ปิดท้ายกันการควอลิฟายด้วยรุ่น Super Bike 1000 cc (SB1) ซึ่งเป็นรุ่นที่แรง และเร็วที่สุดในเกมการแข่งขัน โดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ลงทำการวิ่งจับเวลาด้วยรถแข่ง YZF-R1 ด้วยความั่นใจหลังจากที่ยืนโพเดี้ยมอันดับ 1 ศึกชิงแชมป์ประเทศไทยจากสนามที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ 1 อาทิตย์ โดยสามารถทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’35.808 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เร็วที่สุดที่ทำได้ในรอบที่ 5 จากการวิ่งจับเวลาทั้งหมด 7 รอบสนาม ทำให้สามารถคว้าโพลโพซิชั่นมาครองได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 1 ได้สำเร็จ
Race Day : 17/9/2017
สำหรับรอบวันแข่งขันของรายการ PTT BRIC SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2017 สนาม 3 ในช่วงเช้า 3 นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ลงขับขี่วอร์มอัพเพื่อเช็คความพร้อมครั้งสุดท้ายก่อนจะลงชิงชัยในช่วงบ่ายต่อไป
ประเดิมความมันส์ศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 9 ในช่วงเวลาประมาณ 14.15 น. โดยสภาพอากาศนั้นค่อนข้างเป็นใจอย่างยิ่ง ท้องฟ้าแม้จะมีเมฆเยอะแต่ก็มีแสงแดดอ่อนๆ พร้อมกับลมพัดเย็นๆ โดยนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ที่ลงชิงชัยเป็นคนแรกคือ “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ในรุ่น Super Sport 600 cc (SS1) ซึ่งจะได้ออกสตาร์ทจากกริดสตาร์ทที่ 1 โดยการชิงชัยในเรซนี้มีรถแข่งรวมกันทั้งหมด 9 คัน และจะทำการแข่งขันกัน 12 รอบสนาม ทันทีที่เกมการแข่งขันเริ่มขึ้น “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ที่ออกสตาร์ทได้ดีก็สามารถทะยานขึ้นนำพร้อมกับคว้าโฮลช๊อตในโค้งแรกได้สำเร็จ แต่เสียจังหวะบานโค้งออกไปทำให้ถูกคู่แข่งแซงขึ้นหน้าไปได้เช่นกัน แต่ผู้นำอย่าง ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ #123 ก็พลาดท่าล้มไปเองในโค้งที่ 3 ทำให้ “เจ้าเบิร์ด” ที่ไล่หลังมาสามารถกลับขึ้นมาเป็นผู้นำได้อีกครั้ง
จากนั้นนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ก็กดคันเร่งรถแข่ง YZF-R6 ทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่งได้เพิ่มขึ้นในทุกรอบการแข่งขัน โดย “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 สามารถกดเวลาเร็วที่สุดได้ในรอบที่ 3 ด้วยเวลา 1’40.693 นาทีต่อรอบ ด้วยความเร็วท็อปสปีด 261.5 กม./ชม. ส่งผลให้ระยะห่างจากคู่แข่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกรอบการแข่งขันที่ผ่านพ้นไป ก่อนที่ “เจ้าเบิร์ด” จะนำรถแข่ง R6 ไล่แซงน็อครอบรถช้าได้สำเร็จในรอบที่ 10
และในช่วง 2 รอบสุดท้าย “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ก็ไม่มีการผ่อนคันเร่งลงยังคงเร่งเครื่องรักษาเวลาต่อรอบไว้ได้อย่างคงที่ ก่อนจะทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากเป็นคันแรก พร้อมกับคว้าชัยชนะอันดับที่ 1 รุ่น Super Sport 600 cc (SS1) ในการแข่งขันรายการ PTT BRIC SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2017 สนาม 3 ได้สำเร็จ พร้อมทั้งสามารถเก็บแต้ม 225 คะแนนเต็ม ด้วยการยืนโพเดี้ยมอันดับที่ 1 จากการลงชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 ทั้ง 9 สนามติดต่อกัน การันตีตำแหน่ง “แชมป์ประเทศไทย” ได้อย่างแน่นอนแล้ว แม้จะเหลือการชิงชัยอีก 3 สนามก็ตาม
ขยับความมันส์มาที่รุ่น Super Stock 1000 cc (ST1) โดย “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 รับหน้าที่ลงสู้ศึกให้กับ YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ซึ่งออกสตาร์ทจากกริดสตาร์ทที่ 1 ทันทีที่เริ่มเกมการแข่งขันนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ออกตัวแบบสบายๆ แม้จะไม่สามารถขึ้นนำได้ตั้งแต่โค้งแรก แต่ก็สามารถกดคันเร่งรถแข่ง R1 คู่ใจขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จหลังเมื่อทะยานออกจากโค้งสามในรอบแรก
ปิดท้ายความเร้าใจในการแข่งขันรายการ PTT BRIC SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2017 สนาม 3 ด้วยรุ่นใหญ่สุดแรงอย่างรุ่น Super Bike 1000 cc (SB1) ที่มีนักแข่งฝีมือระดับพระกาฬเข้าร่วมชิงชัยอย่างมากมาย ซึ่ง ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM รับหน้าที่ลงชิงชัยเพียงคนเดียวจากทีมยามาฮ่า โดยได้ออกสตาร์ทแถวหน้าในกริดสตาร์ทที่ 1 แต่ทันทีที่สัญญาณไฟแดงสตาร์ทดับลง นักบิดซุปตาร์ทีมยามาฮ่าก็ทะยานผ่านโค้งแรกไปโดยหล่นอยู่อันดับ 4 ในช่วงต้นเกม
จากนั้นเกมการชิงชัยตำแหน่งหัวแถวก็เป็นไปอย่างเร้าใจ โดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 สามารถแซงทั้ง ฐิติพงศ์ วโรกร #100 และ สุหทัย แช่มทรัพย์ #24 ขึ้นมาเป็นผู้นำได้ในรอบที่ 3 จากนั้นนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ก็พยายามที่จะกระชากคันเร่งทิ้งห่างคู่แข่งออกไปแต่คู่แข่งก็ไล่บี้อย่างไม่ลดละ ทำให้บรรยากาศของเกมการแข่งขันเต็มไปด้วยความมันส์ ตื่นเต้น เร้าใจเป็นอย่างมาก ชนิดที่กองเชียร์ได้ลุ้นทุกโค้งกันเลยทีเดียว
ในช่วงท้ายเกมการแข่งขัน ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ที่แม้จะนำอยู่ด้านหน้า แต่คู่แข่งที่ผ่านเกมระดับโลกมาแล้วก็คอยไล่กดดันอยู่ด้านหลังตลอดเวลา จนกระทั่งแซงผ่านขึ้นหน้าไปได้ในรอบที่ 8 แต่นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ยังหัวใจสู้เต็มร้อยพยายามไล่บี้เพื่อเอาตำแหน่งคืนให้ได้ และในช่วงโค้งสุดท้ายของรอบสุดท้าย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ไล่จี้เข้ามาจนติดท้ายผู้นำ และทะยานออกจากโค้งสุดท้ายพร้อมๆ กัน ก่อนที่นักแข่งยามาฮ่าจะถูกคู่แข่งเฉือนเข้าชัยรับธงตราหมากรุกไปก่อนหน้าเพียงแค่ 0.126 วินาที ทำให้สามารถยืนโพเดี้ยมได้เพียงอันดับที่ 2 เท่านั้น