Auto-Thailand : ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เปิดตัวด้วยรูปโฉมที่โดดเด่น เน้นประโยชน์ใช้สอยรอบด้าน ด้วยการออกแบบตัวถังภายนอกใหม่ที่ดูทันสมัย สื่อถึงความแข็งแกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จึงสะท้อนความเป็นกระบะพันธุ์แกร่งได้อย่างโดดเด่น และสุดตาแก่ผู้พบเห็น โดยเฉพาะกับรุ่นตกแต่งพิเศษ Wildtrak ที่เป็นเอกลักษณ์จากฟอร์ด ในครั้งนี้ทีมงาน Auto-Thailand ได้มีโอกาสนำเอา Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งเป็นรุ่น Top ของรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร สีส้มสดใสมาทำการทดสอบ ก็อื่นเรามาสำรวจตัวรถกันก่อนดีกว่า Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 ได้รับการออกแบบด้านหน้าที่โดดเด่น ดุดันด้วยกระจังหน้าแบบครีบ 3 ชั้นแนวนอน รับกับไฟหน้าที่ลงตัว เติมความสปอร์ตด้วยกันชนหน้าที่มีสีสันเฉพาะรุ่น Wildtrak พร้อมไฟสปอร์ตไลต์ดวงกลม ด้านข้าง Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 พร้อมลุยด้วยซุ้มและโปร่งล้อขนาดใหญ่ ที่รองรับกับล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/65R17 ตามมาด้วยโลโก้สัญญาลักษณ์เหนือซุ้มล้อติดส่วนของประตูที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าฟอร์ด เรนเจอร์ตัวนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาดใด และยังสามารถถอดออกเพื่อใส่สนอกเกิลได้โดยไม่ต้องเจาะตัวถังรถ ด้านความสะดวกสบายในการขึ้นลงจากตัวรถที่มีความสูงและใหญ่โตก็มาพร้อมบันไดข้างสไตล์ลุยๆ รับกับสปอร์ตบาร์ และราวหลังคา กับราวเสริมขอบกระบะท้าย ที่จะมีเฉพาะรุ่น Wildtrak อีกเช่นกัน ด้านท้ายก็คงความดุดันด้วยโคมไฟท้ายขนาดใหญ่ พร้อมไฟเบรกดวงที่สามในตำแหน่งสปอร์ตบาร์เห็นชัดเจน ภายในห้องโดยสาร Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 แผงวัสดุต่างๆ ได้รับการออกแบบให้มีความประณีต ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัสของวัสดุภายในห้องโดยสารหรือการเลือกเฉดสีต่างๆ ทุกชิ้นส่วนของรถบ่งบอกได้ถึงความรู้สึกที่หรูหราภายในห้องโดยสารของเรนเจอร์ ใหม่ การวางตำแหน่งของอุปกรณ์ที่แยกย่อยออกจากกันใช้งานง่าย เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังโทนสีเทาดำคาดด้วยสีส้ม ตัดเย็บด้วยตะเข็บสีส้ม พร้อมโลโก้ Wildtrak ที่พนักพิงศีรษะของเบาะคู่หน้า ที่มีมาในเฉพาะรุ่น Wildtrak เบาะนั่งด้านหลังสามารถจุผู้โดยสารได้ 3 คนอย่างสบายๆ ระยะห่างของเข่าและเท้าระหว่างเสากลางไปจนถึงเบาะด้านหลังมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอ การเข้า-ออกจากรถจึงเป็นเรื่องสะดวกสบายอย่างมากสำหรับผู้โดยสารที่นั่งเบาะหลัง Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 มีพื้นที่เก็บของมาให้ใช้งานอย่างเหลือเฟือ ช่องเก็บของด้านข้างประตูทั้ง 4 บานมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่ขวดน้ำ ช่องเก็บของด้านหน้ารถมีขนาดใหญ่พอสำหรับใส่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คได้ และบนคอนโซลยังมีช่องเล็กๆ สำหรับวางโทรศัพท์เคลื่อนที่และของกระจุกกระจิกต่างๆ ใต้ที่นั่งด้านหลังยังมีช่องเก็บของส่วนตัวซ่อนอยู่เพื่อใช้เก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และของชิ้นเล็กๆ ที่วางแก้วน้ำ 2 ใบ ติดตั้งอยู่ในที่เท้าแขนตรงกลางเบาะนั่งด้านหลัง Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค 2.2 ลิตร เทอร์โบแปรผัน (VGT) อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3700 รอบ แรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1500-2500 รอบ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วงทดสอบ Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 กับทีมงาน Auto-Thailand แรกสัมผัสกับ Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 สีส้มสดใสในวันที่ทีมงานไปรับรถ ภายนอกที่ดูสูงใหญ่ ที่มองโดยรวมแล้วดูหล่อใช้ได้เลยทีเดียวกับชุดตกแต่งพิเศษ Wildtrak ที่มาเพิ่มความแตกต่างและเสริมความหล่อจากรุ่นธรรมดา ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร ก็พบกับเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังโทนสีเทาดำคาดด้วยสีส้ม ตัดเย็บด้วยตะเข็บสีส้ม พร้อมโลโก้ Wildtrak ที่พนักพิงศีรษะของเบาะคู่หน้า ที่มองดูแล้วให้อารมณ์สปอร์ตสวยงามไม่เหมือนใคร และเมื่อเข้าไปนั่งก็พบว่าให้ความกระชับรับสัดส่วนดี ส่วนพื้นโดยสารด้านหลังมีมาให้กว้างขวางจากเบาะนั่งที่สามารถนั่งแบบ 3 คนได้อย่างสบาย เมื่อนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ อุปกรณ์ต่างๆ สามารถหยิบจับใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถควบคุมเครื่องเสียง รับโทรศัพท์ ระบบสั่งงานด้วยเสียง และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ที่ให้ความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี คันเกียร์อัตโนมัติออกแบบได้หรูหราสวยงามเหมือนรถยนต์นั่ง พร้อมสวิตช์ปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยไฟฟ้าสะดวกในการใช้งาน เริ่มออกเดินทางกับ Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 ความรู้สึกในช่วงออกตัว พละกำลังจากเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร 150 แรงม้า สามารถที่จะลากตัวถังใหญ่โตได้อย่างสบาย แต่ถ้าเป็นคนที่ค่อนข้างใจร้อนหน่อยก็อาจจะรู้สึกไม่ทันใจบ้าง เมื่อเคลื่อนตัวไปใช้ความเร็วคงที่ หรือเรียกว่าความเร็วลอยตัวแล้ว อยากบอกว่าความรู้สึกในการขับขี่ไม่ได้ต่างอะไรกับรุ่นเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่านี้ พละกำลังที่มาในรอบต่ำยังสามารถที่จะให้อัตราการเร่งแซงทำได้อย่างมั่นใจ แต่ถ้าต้องการใช้ความเร็วสูง เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ก็ต้องใช้ระยะเวลาและระยะทางเพิ่มขึ้นบาง คือถ้าใช้งานกันแบบทั่วไปที่ไม่ได้บ้าพลังมาก เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร 150 แรงม้า ของฟอร์ดตัวนี้ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว อีกจุดหนึ่งที่ดูแล้วจะไม่พูดถึงไม่ได้เห็นจะเป็นความราบรื่นในการขับเคลื่อนจากระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่ทำงานได้อย่างต่อเนื่องทั้งในทางพื้นราบ หรือแม้ในช่วงที่ต้องลงผ่านทางชันก็ยังทำงานได้ไว้ใจได้ สำหรับช่วงที่เราได้ลองวิ่งบนทางที่ค่อนข้างจะทุรกันดารซักหน่อย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถเลือกปรับการใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงปรับหมุนที่ปุ่มบริเวณคอนโซลเกียร์ก็สามารถใช้งานได้ตามต้องการ พละกำลังถูกส่งไปยังล้อขับเคลื่อนได้อย่างเต็มพลัง ความรู้สึกในการขับขี่ในเรื่องของการควบคุมรถถือว่า Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 ทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักของพวงมาลัยที่หนืดใช้ได้ (ในความชอบส่วนตัว) ซึ่งในเวลาที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูงก็เพิ่มความมั่นใจได้อีกกับระบบช่วงล่างที่ถือว่าฟอร์ดเป็นรถปิกอัพคันหนึ่งที่มีช่วงล่างที่ไว้ใจได้ เรียกว่าในขณะวิ่งตัวเปล่าไม่ได้บรรทุกอาการดีดซึ่งจะพบในรถปิกอัพทั่วไปก็มีให้เห็นบ้าง ถ้ามีน้ำหนักบรรทุกมาช่วยอีกหน่อย รับรองว่าจะขับขี่ได้อย่างมั่นใจเพิ่มมากขึ้นอีก ส่วนในเรื่องระบบเบรกของ Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 ตัวนี้ได้เพิ่มขนาดจานเบรกที่ใหญ่กว่ารุ่นธรรมดา ทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกทำงานได้น่าพอใจ สามารถหยุดตัวถังรถอันใหญ่โตได้ในยามที่ต้องใช้งาน ในการเดินทางทดสอบ Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 โดยเฉพาะเรื่องของความสะดวกสบายในห้องโดยสารนั้น เรียกว่าการใช้งานแทบไม่ต่างจากรถยนต์นั่งทั่วไปเลย ที่มีทั้งความนิ่มนวลที่ถือว่าทำได้ดีกว่าในรถประเภทเดียวกัน การเก็บเสียงทั้งเสียงจากลม เสียงจากเครื่องยนต์ หรือแม้แต่เสียงจากการขับขี่ในสภาพถนนพื้นผิวต่างๆ ถือว่าสามารถทำได้อย่างน่าพอใจ แต่มาติดใจก็ตรงเสียงลมจากระบบแอร์ที่ค่อนข้างจะดังไปสักหน่อย เรียกว่าลองปรับความแรงของพัดลมแอร์กันแล้วก็ยังรู้สึกได้อยู่ ส่วนเรื่องความเย็นจากระบบแอร์ไม่มีปัญหาสามารถให้ความเย็นสบายได้อย่างรวดเร็ว มาถึงเรื่องอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 โดยถ้าดูจากรอบการทำงานของเครื่องยนต์ตามสเปกที่พละกำลังจะมาในรอบต่ำ และในการเดินทางทดสอบก็เป็นเช่นนั้นคือ ความเร็ว 80 กม./ชม. อยู่ที่รอบประมาณ 1500 รอบ ความเร็ว 100 กม./ชม. อยู่ที่รอบประมาณ 1750 รอบ ความเร็ว 120 กม./ชม. อยู่ที่รอบประมาณ 2000 รอบ อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ทำได้เฉลี่ยประมาณ 14 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้กับรถที่มีตัวถังใหญ่โตขนาดนี้ ทีมงาน Auto-Thailand ของสรุปแบบนี้ Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 ด้วยรูปโฉมที่โดดเด่น แข็งแกร่งสไตล์ปิกอัพ ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายสไตล์เก๋ง ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ พละกำลังจากเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ที่มีมาให้เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป อาจจะไม่หวืดหวาบ้าพลังนักเหมือนพวกเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร แต่มองโดยรวมแล้วถ้าใช้งานกันแบบรถรักเจ้าของ Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.2L 4x4 ก็น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะครับ
หรือชอบแบบดิบๆ กับสไตล์ zoom zoom http://www.auto-thailand.com/TestDrive/MAZDA-BT-50-Pro-Freestyle-Cab-Hi-Racer-6MT.html
อดใจรอไม่ไหวแล้ว อยากได้ๆ
รุ่นนี้ผลิตเกียร์ธรรมดาไหมครับ