เดินทางมาถึงครึ่งของเส้นทางฝุ่น ท่ามกลางสภาพสนามโหดแบบท้าทายบรรดาเซียนออฟโรดทั่วประเทศที่เข้ามาสู้ศึกกันในการแข่งขันรายการ Off Road Trophy 2014 ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โดยการแข่งขันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยบริษัท ทาร์เก็ตมีเดียแอนด์เทเลวิชั่น จำกัด ผู้จัดการแข่งขันออฟโรดโทรฟี่ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13 ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนการจัดการแข่งขันจาก บริษัท กรังด์ปรีซ์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, สมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย และราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมถึงผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าของพื้นที่สำหรับการดวลแชมป์สนามที่ 3 ในครั้งนี้ ผ่านการถ่ายทอดผ่านดาวเทียมทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ก่อนเริ่มต้นการแข่งขันรอบตัดเชือกเพื่อชิงแชมป์ประจำสนามในช่วงเช้าวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ได้ขึ้นกล่าวต้อนรับในนามเจ้าของพื้นที่จัดการแข่งขัน, คุณสุรพล อารมสุโข ตัวแทนจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวในนามผู้ให้การรับรองการแข่งขัน, คุณชยพล มาคล้าย ตัวแทนจากบริษัท กรังด์ปรีซ์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย กล่าวในฐานะผู้ร่วมให้การสนับสนุนการแข่งขัน, คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานจัดการแข่งขันออฟโรดโทรฟี่ 2014 และคุณนภดล สงวนพันธ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดงานและปล่อยผ้าแพรสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นการแข่งขัน OFF ROAD TROPHY 2014 สนามที่ 3 อย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นก็เริ่มต้นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ โดยปล่อยรถเป็นคู่แข่งแบบใครชนะก็ได้ตำแหน่งแชมป์สนามไปครองตามลำดับ สำหรับความมันส์และภาพลุ้นระทึกจากกองเชียร์รอบสนามพร้อมบรรยากาศและผลการแข่งขันของแต่ละรุ่น มีดังนี้ รุ่นปีกนก เป็นการชิงดำระหว่างรถหมายเลข 57 ขับโดยธงชัย กลิ่นเกตุ และ ชาญเดช โรจนพาณิชย์วงศ์ จากทีมยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณบุรี by สุพรรณแอร์ยางยนต์ กับ รถหมายเลข 32 ของอดิเรก มุลิ และ อภากร ดีหมั่น จากทีม PTT Performa Team Lamina เปี๊ยกระยองออฟโรด ที่แม้ว่าทั้ง 2 ทีมนี้ต่างก็เคยตกรอบแรกมากด้วยกันในสนามแรกๆ แต่สนามที่ 3 นี้มาแรงกันทั้งคู่ และในรอบตัดเชือกนี้การแข่งขันยิ่งสูสีกันมากขึ้นตั้งแต่ออกจากจุดสตาร์ท แต่ด้วยความเก๋าเกมและการเซ็ตรถมาดีไม่มีหลุด ทำให้ทีม PTT Performa Team Lamina เปี๊ยกระยองออฟโรด นำห่างคู่แข่งชนิดไม่เห็นฝุ่น สร้างประวัติศาสตร์แชมป์ประจำสนามได้สำเร็จในรอบหลายปีของทั้ง 2 นักแข่ง อดิเรก มุลิ และ อภากร ดีหมั่น นั่นเอง มาถึงคู่แข่งชิงอันดับที่ 3 ระหว่างรถหมายเลข 23 ของอัฎฐ์ยุต มัจฉาปรีดาภัทร์ และเนวิเกเตอร์คู่หู นฤนาท แสงอินทร์ จากทีม โปรเฟนเดอร์ ไฮวินซ์ ARB อู่ทรงไทย VVP 4x4 รัตนฟาร์มปลาคาฟ ดีกรีแชมป์ประจำสนามที่ 2 จังหวัดสระแก้ว แต่คราวนี้หล่นมาชิงที่ 3 โดยลงคู่กับรถหมายเลข 7 ที่ขับโดย ริติ มหิพันธ์ และ สันติชัย สำราญมาก จากทีมยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณ by ข้าวหมกไก่สยาม บิ๊กบูมคาร์เซอร์วิส โดยสตาร์ทออกกันมาอย่างคู่คี่ ซึ่งรถหมายเลข 7 นำมาโดยตลอด แต่ก็พลาดท่าให้รถหมายเลข 23 ขึ้นมาแซงนำได้ในระยะ 50 เมตรสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัยไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้อันดับที่ 3 ตกเป็นของแชมป์สนามสระแก้วไปคือรถหมายเลข 23 รุ่นคานแข็ง รุ่นคานแข็งเป็นการจับคู่ชิงชนะเลิศระหว่างรถหมายเลข 45 ของ พิเชษฐ์ แสงพิชัย และ มร.เบนท์ แซ็บแมน จากทีมฟรายคลับเชียงใหม่ เปี๊ยกระยองออฟโรด กับรถหมายเลข 97 ของวิโรจน์ พานทอง และ ก่วย บุตรดีวง จากทีม พนม 4x4 ก่วยเซอร์วิส เล็กไดนาโม อดุล ดอกฝ้าย ARB Kevlar Team สำหรับหมายเลข 45 ที่ผ่านมาก็ได้ขึ้นแท่นรับถ้วยมาทั้ง 2 สนามแรก แม้จะไม่ได้แชมป์แต่คราวนี้ขอขึ้นอันดับ 1 ซึ่งไม่ง่ายเลย เพราะงานนี้มีเรื่องโชคเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าหลังจากตีธงเริ่มออกสตาร์ททั้ง 2 คันจะคู่คี่สูสีกันมาก็ตาม และรถหมายเลข 97 ยังพลาดไปชนเสาทำให้ถูกบวกเวลาเพิ่มอีกถึง 10 วินาที ดูเหมือนหมายเลข 45 จะลอยลำแล้วก็ตามที แต่เกือบใกล้จะเข้าเส้นชัยอยู่ๆ รถของพิเชษฐ์ แสงพิชัย ก็เกิดมีปัญหาจอดแน่นิ่งโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้วิโรจน์ พานทอง ได้โอกาสรีบเร่งเครื่องขับแซงขึ้นไปอย่างรวดเร็วและเข้าเส้นชัยก่อนในที่สุด ถึงแม้จะถูกบวกเวลาเพิ่มเข้าไปแต่เวลารวมก็ยังชนะรถหมายเลข 45 ของพิเชษฐ์ แสงพิชัย คว้าแชมป์สนามไปครอบในที่สุด ส่วนการแข่งขันชิงอันดับที่ 3 เป็นคู่ระหว่าง รถหมายเลข 1 ปณชัย อยู่หมื่นไวย และ เกรียงศักดิ์ ดีหมื่นไวย จากทีม PTT Performa Team กับหมายเลข 27 ทัชกร ทรงศิริ และ ณรงค์ วงค์กรรคำ จากทีม MJ ฟรายคลับ นครสวรรค์ จากสถิติของทั้งคู่เคยเป็นแชมป์สนามมาด้วยกันแล้ว และตามมาชิงชัยกันในสนามที่ 3 อีกครั้งด้วย ต่างฝ่ายต่างใช้จังหวะเร่งแซงเพื่อจะนำอีกฝ่ายให้ได้ รอบแรกดูสูสีแต่พอเข้ารอบที่ 2 รถหมายเลข 1 อาศัยจังหวะที่ดีกว่าขึ้นแซงจนเกือบจะเสียจังหวะหลุดโค้ง แต่ก็สามารถประคองรถเข้ามาในแทร็คสำเร็จ และวิ่งปาดหน้ารถหมายเลข 27 เข้าเส้นชัยไปได้ก่อนในที่สุด รุ่น Open B มาถึงรอบชิงชนะเลิศของรุ่นเก๋าเกมเจ้าสนามออฟโรดรุ่น Open B ระหว่างรถหมายเลข 8 ขับโดยสมโภช ยวดยิ่ง และ มงคล เพียรดี จากทีมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซุ้มบังไพร คนมีหนาม คิงออฟโรด วันเพ็ญการสุรา โรงสีพงศ์อายุกูล ปราโมทย์คาออดิโอ จิวเล็กแรนซ์ บราย 4x4 Accessories เปี๊ยกจังเกิ้ล กับหมายเลข 21 ของสุธารักษ์ พิณเมืองทอง และพรรภสิทธิ์ วงษ์สุข จากทีม Polaris-โคนิค ATV-HI-WINCH ลาภมหาศาล เลยสแตนเลส อดีตรองแชมป์สนามจังหวัดสระแก้ว ทั้งคู่เหมือนจุดประกายระเบิดการแข่งขันที่ร้อนแรงที่สุดของสนามที่ 3 นี้ เพราะผลัดกันนำผลัดกันตามชนิดห่างกันไม่เกินหนึ่งช่วงตัว พร้อมกับโชว์รถบินในช่วงเนินกระโดดชนิดรถลอยขึ้นฟ้าชนิดมองตามไม่ทัน คู่นี้ไม่มีการแตะเบรกจนกระทั่งถึงจุดเข้าเส้นชัยรถหมายเลข 21 อาศัยความไววิ่งไล่กันก้าวต่อก้าว ไปกดเวลาได้ก่อนรถหมายเลข 8 อย่างเฉียดฉิว ทำให้รถหมายเลข 21 ซิวแชมป์ในรอบนี้ไป มาถึงรอบชิงอันดับที่ 3 มาจากบ้านหลังเดียวกัน เพราะทีมเดียวกันชิงกันเองนั่นคือ จากทีมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซุ้มบังไพร คนมีหนาม คิงออฟโรด วันเพ็ญการสุรา โรงสีพงศ์อายุกูล ปราโมทย์คาออดิโอ จิวเล็กแรนซ์ บราย 4x4 Accessories เปี๊ยกจังเกิ้ล ระหว่างรถหมายเลข 33 ขับโดย กิรศักดิ์ แสงอินทร์ และ ภานุพงษ์ แสงอินทร์ กับรถหมายเลข 4 ของ นภดล เมืองชู และ สังวาล เหลืองช่างทอง ซึ่งงานนี้ใครชนะคือการวัดฝีมือกันภายในบ้าน เพราะเป็นคู่หลุดโลกอีกคู่หนึ่งในสนามที่หมายเลข 4 พลดล เมืองชู ขอท้าชิงกับดีกรีแชมป์สนามสระแก้วเช่นกันกับรถหมายเลข 33 กิรศักดิ์ แสงอินทร์ ทว่าโชคไม่เข้าข้างแชมป์เก่าเสียดื้อๆ เพราะเพียงแค่สตาร์ทออกไปได้ครึ่งรอบสนาม รถหมายเลข 33 ก็เกิดอาการผิดปกติเพลาขาดไม่สามารถบังคับรถได้ สุดท้ายต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้อันดับที่ 3 เป็นของรถหมายเลข 4 นภดล เมืองชู และ สังวาล เหลืองช่างทอง รุ่น Open A มาถึงการชิงถ้วยแชมป์ของรุ่นมืออาชีพรุ่นหลุดโลก หรือรุ่นหยุดโลก Open A ที่หลายคนใจจดใจจ่อรอลุ้นกัน