หลังจากทีมงาน Auto-Thailand ได้สัมผัสสมรรถนะเทคโนโลยีไฮบริดของรถยนต์ BMW ในรุ่น ActiveHybrid 3 ไปเมื่อไม่นานมานี้  ครั้งนี้เราก็ได้รับโอกาสในการนำเอา BMW ActiveHybrid 5 มาทำการทดสอบกันอีก

BMW ActiveHybrid 5 ด้วยรูปโฉมภายนอกที่ดูกว้างขวางใหญ่โตหรูหรา  โครงสร้างหลักๆก็คือ  โฉม F10 ซีดาน ที่เราเห็นกันอยู่ซึ่งได้รับการปรับเพิ่มให้มีเอกลักษณ์แห่งความล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีไฮบริด พร้อมสัญญาลักษณ์บ่งบอกความพิเศษไม่เหมือนใครกับ โลโก้ ActiveHybrid 5 ที่ติดอยู่บริเวณเสา C ทั้งซ้าย-ขวา และที่ฝากระโปร่งท้าย





เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารก็พบกับความกว้างขวางหรูหราจากวัสดุชั้นดี พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน  อาทิ หน้าจอทั้งที่ด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมปุ่มควบคุม โดยภายในห้องโดยสารของ BMW ActiveHybrid 5 จะให้ความกว้างขวางกว่าใน BMW ActiveHybrid 3 อยู่พอสมควรทั้งด้านหน้าและด้านหลัง 

BMW Active Hybrid 5 ยังเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่เมื่อต้องถอยจอดด้วยระบบ  Camera systems ที่จะแสดงภาพรอบตัวรถแบบชัดเจนด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยของ BMW ConnectedDrive ด้วยกล้องจับภาพถึง 5 ตัวที่สามารถเห็นภาพต่างๆ จากหลากหลายมุม ชัดเจนทุกสถานการณ์ และภาพมุมสูง ทำมุม 270 องศา ที่สามารถมองเห็นพื้นที่รอบตัวรถเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยในการถอยจอด











BMW Active Hybrid 5 ก็ยังคงสะดวกสบายในการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆจาก iDrive เพียงแค่สัมผัสปุ่มควบคุม ก็สามารถเข้าถึงการใช้งานระบบต่างๆ อาทิ ระบบแผนที่นำทาง ระบบโทรศัพท์ และระบบควบคุมเสียงเพลงได้ดังใจ นอกจากนี้ยังมีระบบความจำบันทึกรายการโปรดได้ถึงอีกแปดรายการ เช่น รายการวิทยุ สถานที่ รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ ด้วยจอแสดงผลขนาด 7” สร้างความประทับใจด้วยสีที่คมชัด หากใช้ร่วมกับระบบแผนที่นำทาง จอแสดงผลจะเพิ่มขนาดเป็น 10.2”
BMW Active Hybrid 5 ให้ความสะดวกและสนุกในการขับขี่กับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่ม Paddle Shift  ทั้งยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้เช่นเดียวกับ BMW Active Hybrid 3 ที่จะมีมาให้ทั้งโหมด ECO PRO เน้นการขับขี่แบบประหยัด  โหมด Comfort เน้นการขับขี่แบบทั่วไป  โหมด Sport เน้นการตอบสนองที่ไวและสามารถลากรอบได้มากกว่า และโหมด Sport + จะปิดการทำงานของระบบ Traction Control  เรียกว่าโหมดนี้เน้นไว้สำหรับเวลาต้องการความแรงแบบดิบๆ ซึ่งในการขับขี่ในโหมดนี้จะให้ความมั่นใจในการขับขี่จากตัวถังที่ใหญ่กว่าตอนทดลองขับ BMW Active Hybrid 3











BMW Active Hybrid 5 มาพร้อมขุมพลังเดียวกันกับ BMW Active Hybrid 3 ด้วยเครื่องยนต์  BMW Twin Power Turbo  6 สูบเรียง  ความจุ  2,979 ซีซี. พร้อมระบบ Valvetronic   ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด  400 นิวตันเมตร ที่ 1,200-5,000 รอบ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด  450 นิวตันเมตร พละกำลังขนาดนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับรถยนต์หนึ่งคัน  โดยพละกำลังทั้งหมดนี้ถูกส่งผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ  8 สปีด จาก ZF โดยสามารถขับเคลื่อนรถด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้ความเร็วสูงสุดถึง 60 ก.ม./ช.ม.ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดได้เป็นอย่างดี

