BMW รถยนต์แบรนด์หรูจากฝั่งยุโรปที่ได้รับการยอมรับในด้านสมรรถนะการขับขี่  รวมถึงรูปโฉมดีไซน์สปอร์ตในรูปแบบโรดสเตอร์  แน่นอนว่าเรากำลังหมายถึง BMW Z4 ซึ่งตัวที่ทีมงาน Auto-Thailand ได้มานั้นเป็นออพชั่นในรุ่น Pure Traction ที่จัดเต็มทั้งสมรรถนะการขับขี่และการตกแต่งที่สปอร์ตหรูลงตัว





BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction เอกลักษณ์ในการดีไซน์โรดสเตอร์ของ BMW สะกดทุกสายตากับตัวรถสี  Valencia Orange  ช่วงฝากระโปรงหน้ายาว ล้อใกล้กันชน (short overhangs) มุมปะทะสูง และตำแหน่งที่นั่งต่ำใกล้เพลาขับหลัง โฉบเฉี่ยว ด้วยรูปทรงโค้งมนกลมกลืน   กระจังหน้าที่ใหญ่แบบไตคู่   ไฟหน้าเรียวเล็กแบบซีนอน Dynamic กับไฟ  Daytime ซึ่งออกแบบให้ครอบทับรอบวงแหวนของไฟหรี่และไฟต่ำได้อย่างสวยงาม  สปอยเลอร์หน้าของ M พร้อมช่องดักลมในสปอยเลอร์จะมีตะแกรงรังผึ้งพลาสติกสีดำกรุอยู่ภายใน  ฝากระโปรงหน้าทำจากวัสดุอัลลอยเพื่อลดน้ำหนัก ที่ออกแบบให้มีเส้นสายรับกับโคมไฟหน้าได้อย่างลงตัว

BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction มาพร้อมล้ออัลลอยลาย M แบบ 5 ก้านคู่ขนาด  19 นิ้่ว ล้อคู่หน้าใช้ยางขนาด 225/35/R19 88Y ส่วนล้อหลังมีขนาด 255/30/R19 91Y โดยเป็นยางแบบ run flat ของ Bridgestone  รุ่น Potenza RE050 run flat











ภายในของ BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction ได้รับการออกแบบในสไตล์โรดสเตอร์แบบสปอร์ต กว้างขวางสะดวกสบาย  แผงคอนโซลกลางค่อนไปทางผู้ขับขี่ เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน  สำหรับความพิเศษของการตกแต่งภายในแบบ Pure Traction ตกแต่งด้วยสี 2 สีตัดกัน  พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง M หุ้มด้วยหนังแท้สไตล์สปอร์ต  เบาะนั่งแบบสปอร์ต และแผงประตูหุ้มด้วยหนังแบบ Alcantara สีส้มตัดกับหนังสีดำกับคอนโซลกลางสีดำเข้มแบบ  Black Piano เข้ากันได้ดีกับหนังที่เย็บด้วยตะเข็บสีส้ม  ที่แผงปุ่มคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยลาย  metal mesh ที่ดูสปอร์ตหรูเข้ากันอย่างลงตัว













BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ BMW  TwinPower Turbo  ระบบวาล์วแปรผันอิสระ Valvetronic ระบบจ่ายเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาใหม้แบบ Direct Injection เทอร์โบแบบ TwinScroll และวาล์วแปรผันคู่ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่  5,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,250-4,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Steptronic แบบสปอร์ต และสามารถเลือกโหมดการขับได้ 3 3 โหมดให้เลือกใช้คือ Normal Mode / Sport Mode / Sport + Mode สำหรับโหมดนี้ จะตัดระบบควบคุมการทรงตัว Dynamics Traction Control  ออกเพื่อให้ได้สัมผัสสมรรถนะกับแบบเต็ม  โดยใน BMW Z4 sDrive 20i Pure Traction  ตัวนี้โหมด ECO-PRO จะถูกตัดออกไป

ช่วงทดสอบ BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction 
กับทีมงาน Auto-Thailand

แรกสัมผัสกับ BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction  สปอร์ตโรดสเตอร์สีส้มสะดุดตา  เรียกว่าถ้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์อยู่แล้ว  เชื่อรถคันนี้ต้องเป็นหนึ่งในรถในฝันของใครหลายคน จากรูปโฉมที่อยากบอกว่าขับขี่ไปไหน สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น แถมด้วยเวลาขับไปยังสถานที่ต่างๆ ก็หาที่จอดง่ายอีกต่างหาก

