่ใช้ยางมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) จะให้ความนุ่มนวลกว่า รวมถึงเสียงยางที่เบากว่า แต่ตรงนี้ก็ต้องสังเกตกันอยู่หลายรอบจึงจะพอจับอาการได้บาง สถานี Dry Safety ในสถานีนี้จะใช้รถยนต์ Honda CR-V คันหนึ่งใช้ยางมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) เติมลมยางตามมาตรฐานของผู้ผลิต ส่วนอีกคันจะใส่ยางรถยนต์คู่แข่งแบรนด์ชั้นนำอีกเช่นเดิม รูปแบบในการทดสอบในสถานีนั้น จะมีการตั้งไพล่อนเป็นเส้นทางให้ขับขี่ไปในทางตรงด้วยความเร็ว 55 ก.ม./ช.ม. แล้วปล่อยไหลผ่านไพล่อนที่วางไว้ให้ทำสลาลอม หลังจากนั้นก็เติมความเร็วแล้วปล่อยไหลเข้าไปยังสิ่งกีดขวางจำลองเพื่อหักหลบแบบกะทันหัน ต่อจากนั้นก็ขับขี่ทำความเร็ว 40 ก.ม./ช.ม.ปล่อยไหลเข้าไปในกลุ่มไพล่อนที่วางบังคับไว้คล้ายการกลับรถ แล้วกลับมาเบรกในจุดกำหนด เพื่อรองสัญญาณธงเขียวจึงขับขี่ทำความเร็ว 85 ก.ม./ช.ม. แล้วปล่อยไหลถึงจุดที่กำหนดจึงเหยียบเบรกแบบเต็มแรงให้รถหยุดสนิทเพื่อวัดระยะเบรกบนเส้นทางพื้นผิวแบบแห้ง ในรอบแรกจะขับรถยนต์ Honda CR-V ที่ใส่ยางรถยนต์คู่แข่งแบรนด์ชั้นนำ ขับขี่ตามเส้นทางดังกล่าว ส่วนในรอบที่สอง เปลี่ยนมาขับขี่ทดสอบรถยนต์ Honda CR-V ที่ใช้ยางมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ความรู้สึกในการขับขี่ที่ให้ความมั่นใจ โดยในช่วงสลาลอมนั้นการควบคุม และการยึดเกาะถนนในช่วงหักหลบไพล่อนทำได้คล่องตัว รู้สึกได้ว่าหนึบแน่นกว่ายางคู่แข่ง ส่วนในช่วงที่ทดสอบการเบรกนั้นก็สามารถให้ระยะเบรกที่สั้นกว่าชัดเจน (ระยะประมาณช่วงหน้ารถถึงห้องโดยสาร) โดยการขับขี่ทั้งสองรอบ เราพยายามขับขี่ในรูปแบบ ความเร็ว รวมถึงจุดเบรกที่ให้ใกล้เคียงกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สถานี Wet Safety ในสถานีนี้จะใช้รถยนต์ Honda CR-V คันหนึ่งใช้ยางมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) เติมลมยางตามมาตรฐานของผู้ผลิต ส่วนอีกคันจะใส่ยางรถยนต์คู่แข่งแบรนด์ชั้นนำอีกเช่นเดิม โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงการทดสอบ ช่วงแรกจะเป็นการทดสอบการเบรกในพื้นที่เปียกโดยมีการจำลองพื้นผิวทางตรงและฉีดน้ำให้พื้นเปียก ขับขี่มาด้วยความเร็ว 85 ก.ม./ช.ม. ปล่อยไหลไปยังจุดที่กำหนดแล้วจึงเหยียบเบรกแบบเต็มแรงจนรถหยุดนิ่งเพื่อวัดระยะเบรกเปรียบเทียบกัน โดยรถยนต์ Honda CR-V ที่ใช้ยางมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) สามารถทำระยะเบรกในพื้นเปียกได้สั้นกว่ายางคู่แข่ง (ในทุกรอบระยะประมาณเกือบหนึ่งช่วงคันรถ) ช่วงที่สองขับต่อมาจะมีการวางไพล่อนเป็นวงกลมให้ขับขี่เกาะแนววงกลม และมีการฉีดน้ำเพื่อให้พื้นมีความลื่น โดยขับด้วยความเร็วแล้วค่อยๆเพิ่มความเร็วจนรถเสียการควบคุม ในการขับขี่ในสถานีนี้ค่อนข้างชัดเจน คือ รถยนต์ Honda CR-V ที่ใช้ยางมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) สามารถใช้ความเร็วได้มากกว่าก่อนที่จะเสียการควบคุม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยึดเกาะพื้นถนนเปียกได้ดีกว่า ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) ยางรถยนต์สำหรับรถยนต์เอสยูวีที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะที่ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะการยึดเกาะถนนที่เด่นในสภาพพื้นผิวเปียกและพื้นผิวแห้งได้อย่างมั่นใจ รวมถึงยังมีระยะการเบรกที่สั้นทำให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ทั้งยังให้ความเงียบและนุ่มนวลตามแบบฉบับของมิชลิน ไพรมาซี่ เรียกว่ามิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี (Michelin Primacy SUV) น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะกับรถยนต์ของคุณก็ว่าได้ครับ