เริ่มการทดลองขับ แรกสัมผัสที่ก้าวเข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ก็ให้ความรู้สึกกว้างขวางนั่งสบาย  ทันทีที่กดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์สัญลักษณ์ “Ready”จะโชว์ที่มาตรวัดบนหน้าปัดเป็นว่าพร้อมที่จะขับเคลื่อนออกไปข้างหน้า โดยในช่วงของการจอดหยุดนิ่งนี้ เครื่องยนต์จะไม่ทำงาน แต่ระบบไฟฟ้าต่างๆยังคงใช้งานได้ตามปรกติ (ในกรณีที่แบตเตอรี่ไฮบริดมีไฟเก็บอยู่) และเมื่อออกตัวในช่วงแรกถ้าไม่ได้ถึงขนาดคลิกดาวน์ หรือเหยียบคันเร่งลึกมากนัก การส่งกำลังก็จะเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งได้ทดลองวิ่งในทางโล่งๆ สามารถทำความเร็วได้กว่า 60 ก.ม./ช.ม. ในระยะทาง 4 กม. และเมื่อเติมคันเร่งเข้าไปอีก หรือไฟในแบตเตอรี่ลดน้อยลง เครื่องยนต์ก็จะทำงานขึ้นมา โดยช่วงการตัดต่อกำลังระหว่างนี้ให้ความรู้สึกนุ่มนวลราบลื่นไม่มีอาการกระตุกกระชาก





ในยามที่เราต้องการเร่งแซง หรือคลิกดาวน์  พละกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะผสานส่งพละกำลังออกมาแบบที่เรียกได้ว่าหลังติดเบาะกันเลยทีเดียว  ถึงตรงนี้ถ้าเป็นความรู้สึกในตอนที่เราขับขี่ BMW Active Hybrid 3 จะรวดเร็วมากจนบางทีอยากบอกว่าแรงจนกลัวเอาไม่อยู่ แต่สำหรับความรู้สึกใน  BMW Active Hybrid 5 ก็ยังคงรวดเร็วทันใจเช่นเคย อาจจะช้ากว่านิดเดียวจากน้ำหนักตัวเกือบๆ 2 ตัน ซึ่งแน่นอนในความรู้สึกของทีมงาน Auto-Thailand มันให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่าตอนทดลองขับ BMW Active Hybrid 3 เรียกว่าความเร็ว 140-150 ก.ม./ช.ม. ให้ความรู้สึกเหมือนขับขี่รถเล็กๆ ที่ความเร็วไม่เกิน 100 ก.ม./ช.ม. ทำให้การขับขี่เดินทางในระยะทางไกลๆทำได้แบบสบายๆไม่เมื่อยล้า และในช่วงการขับขี่ทดสอบได้ลองทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชม. ทีมงาน Auto-Thailand สามารถทำได้อยู่แถว 6 วินาทีกว่า ซึ่งถือว่ารวดเร็วทันใจในรถขนาดนี้ แต่อาจจะรู้สึกไม่ค่อยคลองตัวนัก เมื่อยามที่ต้องขับขี่ในซอยแคบ









สำหรับอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ BMW Active Hybrid 5 จากการที่ได้ทดลองวิ่งนอกเมืองทำได้อยู่ประมาณ 14-15 กิโลเมตร/ลิตร  โดยความเร็ว 80 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1,200 รอบ ความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1,550 รอบ ความเร็ว 120 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1,800 รอบ เรียกว่าถ้าดูจากรอบการทำงานของเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังมาในรอบที่ไม่สูงทำให้มีอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่ารถในพิกัดเดียวกัน  แต่มีพละกำลังให้เรียกใช้ได้แบบทันใจที่ต้องการ

ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้  BMW Active Hybrid 5 รถไฮบริดหรูขนาดกลางที่มีพละกำลังไม่ต่างกับ BMW Active Hybrid 3 ที่เราได้ทดลองขับมาก่อนหน้านี้  แต่จะให้ความกว้างขว้างสะดวกสบายกว่า หรือเรียกว่าเหมาะกับการใช้งานเดินทางแบบครอบครัวที่ให้ทั้งความประหยัดและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย