ขุนพลนักบิดยามาฮ่าทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ยังคงเดินหน้าล่าแต้มแบบเต็มพิกัด โชว์ฟอร์มการขับขี่แบบเหนือชั้นก่อนหวดคันเร่งรถแข่งตระกูล R-Series ผงาดยืนโพเดี้ยมศึก ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 5 ในเกมการแข่งขันรายการ PTT BRIC SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2017 สนาม 2 โดยในการชิงชัยในสนามนี้นักบิดยามาฮ่ายังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยืนโพเดี้ยมครบทุกรุ่นที่ลงชิงชัย ตอกย้ำความแรงของรถสายพันธุ์สปอร์ตตระกูล R-Series ได้สำเร็จอีกครั้ง





สำหรับการแข่งขันรายการ PTT BRIC SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2017 สนาม 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 9 กรกฎาคม 2560 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยทัพนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ยังคงลงทำการชิงชัยครบทั้ง 3 รุ่น นำโดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 รุ่น Super Bike 1000 cc. (SB1), โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 รุ่น Super Stock 1000 cc. (ST1) ซึ่งทั้งคู่ใช้รถแข่ง YZF-R1 ลงสนามชิงชัย และ เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ #95 รุ่น Super Sport 600 cc. (SS1) ด้วยการใช้ YZF-R6 เป็นรถแข่งคู่ใจในการแข่งขันเช่นเดิม





โดยในรอบของการควอลิฟายนั้น นักบิดยามาฮ่าทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ลงขับขี่จับเวลาด้วยความคึกแบบเต็มพิกัด เริ่มจากรุ่น Super Sport 600 cc. (SS1) ซึ่งเป็นหน้าที่ของ “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ที่ควบรถแข่ง YZF-R6 คู่ใจกดเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’41.406 นาที ด้วยความเร็วสูงสุดที่ทำได้ถึง 254.1 กม./ชม. ทิ้งคู่แข่งแบบไร้กังวล พร้อมยึดตำแหน่งโพลโพซิชั่นออกสตาร์ทในตำแหน่งหัวแถวได้สำเร็จอีกครั้ง

จากนั้น “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 ที่ลงชิงชัยในรุ่น Super Stock 1000 cc. (ST1) ด้วยการใช้รถแข่ง YZF-R1 ก็ลงทำการควอลิฟายต่อทันที โดยนักบิดยามาฮ่าทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM สามารถกดเวลาดีที่สุดอยู่ที่ 1’38.546 นาทีต่อรอบ พร้อมกับทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 286.5 กม./ชม. คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นได้ออกสตาร์ทการแข่งขันในกริดที่ 1 ได้แบบสบายๆ








ปิดท้ายกันการควอลิฟายด้วยรุ่น Super Bike 1000 cc. (SB1) ที่เป็นรุ่นที่แรง และเร็วที่สุดในเกมการแข่งขัน โดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 นักบิดยามาฮ่าทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ที่แม้จะร่างกายจะยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย แต่ยังลงทำการวิ่งจับเวลาด้วยรถแข่ง YZF-R1 แบบสู้สุดใจ ก่อนที่จะคว้าตำแหน่งสตาร์ทกริดที่ 2 มาครองได้ ด้วยเวลาดีที่สุดในรอบสุดท้าย 1’36.229 นาทีต่อรอบ 





Race Day : 9 / 7/ 2017
สำหรับรอบวันแข่งขันของรายการ PTT BRIC SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2017 สนาม 2 ในช่วงเช้าซึ่งเป็นรอบของการขับขี่วอร์มอัพเพื่อเช็คความพร้อมครั้งสุดท้าย สภาพอากาศท้องฟ้าแจ่มใสเป็นอย่างยิ่ง 3 นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ลงขับขี่วอร์มอัพด้วยบรรยกาศแบบสบายๆ ก่อนจะลงชิงชัยในช่วงบ่ายต่อไป

ประเดิมความมันส์ศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 5 ในช่วงเวลาประมาณ 14.15 น. โดยสภาพอากาศค่อนข้างที่จะร้อนระอุ แม้ว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ชั่วโมง จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักก็ตาม โดยนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ที่ลงชิงชัยเป็นคนแรกคือ “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ในรุ่น Super Sport 600 cc. (SS1) ซึ่งจะได้ออกสตาร์ทจากกริดสตาร์ทที่ 1 โดยการชิงชัยในเรซนี้มีรถแข่งรวมกันทั้งหมด 11 คัน และแข่งขันกัน 12 รอบสนาม ทันทีที่เกมการแข่งขันเริ่มขึ้น “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ที่ออกสตาร์ทได้ดีก็สามารถทะยานขึ้นนำพร้อมกับคว้าโฮลช๊อตในโค้งแรกได้สำเร็จ และสามารถทิ้งห่างคู่แข่งออกไปได้ถึง 2 วินาทีเมื่อผ่านการแข่งขันในรอบแรก





จากนั้นนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ก็กดคันเร่งรถแข่ง YZF-R6 ทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่งได้เพิ่มขึ้นในทุกรอบการแข่งขัน ทำให้เมื่อเกมผ่านไปครึ่งทางคือ 6 รอบสนาม “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ก็ทิ้งคู่แข่งออกไปได้ถึง 9.6 วินาที เลยทีเดียว โดยในรอบที่ 3 สามารถทำความเวลาต่อรอบเร็วสุดอยู่ที่ 1’41.733 นาที ก่อนที่จะไล่น็อครอบรถช้าได้สำเร็จในรอบที่ 10

ในช่วง 2 รอบสุดท้าย แม้ว่าจะนำห่างทิ้งคู่แข่งแบบขาดลอย แต่ “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ก็ไม่มีการผ่อนคันเร่งลงแม้แต่น้อย ก่อนจะทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากเป็นคันแรกได้สำเร็จ และสามารถนำรถแข่ง YZF-R6 ทิ้งห่างคู่แข่งได้กว่า 16 วินาที คว้าชัยชนะอันดับที่ 1 รุ่น Super Sport 600 cc. (SS1) ในการแข่งขันรายการ PTT BRIC SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2017 สนาม 2 ได้สำเร็จ พร้อมทั้งสามารถเก็บแต้ม 125 คะแนนเต็ม ด้วยการยืนโพเดี้ยมอันดับที่ 1 จากการลงชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 ทั้ง 5 สนามติดต่อกันด้วย

“เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “วันนี้ก่อนการแข่งขันมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เราต้องวางแผนเรื่องการใช้ยางไว้ล่วงหน้า แต่เมื่อถึงเวลาลงสนามจริงฝนก็หยุดตกไปแล้ว แต่ว่ายังมีน้ำอยู่ในบางจุด ทำให้เราวางแผนการขับขี่ที่เน้นไปที่ผลการแข่งขันมากกว่าการทำเวลา วันนี้จึงไม่สามารถทำเวลาเบสต์แล็บได้ โดยพยายามที่จะยืนเวลาต่อรอบให้ได้นิ่งที่สุด ก็ดีใจที่ยังสามารถยืนโพเดี้ยมอันดับ 1 ได้สำเร็จครับ ”





ขยับความมันส์มาที่รุ่น Super Stock 1000 cc. (ST1) ซึ่งสภาพอากาศค่อนข้างครึ้มฟ้าครึ้มฝน โดย “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 รับหน้าที่ลงสู้ศึกให้กับทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM โดยออกสตาร์ทจากกริดสตาร์ทที่ 1 ทันทีที่เริ่มเกมการแข่งขันนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ทะยานออกตัวอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่ได้โฮลช๊อตในโค้งแรก แต่ก็สามารถทะยานขึ้นนำเป็นหัวแถวได้สำเร็จก่อนจะเข้าโค้งสามในรอบแรก 

จากนั้น “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 แม้ว่าจะขึ้นเป็นผู้นำแต่ต้องเจอกับแรงกดดันอย่างหนักจากคู่แข่งฝีมือระดับพระกาฬ แต่นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ก็ขับขี่ด้วยความสุขุม และมีหัวใจสุดแกร่ง ยืนเวลาต่อรอบได้นิ่ง โดยทำเวลาเร็วสุดอยู่ที่ 1’38.733 นาทีต่อรอบ ทำให้คู่แข่งยากที่จะไล่บี้เข้ามาติดจนเกินไปนัก และในรอบที่ 10 ก็สามารถไล่น็อครอบรถช้าได้สำเร็จ

จนกระทั้งครบรอบการแข่งขันทั้ง 12 รอบสนาม “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 ที่ขับขี่ได้อย่างแข็งแกร่ง ก็สามารถควบรถแข่ง YZF-R1 คู่ใจทะยานผ่านรับธงตราหมากรุกเป็นคันแรก พร้อมกับคว้าชัยชนะผงาดขึ้นยืนโพเดี้ยมอันดับที่ 1 รุ่น Super Stock 1000 cc. (ST1) ในรายการนี้ได้สำเร็จ ส่งผลให้คะแนนสะสมในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 หลังจบสนามที่ 5 นี้ นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำตารางคะแนนสะสมด้วยการเก็บ 125 คะแนนเต็ม