ระหว่างรถหมายเลข 63 โดยมือเก๋า สัมพันธ์ ชวศิลป และ ตะการ ณ หงสาวดี ทีม ยูนิคอน Hotbit ท้ายขบวน นเรศวร อีซูซุกาญจนบุรี ปะทะกับรถหมายเลข 46 จากทีมแข็งอย่าง PTT Performa Team ขับโดยอภิเดช ชูประดิษฐ์ และสิทธิพร ชูมณี เริ่มต้นปล่อยตัวออกจากจุดสตาร์ท รถหมายเลข 46 ก็โชว์ฟอร์มเหนือเร่งเครื่องเต็มพิกัดไม่จำกัดความเร็วขับนำหมายเลข 63 มาโดยตลอด ทำให้ สัมพันธ์ ชวศิลป ในนามเจ้าตำนานรถการ์ตูนเมืองไทยหมายเลข 63 ต้องเร่งตาม แต่ดูเหมือนจะไม่ทันในช่วงแรก ทว่าก็เกิดเหตุเกมพลิกล็อกโดยไม่มีใครคาดคิดท่ามกลางความงุนงงของกองเชียร์รอบสนาม เมื่อรถหมายเลข 46 เกิดมีปัญหาระหว่างขับอีกหนึ่งคัน ทำให้อภิเดช ชูประดิษฐ์ ไม่สามารถควบคุมพวงมาลัยรถได้ ภาพที่เห็นคือรถกวาดทั้งเสาทั้งเชือกล้มและขาดหลุดลุ่ยกันยาวนับสิบเมตร และรถก็จอดแน่นิ่งจนต้องออกจากการแข่งขันไปโดยปริยาย ได้โอกาสดังนั้น สัมพันธ์ ชวศิลป ก็โชว์ฟอร์มเหนือเร่งแซงรถหมายเลข 46 ขึ้นไปแบบสบายๆ พร้อมกับวิ่งเข้าไปกดเวลาได้ก่อน รับแชมป์สนาม 3 ไปครอง ทางด้านคู่ชิงอันดับที่ 3 ระหว่างรถหมายเลข 2 ของ ประวิทย์ จันทร์พฤษา และ สุทธิรักษ์ ทองประจักษ์ จากทีมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซุ้มบังไพร คนมีหนาม คิงออฟโรด วันเพ็ญการสุรา โรงสีพงศ์อายุกูล ปราโมทย์คาร์ออดิโอ จิวเล็กแรนซ์ บราย 4x4 Accessories เปี๊ยกจังเกิ้ล กับรถหมายเลข 52 ของชัยรัช คำพึ่ง และ อนุวัฒน์ สวยกลาง จากทีม PTT Team Polaris YSS / Sun Clean Pong Humvee Sriracha Off Road อดีตแชมป์ประเทศไทยหลายสมัย คู่นี้ผลัดกันนำผลัดกันตามตั้งแต่ออกจากจุดสตาร์ท และรถหมายเลข 52 ก็ทำหวาดเสียวขับชนเชือกกั้นและรถเกือบตกสะพานโชว์กองเชียร์ แต่ก็อาศัยใช้ฝีมือและประสบการณ์ดึงพวงมาลัยกลับเข้ามาได้ทันแล้วจัดการเร่งเครื่องจนตามทันรถหมายเลข 2 ของ ประวิทย์ จันทร์พฤกษา และพลิกขึ้นมานำจนเข้าเส้นชัยซิวอันดับที่ 3 มาครองได้สำเร็จ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแข่งขันออฟโรดโทรฟี่ และแฟนพันธุ์แท้ออฟโรดทั่วประเทศ สามารถติดตามชมและร่วมเชียร์การแข่งขันพร้อมกับการเก็บคะแนนโค้งสุดท้ายและบันไดก้าวสู่การครองแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2557 อันทรงเกียรตินี้ได้ในรายการ Off Road Trophy 2014 “My Way My Life My Story My Off Road Trophy 2014” สนามที่ 4 ที่จะจัดขึ้นที่สนามออฟโรด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ในวันที่ 22-23 ตุลาคม 2557 และร่วมลุ้นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม ได้ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9 อสมท.) ในวันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2557 เวลา 13.00-14.30 น. สรุปผลการแข่งขันแชมป์ OFF ROAD TROPHY 2014 ประจำสนามที่ 3 จังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง 4 รุ่น ผลการแข่งขันรุ่น OPEN A (โอเพ่น เอ) อันดับ 1 รถหมายเลข 63 ทีม ยูนิคอน Hotbit ท้ายขบวน นเรศวร อีซูซุกาญจนบุรี ผู้ขับ/ผู้นำทาง สัมพันธ์ ชวศิลป / ตะการ ณ หงสาวดี อันดับ 2 รถหมายเลข 46 ทีม PTT Performa Team ผู้ขับ/ผู้นำทาง อภิเดช ชูประดิษฐ์ / สิทธิพร ชูมณี อันดับ 3 รถหมายเลข 52 ทีม PTT Team Polaris YSS / Sun Clean Pong Humvee Sriracha Off Road ผู้ขับ/ผู้นำทาง ชัยรัช คำพึ่ง / อนุวัฒน์ สวยกลาง ผลการแข่งขัน รุ่น OPEN B (โอเพ่น บี) อันดับ 1 รถหมายเลข 21 ทีม Polaris-โคนิค ATV-HI-WINCH ลาภมหาศาล เลยสแตนเลส ผู้ขับ/ผู้นำทาง สุธารักษ์ พิณเมืองทอง / พรรภสิทธิ์ วงษ์สุข อันดับ 2 รถหมายเลข 8 ทีม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซุ้มบังไพร คนมีหนาม คิงออฟโรด วันเพ็ญการสุรา โรงสีพงศ์อายุกูล ปราโมทย์คาร์ออดิโอ จิวเล็กแรนซ์ บราย 4x4 Accessories เปี๊ยกจังเกิ้ล ผู้ขับ/ผู้นำทาง สมโภช ยวดยิ่ง / มงคล เพียรดี อันดับ 3 รถหมายเลข 4 ทีม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซุ้มบังไพร คนมีหนาม คิงออฟโรด วันเพ็ญการสุรา โรงสีพงศ์อายุกูล ปราโมทย์คาร์ออดิโอ จิวเล็กแรนซ์ บราย 4x4 Accessories เปี๊ยกจังเกิ้ล ผู้ขับ/ผู้นำทาง พลดล เมืองชู / สังวาล เหลืองช่างทอง ผลการแข่งขัน รุ่นคานแข็ง อันดับ 1 รถหมายเลข 97 ทีม พนม 4x4 ก่วยเซอร์วิส เล็กไดนาโม อดุล ดอกฝ้าย ARB Kevlar Team ผู้ขับ/ผู้นำทาง วิโรจน์ พานทอง / ก่วย บุตรดีวง อันดับ 2 รถหมายเลข 45 ทีม ฟรายคลับเชียงใหม่ เปี๊ยกระยองออฟโรด ผู้ขับ/ผู้นำทาง พิเชษฐ์ แสงพิชัย / มร.เบนท์ แซ็บแมน อันดับ 3 รถหมายเลข 1 ทีม PTT Performa Team ผู้ขับ/ผู้นำทาง ปณชัย อยู่หมื่นไวย / เกรียงศักดิ์ ดีหมื่นไวย ผลการแข่งขันรุ่นปีกนก อันดับ 1 รถหมายเลข 32 ทีม PTT Performa Team Lamina เปี๊ยกระยองออฟโรด ผู้ขับ/ผู้นำทาง อดิเรก มุลิ / อภากร ดีหมั่น อันดับ 2 รถหมายเลข 57 ทีม ยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณบุรี by สุพรรณแอร์ยางยนต์ ผู้ขับ/ผู้นำทาง ธงชัย กลิ่นเกตุ / ชาญเดช โรจนพาณิชย์วงศ์ อันดับ 3 รถหมายเลข 23 ทีม โปรเฟนเดอร์ ไฮวินซ์ ARB อู่ทรงไทย VVP 4x4 รัตนฟาร์มปลาคาฟ ผู้ขับ/ผู้นำทาง อัฎฐ์ยุต มัจฉาปรีดาภัทร์ / นฤนาท แสงอินทร์