สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กระหึ่มด้วยการดวลความเร็วของซูเปอร์คาร์ระดับโลกมูลค่ากว่าพันล้านในรายการ ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 ล่าสุดผ่านการควอลิฟาย ผลปรากฏว่า คู่หูชาวญี่ปุ่นอย่าง ฮิเดกิ มูโตะห์ และ ไดซูเกะ นากาจิม่า จาก ทีม มูเก้น หมายเลข 16 คว้าโพลในรุ่นจีที 500 ไปครอง ด้านทีมไทย เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต ที่ขับโดย กันตธีร์ กุศิริ และ แม็กซิม จูสส์ ทีมเมทชาวฝรั่งเศส ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 12 ก่อนดวลรอบชิงชนะเลิศวันอาทิตย์นี้ ยิงสดทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24





การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก ซูเปอร์ จีที 2018 มีคิวดวลความเร็วสนาม 4 ในรายการ ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-1 กรกฎาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ล่าสุดทีมแข่งทุกทีมในรุ่น จีที500 และ จีที300 ลงจับเวลาในรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยก่อนที่การควอลิฟายจะเริ่มต้นขึ้น 1 ชั่วโมง มีฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้พื้นแทร็กชุ่มไปด้วยน้ำ ส่งผลให้กรรมการต้องประกาศเป็นการควอลิฟายแบบสนามเปียก (Wet Qualify)

ในปีนี้มีทีมแข่งไทยลงดวลความเร็วในบ้านเกิดถึง 2 ทีม ในรุ่น จีที300 นำโดย อาร์โต้-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ซึ่งลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยการขับของคู่หูจอมเก๋าอย่าง ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ รวมถึงทีมที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดอย่าง เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต ขับโดยดาวโรจน์ชาวไทยอย่าง กันตธีร์ กุศิริ และทีมเมทชาวฝรั่งเศส แม็กซิม จูสส์

เข้าสู่ช่วง น็อคเอาท์ ควอลิฟาย 1 กันตธีร์ ทำผลงานยอดเยี่ยมลงไปกดเวลาให้กับ เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส เป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 41.575 วินาที ทะลุเข้าสู่รอบ น็อคเอาท์ ควอลิฟายที่ 2 ได้สำเร็จ ส่วน ณัฐพงษ์ ที่ลงควอลิฟายเป็นไม้แรกให้กับ อาร์โต้-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ จบอันดับ 19 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 44.544 วินาที ต้องหยุดเส้นทางการจัดอันดับสตาร์ทไว้เพียงรอบแรกเท่านั้น




     




ทั้งนี้ หลังผ่านไป 30 นาที แทร็กเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ทุกทีมเปลี่ยนกลับมาใช้ยางสลิค เพื่อกดเวลาต่อรอบอีกครั้ง โดย แม็กซิม จูสส์ ที่รับหน้าที่เป็นนักขับในรอบ น็อคเอาท์ ควอลิฟาย 2 ของ เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต กดเวลามาเป็นอันดับ 12 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 33.607 วินาที ส่วน อาร์โต-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ได้ออกตัวจากกริดที่ 19

ขณะที่ตำแหน่งโพลโพซิชั่นในรุ่น จีที300 เป็นของ นาโอย่า กาโมอุ และ ฮารูกิ คุโรซาว่า คู่หูชาวญี่ปุ่นภายใต้รถแข่ง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 65 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 32.554 วินาที โดยเวลาเท่ากันกับอันดับ 2 อย่าง อันเดรีย คัลดาเรลลี่ นักขับอิตาเลียนและ คาซูกิ มิยามิเนะ ทีมเมทชาวญี่ปุ่นในสังกัด เจแอลโอซี ส่วนกริดที่ 3 เป็นของคู่หูชาวญี่ปุ่นอย่าง ฮิโรกิ โยชิดะ และ คาซูกิ โฮชิโนะ จาก ทีมเกนเนอร์ ตามหลังหัวแถวเพียง 0.177 วินาที เท่านั้น

ส่วนในรุ่น จีที500 นับเป็นฤดูกาลที่เข้มข้นขึ้นอย่างมาก เมื่ออดีตแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันชาวอังกฤษอย่าง เจนสัน บัตตัน เดินทางร่วมดวลความเร็วในเมืองไทยเป็นครั้งแรกกับต้นสังกัด ทีม คูนิมิตซึ กับทีมเมทชาวญี่ปุ่นอย่าง นาโอกิ ยามาโมโตะ ในฐานะผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพหลังผ่าน 3 สนามแรก





ผลการควอลิฟายในรุ่น จีที500 ซึ่งมีรถแข่งทั้งสิ้น 15 คัน ปรากฏว่าโพลโพซิชั่นตกเป็นของคู่หูชาวญี่ปุ่นอย่าง ฮิเดกิ มูโตะห์ และ ไดซูเกะ นากาจิม่า จาก ทีม มูเก้น ด้วยรถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ -จีที ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 23.341 วินาที เฉือน โคอุดาอิ ซึคาโกชิ และ ทาคาชิ โคกูเระ สองนักขับญี่ปุ่นจาก เคฮิน เรียล เรซซิ่ง เพียง 0.117 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อดีตนักขับเอฟวันสองคนอย่าง เฮกกิ โควาไลเนน ชาวฟินแลนด์ และ คามูอิ โคบายาชิ ชาวญี่ปุ่นจาก เลกซัส ทีม ซาร์ด ตามหลัง 0.335 วินาที ด้าน บัตตัน และ ยามาโมโตะ ได้ออกตัวจากกริดที่ 5

ในส่วนของซัพพอร์ตเรซ “ฮอนด้า เรซซิ่ง”  ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า โปร คาร์ (Honda Pro Car) 18 คัน ฮอนด้า โปร์คาร์ โมดิฟาย (Honda Pro Car Modify) 15 คัน และฮอนด้า บริโอ้ คัพ (Honda Brio Cup) 14 คัน  ได้ยกขบวนมาสร้างสีสันการประลองความเร็วบนสนามให้แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้ร่วมเชียร์ในตลอดวัน


     


สำหรับการแข่งขัน ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 สนาม 4 จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคมนี้ เวลา 15.00-17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24