การแข่งขันรายการ Off Road Trophy 2014 สนามที่ 5 ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม 2557 และผ่านการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี เวลา 13.00-14.30 น. ในวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยบริษัท ทาร์เก็ตมีเดียแอนด์เทเลวิชั่น จำกัด ผู้จัดการแข่งขัน และได้รับการสนับสนุนการจัดการแข่งขันจาก บริษัท กรังด์ปรีซ์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, สมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย และราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี หลังจากมีการแข่งขันรอบคัดเลือกในวันที่ 9 ธันวาคม 2557 เพื่อเฟ้นหาผู้ได้รับคัดเลือกเข้าสู่รอบตัดเชือกลุ้นแชมป์ประจำสนามเรียบร้อยแล้ว ในช่วงเช้าวันที่ 10 ธันวาคม 2557 ซึ่งเปิดศึกกันกลางสนามออฟโรดยุทธหัตถี หลังเขื่อนกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก คุณธีระชัย ทศรฐ นายอำเภอด่านช้าง ขึ้นกล่าวต้อนรับในนามเจ้าของพื้นที่ต่อแขกผู้มีเกียรติ นักแข่งจากทีมต่างๆ และผู้ให้ความสนใจร่วมชมการแข่งขัน, คุณอธิกิจ ศรีมงคล ตัวแทนจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขึ้นกล่าวในฐานะผู้ให้การรับรองการแข่งขัน, คุณชยพล มาคล้าย ตัวแทนบริษัท กรังด์ปรีซ์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย ขึ้นกล่าวในฐานะผู้ร่วมให้การสนับสนุนการแข่งขัน และปิดท้ายด้วยการขึ้นกล่าวของคุณบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ขึ้นกล่าวในฐานะประธานในพิธีเปิดงาน และร่วมปล่อยผ้าแพรสัญลักษณ์ในการเริ่มต้นการแข่งขัน Off Road Trophy 2014 สนามที่ 5 ปิดท้ายฤดูกาลอย่างเป็นทางการ โดยมีสรุปผลการแข่งขันและบรรยากาศในการแข่งขันของแต่ละรุ่น ดังนี้ รุ่นปีกนก ในรุ่นปีกนก รอบชิงแชมป์ประจำสนามระหว่าง รถหมายเลข 57 จากทีมยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณ By แอร์ยางยนต์ ขับโดย ธงชัย กลิ่นเกตุ และ ชาญเดช โรจนพาณิชย์วงศ์ กับรถหมายเลข 7 โดย ระติ มหิพันธ์ และ สันติชัย สำราญมาก จากทีมยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณ By ข้าวหมกไก่สยาม รวมเพื่อนออฟโรด ทั้ง 2 เรียกว่าต่างมาจากทีมยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณบุรีกันทั้งคู่ และเป็นสนามเจ้าภาพกันด้วยแล้วยิ่งได้รับความสนใจและมีเสียงเชียร์จากชาวสุพรรณฯ กันลั่นสนามออฟโรด แม้จะทีมเดียวกันแต่เพื่อความเป็นแชมป์เดียวจึงทำให้ทั้ง 2 ทีมต้องโชว์ฟอร์มกันเต็มที่ เริ่มด้วยรถหมายเลข 7 ขับนำมาแต่ไม่ห่างมากนัก โดยในรอบแรกยังคงสูสี แต่พอขึ้นรอบที่ 2 รถหมายเลข 57 ก็เบียดแซงขึ้นมาได้ในระยะกระชั้น เกมกลับมาเป็นของรถหมายเลข 57 อีกครั้ง จากผู้ตามกลายเป็นผู้นำและไม่มีใครลดราวาศอก แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายรถทั้งคู่กลับมาสูสีจอดเส้นชัยพร้อมๆ กัน ต้องมาวัดความเร็วของเนวิเกเตอร์ที่ต้องวิ่งแข่งกันมากดเวลาหยุดให้ได้ก่อน ผลปรากฏว่ารถหมายเลข 7 ใช้ความคล่องตัวกดเวลาก่อน ทำให้ซิวแชมป์ประจำสนามไปได้ในระยะเสี้ยววินาที ส่วนผลการแข่งขันชิงลำดับที่ 3 เกิดขึ้นระหว่างรถหมายเลข 32 โดย อดิเรก มุลิ และ อภากร ดีหมั่น จากทีม PTT Performa Team ลามิน่า เปี๊ยกจังเกิ้ล นิราศสุรา ติมนม ดู๋ดี๋ออฟโรด และรถหมายเลข 59 จากทีมยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณ By แอร์ยางยนต์ ขับโดย สุวัฒน์ ลิ้มจิรภิญญา และ พิณโญ บุญยังมี ซึ่งหมายเลข 59 หากชนะก็มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ประเทศไทยไปด้วย แต่ถ้าแพ้ก็ติดเพียงอันดับที่ 4 ของสนาม โดยเริ่มสตาร์ทรถหมายเลข 32 ก็ข่มด้วยเสียงแผดของท่อไอเสียและออกนำไปอย่างไม่รีรอ ปล่อยให้รถหมายเลข 59 ค่อยๆ ตามออกไป แต่ดูเหมือนว่ารถหมายเลข 59 จะขัดข้องทางเทคนิคทำให้รถเร่งไม่ขึ้น อาจจะต้องเสียแชมป์ไป และฝันร้ายก็กลายเป็นจริงของหมายเลข 59 เมื่อไม่สามารถตามไปแซงหมายเลข 32 ได้ เพียงขอให้แข่งจบและเข้าเส้นชัยให้ได้ลำดับที่ 4 ก็พอ และเสียแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย สนามนี้รถหมายเลข 32 จึงได้ลำดับที่ 3 ของสนามไปอย่างไร้ข้อกังขา รุ่นคานแข็ง เป็นการแข็งขันเพื่อครองแชมป์อันดับ 1 ของสนามระหว่างรถหมายเลข 1 จากทีมแข็งอย่าง PTT Performa Team โดย ปณชัย อยู่หมื่นไวย และ เกรียงศักดิ์ ดีหมื่นไวย และรถหมายเลข 22 จากทีมจิ้มจิ๊อุบล ชาชักป๋านม อู่ช่างมีเซอร์วิส โดย ปริญญา โพธิ์ศรี และ ณัฐวุฒิ ภูมิภักดิ์ ซึ่งว่าที่แชมป์ประเทศไทยอย่างแน่นอนก็คือรถหมายเลข 1 แต่เพื่อศักดิ์ศรีและขอแชมป์สนามอีกหนึ่งถ้วยรางวัล จึงทำให้รถหมายเลข 1 แข่งแบบสบายๆ ไม่ซีเรียส ความกดดันไปตกอยู่ที่รถหมายเลข 22 ซึ่งขอแชมป์สนามรอบสุดท้ายนี้เพื่อศักดิ์ศรีเช่นกัน ในรอบแรกรถหมายเลข 1 ขับนำออกห่างไป จนรถหมายเลข 22 ตามไม่ทัน แม้จะหวุดหวิดหลุดโค้งแต่ก็สามารถประคองรถกลับเข้ามาในเลนได้สมกับเป็นมืออาชีพ ขณะที่รถหมายเลข 22 ก็ขับตามอย่างไม่ลดละ และเกือบจะแซงได้หลายต่อหลายโค้งแต่ก็ไม่สำเร็จในช่วงโค้งสุดท้าย รถหมายเลข 22 โชว์เหนือด้วยการดริฟท์เข้าโค้งและวิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมกดเวลาได้ก่อน ทำให้รถหมายเลข 1 ได้ Double Champ ไปตามความคาดหมาย ส่วนอันดับที่ 3 และ 4 นั้น แข่งขันระหว่างรถหมายเลข 37 จากทีมประจวบเซอร์วิส ออฟโรด ตรัง By อ่าวนางออฟโรด ตรังเอ็นจิเนียริ่ง อมาด้า โดย นราวุฒิ เพชรแก้ว และ พงศ์พัฒน์ ขวัญนิมิตร และคู่แข่งคือรถหมายเลข 81 จากทีม Nut 4Wheel Auto Shop ประจวบออฟโรด มาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์คนบ้านเดียวกันทั้งคู่ แต่ในสนามแข่งต้องขอพิสูจน์ฝีมือกันด้วยความสามารถล้วนๆ แม้ว่ารุ่นคานแข็งจะเป็นรุ่นที่ขับยากรุ่นหนึ่งในสนามออฟโรดที่เรียกว่าโหดที่สุดในประเทศไทย แต่บรรดานักแข่งก็ถือเป็นความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงขึ้นเนินกระโดด ที่คานแข็งแทบจะบินกันทุกคันและต้องใช้แรงกำลังในการควบคุมรถ ทั้งคู่แข่งกันมาอย่างสูสี แต่ทั้งคู่ก็ใช้ทักษะได้คล่องแคล่วว่องไวกว่าในการประคองรถเข้าเส้นชัยพร้อมกันและกดเวลาพร้อมกัน ต้องตัดสินกันที่เสี้ยววินาที แต่ในที่สุดรถหมายเลข 37 ก็ชนะไปได้อย่างเฉียดฉิว รุ่น Open B ระหว่างรถหมายเลข 33 ของกิรศักดิ์ แสงอินทร์ และ ภานุพงษ์ แสงอินทร์ จากทีมที่ชื่อยาวถึง 2 บรรทัดคือ ทีม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซุ้มบังไพร คนมีหนาม คิงออฟโรด วันเพ็ญการสุรา โรงสีพงศ์อายุกูล ปราโมทย์ออดิโอ จิวเล็กแรนซ์ บราย 4x4 Accessories เปี๊ยกจังเกิ้ล และรถหมายเลข 21 ของสุธารักษ์ พิณเมืองทอง และชานนท์ แช่มโชติ จากทีม กำแพงเพชรลาภมหาศาล โคนิค ATV ไฮวินซ์ หลังจากนับถอยหลังออกสตาร์ท ถือเป็นการแข่งขันเพื่อศักดิ์ศรีโดยแท้ ช่วงร้อยเมตรแรกรถหมายเลข 21 นำอยู่และดูจะไปได้สวย แต่เหมือนโชคไม่เข้าข้าง และช่วงกระโดดลงเนินที่รุนแรง ทำให้รถหมายเลข 21 ถึงกับโช้กด้านขวามีปัญหา ท่อไอเสียหลุดออกจากตัวรถ ทำให้เร่งความเร็วไม่ขึ้นต้องขับประคองรถเพื่อให้ได้จบการแข่งขันให้ได้ก่อน ส่งผลให้รถหมายเลข 33 ได้จังหวะเร่งแซงขึ้นไปชนิดไม่เหลียวหลัง และเข้าเส้นชัยไปรับแชมป์ประจำสนามไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับคู่ลุ้นอันดับที่ 3 และ 4 ในรุ่นนี้ ระหว่างรถหมายเลข 95 จากทีม PTT Performa Team ลามิน่า เปี๊ยกจังเกิ้ล นิราศสุรา ติมนม ดู๋ดี๋ออฟโรด ขับโดย นิรุตติ ลี้ปฐมากุล และ สินชัย ไข่ติยากุล ลงชิงกับรถหมายเลข 8 จากทีมจิวเล็กแรนซ์ ป๋าเอฟคนมีหนาม โรงสีพงศ์อายุกูล ขับโดย สมโภช ยวดยิ่ง และ มงคล เพียรดี ทั้งคู่เรียกว่าเสือมาเจอสิงห์ ที่ต่างยอมรับว่าสนามนี้เป็นสนามที่โหดที่สุดในรอบปี เพราะในรอบคัดเลือกมีหลายๆ คู่ที่ตะแคงพลิกคว่ำไปหลายคัน ในคู่นี้ก็มีเกือบหงายโชว์ช่วงล่างอีกเช่นกัน โดยเริ่มสตาร์ทรถหมายเลข 8 แม้จะเป็นต่อ แต่ก็ต้านความแรงของรถหมายเลข 95 ไม่ได้ เพราะเมื่อเข้าสู่รอบที่ 2 และช่วงข้ามสะพานนั้น ด้วยความเร็วรถทำให้เกือบพลาดตกสะพานไป แต่พอเบรกได้ทันก็รีบส่งแรงตามรถหมายเลข 8 ไปติดๆ จนแซงได้ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ทำให้รถหมายเลข 95 ซิวอันดับที่ 3 ไปอย่างเฉียดฉิว รุ่น Open A มาถึงรุ่นหยุดโลกในสนามสุดท้ายของปี คู่ชิงชนะเลิศระหว่างรถหมายเลข 52 และรถหมายเลข 77 ซึ่งว่าที่แชมป์ประเทศไทยเป็นของ ชัยรัช คำพึ่ง และ อนุวัฒน์ สวยกลาง อย่างแน่นอน ซึ่งเช่นเคย เพื่อศักดิ์ศรีและขอตำแหน่ง Double Champ อีกคัน จึงทำให้รถหมายเลข 52 เตรียมพร้อมมาชนิดเกินร้อย ในขณะที่รถหมายเลข 77 ก็ไม่ขอรามือ สู้ยิบตา แต่แชมป์ก็ส่อแววชัดเจนขึ้นเมื่อชัยรัช คำพึ่ง เริ่มโชว์สเตปขั้นเทพในการขับรถรุ่นหยุดโลกหยุดคนดูให้หมายเลข 77 ไดชมเพลินๆ ในสนาม ในขณะที่ยังขับไล่หลังไปทั้ง 2 รอบสนามโดยไม่สามารถแซงขึ้นไปได้ ในที่สุดรถหมายเลข 52 ของชัยรัช คำพึ่ง ก็รับตำแหน่ง Double Champ อีกหนึ่งคันสำหรับสนามสุพรรณบุรี และมาถึงรอบชิงอันดับที่ 3 และ 4 ระหว่างรถหมายเลข 46 กับรถหมายเลข 54 เป็นอีกคู่หนึ่งที่มาจากทีมเดียวกันและต้องมาเชือดเฉือนกัน โดยหลังจากออกสตาร์ท รถหมายเลข 46 ขึ้นนำไปก่อน ส่วนหมายเลข 54 ก็ตามมาติดๆ ผลัดกันแซงสลับไปมาอยู่ตลอด 2 รอบสนาม จนกระทั่งคู่คี่กันมาตลอด 8 โค้งสุดโหด และร่องสนามที่ลึกทำให้ขับยาก ทว่าโค้งสุดท้ายหมายเลข 46 พลาดท่าขับเปิดโค้งลึกไปนิดเดียวทำให้รถหมายเลข 54 แซงปาดขึ้นไปได้ แต่ในที่สุด 46 ก็กลับมาทวงตำแหน่งผู้นำคืนในช่วงเข้าเส้นชัยกดหยุดเวลาได้ก่อน ทำให้ได้ลำดับที่ 3 ไป และตามด้วยรถหมายเลข 54 ได้ลำดับที่ 4 สรุปผลการแข่งขันแชมป์ OFF ROAD TROPHY 2014 ประจำสนามที่ 5 จังหวัดสุพรรณบุรี ทั้ง 4 รุ่น ผลการแข่งขันรุ่น OPEN A (โอเพ่น เอ) อันดับ 1 รถหมายเลข 52 ทีม Polaris PTT 44 Sunclean Punghumvee Sriracha Offroad ผู้ขับ/ผู้นำทาง ชัยรัช คำพึ่ง / อนุวัฒน์ สวยกลาง อันดับ 2 รถหมายเลข 77 ทีม จิวเล็กเขาวงกาฬสินธุ์ คนมีหนาม โรงสีพงศ์อายุกูล ผู้ขับ/ผู้นำทาง ฤทธิชัย ธวัชชัยไพศาล / โชคทวี อัยวรรณ อันดับ 3 รถหมายเลข 46 ทีม PTT Performa Team ผู้ขับ/ผู้นำทาง อภิเดช ชูประดิษฐ์ / สิทธิพร ชูมณี ผลการแข่งขัน รุ่น OPEN B (โอเพ่น บี) อันดับ 1 รถหมายเลข 33 ทีม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซุ้มบังไพร คนมีหนาม คิงออฟโรด วันเพ็ญการสุรา โรงสีพงศ์อายุกูล ปราโมทย์คาออดิโอ จิวเล็กแรนซ์ บราย 4x4 Accessories เปี๊ยกจังเกิ้ล ผู้ขับ/ผู้นำทาง กิรศักดิ์ แสงอินทร์ / ภานุพงษ์ แสงอินทร์ อันดับ 2 รถหมายเลข 21 ทีม กำแพงเพชรลาภมหาศาล โคนิค ATV ไฮวินซ์ ผู้ขับ/ผู้นำทาง สุธารักษ์ พิณเมืองทอง / ชานนท์ แช่มโชติ อันดับ 3 รถหมายเลข 95 ทีม PTT Performa Team ลามิน่า เปี๊ยกจังเกิ้ล นิราศสุรา ติมนม ดู๋ดี๋ออฟโรด ผู้ขับ/ผู้นำทาง นิรุตติ ลี้ปฐมากุล / สินชัย ไข่ติยากุล ผลการแข่งขัน รุ่นคานแข็ง อันดับ 1 รถหมายเลข 1 ทีม PTT Performa Team ผู้ขับ/ผู้นำทาง ปณชัย อยู่หมื่นไวย / เกียรงศักดิ์ ดีหมื่นไวย อันดับ 2 รถหมายเลข 22 ทีม จิ้มจิ๊อุบล ชาชักป๋านม อู่ช่างมีเซอร์วิส ผู้ขับ/ผู้นำทาง ปริญญา โพธิ์ศรี / ณัฐวุฒิ ภูมิศักดิ์ อันดับ 3 รถหมายเลข 37 ทีม ประจวบเซอร์วิส ออฟโรดตรัง By อ่าวนางออฟโรด ตรังเอ็นจิเนียริ่ง อมาด้า ผู้ขับ/ผู้นำทาง นราวุฒิ เพชรแก้ว / พงศ์พัฒน์ ขวัญนิมิตร ผลการแข่งขันรุ่นปีกนก อันดับ 1 รถหมายเลข 7 ทีม ยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณบุรี By ข้าวหมกไก่สยาม รวมเพื่อนออฟโรด ผู้ขับ/ผู้นำทาง รติ มหิพันธ์ / สันติชัย สำราญมาก อันดับ 2 รถหมายเลข 57 ทีม ยุทธหัตถี อีซูซุสุพรรณ By สุพรรณแอร์ยางยนต์ ผู้ขับ/ผู้นำทาง ธงชัย กลิ่นเกตุ / ชาญเดช โรจนพาณิชย์วงศ์ อันดับ 3 รถหมายเลข 32 ทีม PTT Performa Team ลามิน่า เปี๊ยกจังเกิ้ล นิราศสุรา ติมนม ดู๋ดี๋ออฟโรด ผู้ขับ/ผู้นำทาง อดิเรก มุลิ / อภากร ดีหมั่น สรุปรายชื่อแชมป์ประเทศไทย OFF ROAD TROPHY 2014 ทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ แชมป์ประเทศไทยรุ่น OPEN A ทีม Polaris PTT 4x4 Sunclean Punghumvee Srirach Offroad ผู้ขับ/ผู้นำทาง ชัยรัช คำพึ่ง / อนุวัฒน์ สวยกลาง แชมป์ประเทศไทยรุ่น OPEN B ทีม กำแพงเพชรลาภมหาศาล โคนิค ATV ไฮวินซ์ ผู้ขับ/ผู้นำทาง สุธารักษ์ พิณเมืองทอง / ชานนท์ แช่มโชติ แชมป์ประเทศไทยรุ่น ปีกนก ทีม โปรเฟนเดอร์ ไฮวินซ์ ARB อู่ทรงไทย VVP 4x4 4Street รัตนฟาร์มปลาคาฟ ผู้ขับ/ผู้นำทาง อัฎฐ์ยุต มัจฉาปรีดาภัทร์ / นฤนาท แสงอินทร์ แชมป์ประเทศไทยรุ่น คานแข็ง ทีม PTT Performa Team ผู้ขับ/ผู้นำทาง ปณชัย อยู่หมื่นไวย / เกรียงศักดิ์ ดีหมื่นไวย