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารในตำแหน่งผู้ขับขี่  การเข้าออกจากรถในสไตล์นี้จะค่อนข้างลำบากนิด จากความสูงตัวรถที่ไม่มาก เบาะนั่งผู้ขับขี่กระชับนั่งสบาย  ยกเว้นแต่เป็นคนที่เจ้าเนื้อหน่อยก็อาจจะรู้สึกอึดอัดบาง แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่านั่งสบายและช่วยในการขับขี่คดโค้งได้สนุก  ตำแหน่งการนั่งค่อนข้างต่ำ  บวกกับตัวรถสไตล์โรดสเตอร์ที่การนั่งจะค่อนไปด้านหลัง  ทำให้การกะระยะจากความยาวช่วงฝากระโปรงหน้าที่ค่อนข้างยาวต้องอาศัยความคุ้นชิน แต่เมื่อคุ้นชินกับระยะต่างๆแล้วจะพบว่ามันเป็นรถที่ขับสนุก คล่องตัว









สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็มีมาแบบครบครัน พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลที่คอนโซลหน้า การตกแต่งภายในแบบ Pure Traction  สามารถรู้สึกได้ถึงความสปอร์ตสวยงามกว่ารุ่นก่อนๆ  และสำหรับในเวลาที่ต้องการความเป็นอิสระพร้อมกับรับลมธรรมชาติก็สามารถเปิดหลังคาได้แบบไฟฟ้าที่ง่ายดายเพียงกดปุ่มค้างไว้ หลังคาจะพับเก็บที่ด้านท้าย ซึ่งก็จะให้อารมณ์อีกรูปแบบการขับขี่

ด้านการขับขี่ เรื่องการควบคุมเรียกว่าคล่องตัว ฉับไวในการปรับเปลี่ยนเลนจากระบบพวงมาลัยของ BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction ที่จะให้ความหนักแน่นมั่นใจในการขับขี่ด้วยความเร็วในทางตรง และความคมคล่องตัวในการขับขี่ในทางคดโค้ง  พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo สามารถเรียกพละกำลังออกมาให้ใช้งานได้ค่อนข้างรวดเร็ว  (แต่ก็ยังแอบชอบพละกำลังใน BMW ActiveHybrid3 ที่เคยนำมาทดสอบมากกว่า)  การปรับเปลี่ยนเกียร์ทำได้นุ่มนวลราบรื่นต่อเนื่อง แต่ถ้าต้องการความสนุกและได้เล่นรอบเปลี่ยนเกียร์ในรอบสูงก็ต้องใช้โหมดสปอร์ตในการขับขี่ซึ่งให้ความกระฉับกระเฉิงเพิ่มขึ้นชัดเจน  โดยการขับขี่ทำความเร็วนั้นสามารถผ่าน 200 ก.ม./ช.ม. ได้แบบสบายๆ และยังสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจ

ด้านความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction หลายคนที่ไม่เคยได้สัมผัสกับรถยนต์ BMW ในปัจจุบัน ต้องไปลองขับด้วยตัวท่านเอง   ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo แต่มีรอบการทำงานที่ค่อนข้างต่ำ โดยที่ความเร็ว 80 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1,300 รอบ  ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1,500 รอบ  ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1,600 รอบ  ความเร็ว 110 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1,800 รอบ  ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 2,000 รอบ สำหรับการเดินทางนอกเมืองทำตัวเลขประมาณ 13-14 ก.ม./ลิตร  ส่วนการใช้งานในเมืองที่การจราจรค่อนข้างติดอยู่ที่ 9-10 ก.ม./ลิตร ก็ถือว่าน่าพอใจกับรถสไตล์สปอร์ตโรดสเตอร์ที่ว่ากันตามจริง ผู้ที่ใช้รถกลุ่มนี้น่าจะต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกมาเป็นอันดับต้นๆ







ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้  BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction รถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มาพร้อมรูปโฉมที่โดดเด่นสะดุดตา  การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ลงตัว สมรรถนะและการขับขี่ที่ถือเป็นจุดเด่นของรถยนต์ BMW ถึงแม้ว่าจะเป็นปลายๆโฉมแล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่าถ้าพูดถึง สปอร์ตโรดสเตอร์ในปัจจุบัน  BMW Z4 sDrive 2.0i Pure Traction จะต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้นแน่นอน