โดย “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ กล่าวหลังคว้าชัยชนะว่า “สำหรับวันนี้แม้ว่าจะสามารถคว้าที่ 1 มาได้ แต่เรายังมีปัญหาเรื่องการเซ็ทอัพรถแข่งอยู่บ้างในบางจุด เพราะสภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ไม่สามารถที่จะทำเวลาได้เหมือนช่วงการซ้อม และควอลิฟาย และไม่สามารถทำความเร็วได้ อีกทั้งคู่แข่งเองก็มีการเตรียมตัวมาดี ทำให้รู้สึกกดดันอยู่บ้างในการแข่งขัน แต่เราก็พยายามที่จะรักษาตำแหน่งเอาไว้ให้ได้ดีที่สุดครับ”

ปิดท้ายความเร้าใจในการแข่งขันรายการ PTT BRIC SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2017 สนาม 2 ด้วยรุ่นใหญ่สุดแรงอย่างรุ่น Super Bike 1000 cc. (SB1) ที่มีรถแข่งลงชิงชัยในเรซนี้ถึง 17 คันด้วยกัน ซึ่ง ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM รับหน้าที่ลงชิงชัยแม้จะยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ก็ตาม โดยได้ออกสตาร์ทแถวหน้าในกริดสตาร์ทที่ 2 และทันทีที่สัญญาณไฟแดงสตาร์ทดับลง นักบิดซุปตาร์ทีมยามาฮ่าก็ทะยานผ่านโค้งแรกไปโดยรั้งอยู่อันดับ 2 ตามหลังคู่แข่งที่เคยผ่านศึกโมโตทูมาแล้วเท่านั้น

จากนั้นเกมการชิงชัยตำแหน่งหัวแถวก็เป็นไปอย่างเร้าใจ โดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 สามารถแซงขึ้นมาเป็นผู้นำได้บ้างในรอบที่ 2 ก่อนจะถูกไล่บี้แซงคืนในรอบถัดไป แต่นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ยังไม่ถอดใจพยายามไล่ตามผู้นำอยู่อย่างไม่ลดละ ทำให้บรรยากาศของเกมการแข่งขันเต็มไปด้วยความมันส์ ตื่นเต้น เร้าใจเป็นอย่างมาก ชนิดที่กองเชียร์ได้ลุ้นทุกโค้งกันเลยทีเดียว





ในช่วงท้ายเกมการแข่งขัน ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ที่มีอาการบาดเจ็บติดตัวอยู่ เริ่มอ่อนแรงและถูกคู่แข่งยืดระยะห่างออกไป แต่นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ยังหัวใจสู้เต็มร้อยไม่ยอมถอดใจ ก่อนที่จะทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกได้ในที่สุด สามารถขึ้นยืนโพเดี้ยมได้ในอันดับที่ 2 พร้อมขยับขึ้นเป็นรองจ่าฝูงคะแนนสะสมศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 หลังจบการแข่งขันสนามที่ 5 

โดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “วันนี้เราวางแผนไว้ว่าช่วงต้นๆ เกมจะพยายามไล่กดดันคู่แข่งให้ได้มากที่สุด เพราะรู้ว่าวันนี้ร่างกายเราจะอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน ก็พยายามไล่กดดันให้เขาเหนื่อยมากที่สุด แต่สุดท้ายมันก็ต้านไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องขอโทษทีมงาน และกองเชียร์ด้วยนะครับ และผมจะพยายามให้มากยิ่งขึ้นในการแข่งสนามต่อไป ซึ่งสภาพร่างกายน่าจะสมบูรณ์มากกว่าวันนี้ครับ”





นอกจากนี้ คุณธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ และสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด บอสใหญ่ของทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ได้กล่าวถึงภาพรวมของทีมในการแข่งขันสนามนี้ว่า “เกมในสนามนี้ต้องบอกว่าคู่แข่งเตรียมตัวมาได้ดีมาก ทำให้เราต้องเตรียมตัวกันเกินร้อย เพื่อให้เกิดความพร้อมในการแข่งขันมากที่สุด ซึ่งสนามนี้เราทำงานกันค่อนข้างยาก เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปวน เพราะในช่วงซ้อมกับการควอลิฟายสภาพอากาศเป็นแบบนึง แต่ในช่วงการแข่งขันก็เป็นอีกแบบนึง ทำให้เราเซ็ทอัพรถได้ค่อนข้างยากมาก แต่สุดท้ายก็ต้องถือว่าผลงานในวันนี้ก็เป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ แต่ยังมีการบ้านให้เราต้องทำการปรับปรุงในสนามต่อๆ ไปอีกหลายอย่าง แต่เราจะพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อคว้าแชมป์มาให้ได้ ก็ขอให้แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยเป็นกำลังใจ และติดตามผลงานของทีมยามาฮ่ากันตลอดไปด้วยนะครับ”