BMW ชื่อนี้เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกับรถยนต์หรูแบรนด์นี้ และอาจจะเป็นรถในฝันของใครหลายคนก็ว่าได้ โดยเฉพาะรถยนต์หรูในกลุ่มนี้ เชื่อว่าผู้ที่ไขว่คว้าหามาครอบครองคงไม่ได้หวังแค่สมรรถนะการใช้งานเพียงอย่างเดียว แน่นอนที่รถยนต์แบรนด์หรูอย่าง BMW ยังเพิ่มภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ให้ดูดีขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง BMW 520i ตัวที่ทีมงาน Auto-Thailand นำมาทดสอบนี้ได้มีการพัฒนาใหม่ในส่วนเครื่องยนต์ที่ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ พร้อมความประหยัด มาติดตามกันได้เลยครับ





BMW 520i ได้รับการปรับเปลี่ยนขุมพลังใหม่ล่าสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านการขับขี่และเพื่อลดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานตามหลักการของ BMW EfficientDynamics ด้วยเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์วใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ทั้งในด้านอัตราเร่งและแรงบิดที่ให้การตอบสนองดียิ่งขึ้น แต่ลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียมและเหล็กผสมพิเศษอื่นๆ





เครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ ได้นำเอาหลักการของเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่ได้รับรางวัล “International Engine of the Year Awards 2011” ในแบบ 6 สูบแถวเรียง มาพัฒนาใช้กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์วใหม่นี้ โดยนำเอาเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมหัวฉีด High Precision Injection มาผนวกกับ Double-VANOS พร้อม VALVETRONIC และ twin-scroll turbo โดยมีหลักการทำงานของเทอร์โบชาร์จหนึ่งตัวเชื่อมต่อกับท่อร่วมไอเสีย 2 พอร์ต ส่งผลให้สามารถผลิตแรงดันได้อย่างรวดเร็วกว่าพอร์ตเดียว และมีผลให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้ทันใจยิ่งขึ้น การออกแบบเครื่องยนต์ที่เป็นเทคโนโลยีแบบ twin-scroll ดังกล่าวนี้ ช่วยในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ในห้องเครื่องยนต์ จึงส่งผลให้มีน้ำหนักเบาเพื่อช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย





BMW 520i  มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ  Double-VANOS พร้อม VALVETRONIC ความจุ 2.0 ลิตร  ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000-6250 รอบ แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตรที่ 1,250-4,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด  (โดยทาง BMW เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8.0 วินาที และมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 15.6 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 149 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU)








BMW 520i ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการขับขี่แบบประหยัดพลังงานด้วยโหมด ECO PRO ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระบบควบคุมการขับขี่แบบเลือกโหมดได้ พร้อมด้วยระบบการทำงานของเครื่องยนต์แบบ Auto Start/Stop เพื่อควบคุมการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในขณะที่รถยนต์จอดนิ่งอยู่กับที่ ทำให้ลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลงได้








ระบบควบคุมการขับขี่แบบเลือกโหมดได้ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดการตอบสนองในด้านอัตราเร่ง, การตอบสนองของเครื่องยนต์, น้ำหนักของพวงมาลัย, การทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (DSC) และอัตราการเปลี่ยนเกียร์ได้ โดยเลือกโหมด Comfort, Sport และโหมด ECO PRO ที่เพิ่มรูปแบบการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีเป็นเยี่ยม โดยผู้ขับขี่จะสามารถทราบข้อมูลของระยะทางที่คำนวณได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อใช้โหมด ECO PRO นี้จากหน้าจอแสดงผล รวมถึงการแสดงผลในด้านอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงของการขับขี่ในโหมดต่างๆ ด้วยกราฟิค และข้อแนะนำในการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิง








นอกจากนี้แล้วกราฟิคแสดงผลยังรวมไปถึงการแสดงสถานะของการรีชาร์จแบตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ที่ผู้ขับขี่จะทราบได้ถึงการรีชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่เบรก ทั้งนี้เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ดังกล่าว ยังช่วยลดโหลดของเครื่องยนต์จาก alternator ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง  และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้เต็มที่ในขณะที่เพิ่มอัตราเร่ง





ช่วงทดสอบ BMW 520i  กับทีมงาน Auto-Thailand

อารมณ์แรกที่ทีมงาน Auto-Thailand ได้สัมผัสเมื่อวันที่ไปรับ BMW 520i  มาทดสอบ อย่างแรกก็คือ ความกว้างขวางใหญ่โตของตัวรถ และเมื่อเปิดประตูเข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ก็สัมผัสได้ถึงความกว้างขวางของห้องโดยสาร นี่ยังไม่นับออพชันที่อยู่ข้างหน้าว่าสามารถใช้งานอะไรได้บ้าง











หลังจากปรับตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งที่นุ่มกระชับ หุ้มด้วยหนังชั้นดี ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมบันทึกตำแหน่งการใช้งานได้ด้วย  ตามด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับด้วยไฟฟ้าเช่นกัน เมื่อปรับตำแหน่งการนั่งเรียบร้อย ตอนนี้ทีมงาน Auto-Thailand ก็พร้อมออกเดินทาง สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ สามารถหยิบจับใช้งานได้อย่างสะดวก การปรับตั้งหรือการใช้งานก็สามารถควบคุมได้ด้วย  iDrive ง่ายดายตามสไตล์ BMW








คันเกียร์และปุ่มปรับโหมดการขับขี่ พร้อมเบรกมือไฟฟ้าก็ใช้งานได้สะดวกดี ระบบปรับอากาศแยกซ้ายขวา เลือกอุณหภูมิได้ตามความต้องการ และแน่นอนขาดไม่ได้กับเครื่องเสียงคุณภาพดีไว้คอยขับกล่อมยามเดินทาง ที่คอนโซลกลางยังมีหน้าจอที่ใช้แสดงข้อมูลต่างๆ มากมาย ที่สามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นในการเดินทาง

เมื่อทีมงาน Auto-Thailand นำเจ้า BMW 520i ออกสู่ถนนย่านเพลินจิต ก็ได้เจอกับการจราจรที่ติดขัด ขณะที่เราจอดนิ่งอยู่นั้น เครื่องยนต์ของ  BMW 520i ก็ดับลง ตอนแรกก็คิดว่าทำไมเครื่องยนต์มันเงียบจัง เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัว หลังจากเริ่มยกเท้าออกจากแป้นเบรกเครื่องยนต์ก็กลับมาติดอัตโนมัติ ก็เลยเข้าใจแล้วว่าที่แท้เป็นการทำงานของระบบ Auto Start/Stop ที่ช่วยให้เราประหยัดเชื้อเพลิงนี่เอง  แต่หลายท่านคงจะมีคำถามว่า เครื่องยนต์ดับในสภาพการจราจรติดขัดในเวลากลางวันแสกๆ ไม่ต้องทนร้อนอยู่ในรถเหรอ ขอบอกว่า เครื่องยนต์ดับ แต่การทำงานของระบบปรับอากาศและอุปกรณ์อื่นๆ ยังใช้งานได้ปรกติ  สะดวกสบายเหมือนเดิม





ในช่วงการเดินทางที่การจราจรติดขัด เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวเคลื่อนตัว ในตอนนั้นทีมงาน Auto-Thailand ก็ได้สังเกตการทำงานของระบบ Auto Start/Stop อยู่หลายครั้ง  โดยจังหวะที่ระบบดับเครื่องยนต์นั้นไม่เท่าไร แต่จังหวะที่เราต้องเคลื่อนตัวออกไป ระบบ Auto Start เริ่มทำงาน จะสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยช่วงที่เครื่องยนต์สตาร์ตขึ้นมา  หลายคนอาจจะไม่ชอบ  ทาง BMW จึงมีปุ่มที่สามารถปิดการใช้งานในระบบนี้ไว้ที่ด้านล่างของปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ และถ้าเราปิดระบบนี้เครื่องยนต์ก็จะทำงานเหมือนรถทั่วไป  แต่เท่าที่สังเกต ถึงเราไม่ได้ใช้งานระบบ Auto Start/Stop อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก

มาต่อกันที่เรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ในการใช้งานในเมือง BMW 520i สามารถตอบสนองการขับขี่ในสภาพการจราจรที่ติดขัดได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงออกตัวที่เราคิดว่า ตัวถังรถที่กว้างขวางใหญ่โตขนาดนี้กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2000 ซี.ซี.มันจะอืดหรือเปล่า แต่พละกำลังจากเครื่องยนต์ BMW ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ 184 แรงม้า ที่แสดงพลังตั้งแต่ในรอบต่ำ ทำให้การขับขี่ทำได้อย่างกระฉับกระเฉง แถมการปรับเปลี่ยนเลนในสภาพการจราจรหนาแน่นรถเยอะก็ทำได้คล่องตัว พวงมาลัยสามารถควบคุมได้อย่างคล่องตัวและแม่นยำ จนบางทีลืมไปว่าเรากำลังขับขี่ BMW 520i คันใหญ่นะ ไม่ใช่รถซิตี้คาร์





ในการเดินทางนอกเมืองที่มีสภาพถนนค่อนข้างโล่ง BMW 520i คันนี้ก็สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างสนุกกับอัตราเร่งที่เร้าใจ ยิ่งตอนที่ถึงรอบการทำงานของเครื่องยนต์ เพียงกดคันเร่งเพิ่มก็สามารถพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างทันใจ และที่สำคัญในการขับขี่ทางยาวๆ ทีมงาน Auto-Thailand ได้ทดลองใช้ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ ไม่ว่าจะในโหมด Comfort ซึ่งจะปรับตั้งช่วงล่างให้นิ่มนวล และใช้รอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงนัก ก็สามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างสบาย แต่เมื่อยามที่ต้องเร่งรีบ หรือสนุกกับการขับขี่ก็เพียงเลือกไปที่โหมด Sport รอบเครื่องยนต์ก็จะปรับให้กว้างขึ้น หรือพูดง่ายๆ ว่าแต่ละเกียร์จะเปลี่ยนในรอบที่สูงขึ้น ตามมาด้วยระบบช่วงล่างก็จะปรับให้หนืดขึ้นเพื่อการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นไปอีก และเมื่อต้องการขับขี่แบบประหยัดเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนก็สามารถเลือกไปที่โหมด ECO PRO ก็จะตอบสนองการขับขี่ได้อีกรูปแบบหนึ่ง 

ส่วนตัวแล้วเท่าที่ทีมงาน Auto-Thailand ได้ลองใช้งานทั้ง 3 โหมด รู้สึกชื่นชอบกับโหมด Sport ที่ขับขี่สนุก สามารถเรียกพละกำลังของเครื่องยนต์ออกมาใช้ได้อย่างทันใจ การยึดเกาะถนนและการควบคุม น้ำหนักพวงมาลัยก็ปรับรับกันได้อย่างลงตัว เรียกว่าทั้งในยามที่เจอทางโค้งซ้ายขวา และในทางตรงที่ใช้ความเร็วสูงก็สามารถให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้  แถมการเก็บเสียงในห้องโดยสารก็ทำได้น่าพอใจ





และในเวลาที่ต้องมาเป็นผู้โดยสารนั้น BMW 520i ก็ยังให้ความสะดวกสบาย เบาะนั่งโดยสารด้านหน้าก็ให้อารมณ์ไม่ต่างไปจากการนั่งในตำแหน่งขับขี่  ส่วนเบาะนั่งด้านหลังก็ออกแบบได้กว้างขวางนั่งสบาย ไม่เมื่อยล้าในยามที่เดินทางระยะไกลๆ ตินิดเดียวกับตำแหน่งการนั่งถ้าชินกับพวกรถกลุ่มญี่ปุ่นอาจจะรู้สึกว่าเบาะหลัง BMW 520i  มันจมไปหน่อย แต่ใช้งานไปสักระยะก็สามารถปรับตัวได้สบายๆ

ส่วนในเรื่องอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เชื่อว่าเจ้าของรถในกลุ่มนี้อย่าง BMW คงไม่ได้มาให้น้ำหนักอะไรมากนัก เรียกว่ามีเงินซื้อรถราคาระดับนี้แล้ว เรื่องค่าน้ำมันไม่ได้เป็นเหตุผลสำคัญนัก แต่จากการที่ทีมงาน Auto-Thailand ขับทดสอบมาได้ระยะประมาณ 400 กิโลเมตร พบว่าเข็มน้ำมันโชว์ที่หน้าปัดว่ายังเหลือน้ำมันอีกประมาณครึ่งถัง ซึ่งถือว่า BMW 520i ตัวนี้ก็ประหยัดใช้ได้เลย นี่ขนาดเราขับมาแบบที่ไม่ได้ใช้ความเร็วคงที่เรียกว่าส่วนใหญ่ก็เกิน 110 กม./ชม.  และบางช่วงก็แอบมีใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดบ้าง ถือว่าเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทวินพาวเวอร์เทอร์โบใหม่ของ  BMW 520i บล็อกนี้สามารถสร้างความประทับใจในการขับขี่ได้ไม่น้อย เพราะโดยส่วนมากรถยนต์รุ่นเริ่มต้นของซีรีส์จะมากันแบบประหยัดทั้งด้านราคาและสมรรถนะ แต่สำหรับ BMW 520i ไม่ได้เป็นเช่นนั้น  เรียกว่าถ้าใจถึงรถก็พร้อมจะไปกับเราได้ทุกความเร็ว แต่ก็อดคิดถึงพละกำลังในรุ่นสูงว่าอย่าง 528i หรือแม้กระทั้งใน 520d ที่ได้รับการกล่าวถึงเรื่องพละกำลังที่เหลือเฟือ ถ้ามีโอกาสทีมงาน Auto-Thailand ก็จะได้นำมาทดสอบต่อไป

อีกเรื่องหนึ่งที่ขอพูดถึงรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสูงอย่าง BMW หลายท่านอาจจะเป็นกังวลเรื่องดูแลบำรุงรักษา ก็สามารถมั่นใจได้กับ BSI BMW Services Inclusive ที่จะคอยดูแลท่านตลอดระยะเวลา 5 ปี/100,000 กิโลเมตร เรียกว่าใช้กันยาวๆ แบบสบายใจไร้กังวลกันไปเลย





ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ BMW 520i เป็นรถยนต์นั่งคันหนึ่งที่ให้มาครบทั้งความหรูหรา กว้างขวาง นุ่มนวล สะดวกสบาย พร้อมพละกำลังจากเครื่องยนต์ใหม่ ที่อยากบอกว่าเหลือๆ แล้วกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน  แต่อย่างว่าล่ะครับ ของแบบนี้ต้องลองด้วยตัวเอง แล้วคุณจะพบคำตอบสุดท้าย...