หลังจากเปิดตัว CIVIC HATCHBACK 5 ประตู ใหม่ อย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่นานนี้ ค่ายฮอนด้าได้จัดกิจกรรมให้ได้ทดลองขับ HONDA CIVIC HATCHBACK 5 ประตู ใหม่ เพื่อให้ได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่กับแบบใกล้ชิด โดยใช้เส้นทาง หัวหิน - แก่งกระจาน ระยะทางไปกลับกว่า 230 กม. สมรรถนะจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ครับ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) รูปโฉมภายนอกโครงสร้างหลักยังคงเหมือนรุ่นซีดาน แตกต่างกันที่ด้านหน้ามากับกันชนหน้า-หลังทรงสปอร์ตรูปรังผึ้ง ช่วงด้านหลังตั้งประตูหลังไปถึงด้านท้ายรถเป็นแบบ HATCHBACK 5 ประตู ที่จะสั้นกว่ารุ่นซีดาน 145 มม. โดยมีพื้นที่สัมภาระด้านท้ายจุ 414 ลิตร เบาะหลังสามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 และความสูงของห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายสูง 679 มิลลิเมตร ซึ่งหากปรับพับเบาะที่นั่งด้านหลังลงทั้งหมดจะช่วยเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากขึ้น ทั้งนี้ยังมาพร้อมม่านปิดสัมภาระที่สามารถเลือกปิดเก็บได้ทั้งซ้ายหรือขวา เพื่อป้องกันการมองเห็นสัมภาระที่อยู่ด้านท้ายอีกด้วย ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) ด้วยราคาค่าตัวที่ 1,169,000 บาท ที่เมื่อนำไปเทียบกับรุ่นซีดานโฉม RS ที่มีค่าตัวอยู่ที่ 1,199,000 บาท จะพบว่าในรุ่น HATCHBACK 5 ประตู จะไม่มีระบบ Honda LaneWatch แสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนมาให้ แต่ออพชั่นหลักๆตัวอื่นจะเหมือนกันหมด ภายในห้องโดยสารของ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) รูปแบบโดยรวมแล้วยกมาจากรุ่นซีดาน จะมีความแตกต่างกันที่พื้นที่เหนือศีรษะของเบาะนั่งด้านหลังจะค่อนข้างน้อย ถ้าผู้โดยสารเป็นคนรูปร่างใหญ่เวลานั่ง หรือรถจั้มคอสะพานศีรษะอาจจะกระแทกกับส่วนของหลังคาที่ลาดต่ำลงมารับกับแนวประตูที่ 5 แบบ HATCHBACK ได้ สำหรับความเห็นส่วนตัวกับรูปโฉมภายนอกของ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) โดยรวมแล้วถือว่ามีรูปโฉมที่ทันสมัยแลดูสปอร์ตทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่เท่าที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ร่วมทดสอบท่านอื่น จะมีความเห็นตรงกันในส่วนของล้ออัลลอยลายใหม่ที่ติดมากับ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) นั้นยังดูไม่ลงตัวสวยถูกใจกับภาพลักษณ์ที่เน้นความสปอร์ต ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700 - 5,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ช่วงทดสอบ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) กับทีมงาน Auto-Thailand เริ่มต้นการทดลองขับ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) ในเที่ยวขาไปมุ่งหน้าสู่แก่งกระจาน ทีมงาน Auto-Thailand ขอนั่งเป็นผู้โดยสารในเบาะนั่งด้านหน้าก่อน เบาะนั่งสามารถปรับด้วยไฟฟ้า ตัวเบาะนั่งได้กระชับ และเท่าที่ได้นั่งสำรวจหยิบจับอุปกรณ์ต่างๆที่คอนโซลหน้าก็ถือว่างานประกอบรวมถึงวัสดุที่ใช้ทำได้น่าพอใจ แต่จะมีบางส่วนอย่างเช่นที่บริเวณฐานคอนโซลเกียร์กับที่กรอบสวิตช์กระจกไฟฟ้าที่ประตูจะเป็นพลาสติกสีดำธรรมดา ถ้าเปลี่ยนเป็นวัสดุสีดำมัน หรือแบบเดียวกับแถบคิ้วที่ตกแต่งคอนโซลหน้าจะดูลงตัวกว่านี้ นั่งโดยสารที่ด้านหน้าอยู่ระยะหนึ่งก็พอจะสังเกตได้ถึงการเก็บเสียงของห้องโดยสารที่จะมีเสียงเข้ามาให้ได้ยินชัดในช่วงความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. และเสียงเครื่องยนต์ที่ส่งเสียงในช่วงผู้ขับขี่เรียกอัตราเร่งทำความเร็ว ซึ่งอีกมุมก็ทำให้รู้สึกถึงความสปอร์ตในการขับขี่ และในเมื่อฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) มาในแบบ 5 ประตู เราจึงได้ทดลองไปนั่งที่ด้านหลัง ที่ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่มีรูปร่างไม่ใหญ่สูง 168 ซม.จึงนั่งได้สบาย พื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะยังมีเหลือเฟือ แต่กับการได้มานั่งที่ด้านหลังนี้ จึงทำให้ได้ยินเสียงรบกวนจากทั้งลมและเสียงยางที่ค่อนข้างจะดังชัดเจน ซึ่งตรงนี้ส่วนใหญ่รถ HATCHBACK 5 ประตู จะเป็นจุดด้อยในเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ความรู้สึกกับระบบช่วงล่างด้านหลังที่รู้สึกได้ถึงความนุ่มหนึบกว่ารุ่นซีดาน จากการสอบถามทีมวิศวกรฮอนด้าได้รับคำตอบว่ามีการปรับค่าสปริงเพิ่มนิดหน่อย เพื่อให้การขับขี่ได้ดีขึ้น ส่วนในช่วงที่เปลี่ยนมาเป็นผู้ทดลองขับ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) เริ่มออกตัวจากจุดแวะพักเราได้ทดลองใช้ระบบ HSA ที่ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน โดยจะหน่วงเบรกไว้ไม่ให้ตัวรถถอยหลัง ในช่วงที่ยกขามาเหยียบคันเร่งตัวรถก็พร้อมที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้เลย ตรงนี้จะเหมาะกับชีวิตคนเมืองที่ต้องขับขึ้นลานจอดรถที่มีความลาดชันก็สามารถช่วยให้ขับขี่ได้ง่ายโดยเฉพาะคุณผู้หญิงน่าจะชื่นชอบกับฟังก์ชั่นนี้ ขับออกมาก็จะเจอกับเส้นทางหลากหลายแบบ เพื่อมุ่งหน้ากลับโรงแรมที่พักที่หัวหิน สำหรับในช่วงทางตรงก็ได้ทดลองอัตราการเร่งแซง พละกำลังจากเครื่องยนต์ VTEC TURBO 173 แรงม้า สามารถตอบสนองได้ทันใจ แต่แน่นนอนจากการที่ส่งผ่านกำลังจากระบบเกียร์ CVT ในช่วงต้นก็จะมีอาการรอรอบอยู่บ้างนิดๆ แต่เมื่อผ่านไปแล้วสามารถตอบสนองเรียกอัตราเร่งได้ทันใจที่กดคันเร่งเพิ่ม และเมื่อลองโยกเปลี่ยนมาใช้เกียร์ตำแหน่ง S พละกำลังการตอบสนองเร็วขึ้น สามารถลากรอบได้ยาวขึ้น ทำให้ขับขี่ได้อย่างสนุก และบ้างช่วงกับเส้นทางโค้งที่รู้สึกได้ชัดเจนในการควบคุมขับขี่ระบบพวงมาลัยให้ความคล่องตัวทั้งในความเร็วต่ำและแม้ตอนขับใช้ความเร็วสูงก็ยังให้ความมั่นใจ รวมถึงความหนึบแน่นของช่วงล่างที่โดยส่วนตัวให้ความรู้สึกขับสนุกกว่ารุ่นซีดาน เรียกว่าปรับเซตมาให้เหมาะสมกับรถสไตล์ HATCHBACK 5 ประตู ในเรื่องอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเท่าที่สังเกตได้จากการขับขี่ที่ใช้ความเร็วและมีการเร่งแซงเกือบตลอดทางในช่วงเลนสวน รวมถึงการเล่นเกียร์ทั้งจากแป้นแพดเดิลชิพและเกียร์ตำแหน่ง S ที่ให้อัตราเร่งได้น่าพอใจ ตัวเลขที่ทำได้ประมาณ 12-13 กิโลลิตร ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) โดยส่วนตัวแล้วเท่าที่ได้ทดลองขับมา ถ้าไม่นับเรื่องรูปโฉมภายนอกที่แต่ละคนอาจจะชอบไม่เหมือนกัน แต่จุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ สมรรถนะการขับขี่ ทั้งพละกำลังจากเครื่องยนต์ VTEC TURBO ที่ตอบสนองอัตราเร่งได้ดี ระบบช่วงล่างที่ปรับเซตมาให้ขับขี่ได้สนุกลงตัว ภายในห้องโดยสารของรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูเน้นความสปอร์ตแบบนี้ คิดว่าส่วนใหญ่ไม่น่าจะนั่งกันแบบเต็มคันทุกตำแหน่ง แต่น่าจะเน้นการขับขี่สนุกไปกันแบบคล่องตัว แต่ตรงนี้ก็จะมีเรื่องเสียงรบกวนที่ด้านหลังซึ่งจะเป็นจุดด้อยของพวกรถ 5 ประตู เอาเป็นว่าถ้าชอบสมรรถนะการขับขี่รับรองว่า ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ (HONDA CIVIC HATCHBACK) ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ แต่ถ้าจะให้ชัวร์คงต้องหาโอกาสไปทดลองขับด้วยตัวเองครับ...