“นอกจากนี้ เรายังได้เผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ด้วยคอนเซ็ปต์เปิดตัวที่แตกต่างไปจากทุกครั้ง ‘Change the way you lead. Lead the way you change.’ ซึ่งครั้งนี้เราต้องการเน้นย้ำถึงการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เหนือกว่าเพียงแค่ด้านยนตรกรรม เพื่อให้ผู้ขับขี่บีเอ็มดับเบิลยูได้สัมผัสโลกที่มีความสมดุลของการใช้ชีวิตในหลากหลายด้าน ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมายในโลกปัจจุบัน การเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ในครั้งนี้จึงไม่ได้เพียงเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์อันยาวนานของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 เท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวแห่งการเริ่มต้นปีอันน่าตื่นเต้นของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย โดยถึงแม้เราอาจต้องเผชิญกับอีกปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ผมมั่นใจว่าบีเอ็มดับเบิลยูจะยังคงมอบสุนทรียภาพแห่งการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงพลังแห่งทางเลือกให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป”
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ยังมาพร้อมการควบคุมที่เฉียบคมและโฉบเฉี่ยวเช่นเดียวกันรุ่นก่อนหน้า ฐานล้อที่ยาวและกว้าง รวมทั้งการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา และการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ช่วงล่างมาพร้อมเพลาหน้าแบบปีกนกคู่และเพลาหลังแบบ five-link จึงขับขี่ได้อย่างนุ่มสบายทั้งในชีวิตประจำวันและขณะเดินทางไกล รวมถึงในการขับขี่ที่ต้องใช้ความคล่องตัวสูง นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ยังพกพาระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) ที่มีระยะกว้างกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่งล้อหลังมาช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังช่วยเสริมความคล่องตัวขณะเข้าจอด โดยบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive ขณะที่รุ่น 520d M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ M Sport
เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ ได้รับการยกระดับให้ล้ำสมัยยิ่งกว่าที่เคย เพื่อช่วยเหลือการขับขี่ในสภาวะที่หลากหลาย พร้อมปูทางสู่เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในสภาวะต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Active cruise control with Stop & Go function) ในบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport และระบบควบคุุมความเร็วคงที่่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function) ในบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e Elite รวมถึงระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่่ (Attentiveness Assistant) ในทั้งสามรุ่น นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยอีกมากมายในทุกรุ่นเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ เช่น เซนเซอร์ควบคุุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) ระบบ Active Protection และเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control) และสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ยังมาพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) และระบบช่วยนำรถเข้าที่่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) เพื่อยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายโดยเฉพาะขณะถอยจอดและจอดขนาน
อีกหนึ่งความโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ คือการออกแบบภายในห้องโดยสาร ที่ยังคงเน้นการผสานทั้งความสง่างามและความล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน โดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นสำคัญ จึงสร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบทั้งสำหรับการขับขี่และมอบความสะดวกสบายแม้ขณะเดินทางไกล ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียมและงานฝีมือสุดประณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ ปุ่มบริเวณคอนโซลกลางมาในสีดำเงาเพื่อความหรูหรา ตัดกับพวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชั่น M Sport พร้อมคอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ในรุ่น 520d M Sport และ 530e M Sport ทั้งสามรุ่นมาพร้อมเบาะหนังแท้ Dakota ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e M Sport ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมี่่ยม ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู 530e Elite ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาพร้อมแถบโครเมียม
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาในด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสารให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด BMW Operating System 7 ที่ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมระบบปลดล็อกประตููอัจฉริยะ (Comfort Access System) ที่รองรับ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจรถ สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication) โดยรองรับผู้ใช้ได้สูงสุดถึง 5 คน นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกควบคุมระบบการทำงานของรถยนต์ ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร ระบบการเชื่อมต่อ และระบบนำทางได้ผ่านทางจอ Control Display ระบบสัมผัส ระบบ iDrive ปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัย ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant และ BMW gesture control
ผู้สนใจสามารถครอบครองบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport ได้ในราคา 3,539,000 บาท บีเอ็มดับเบิลยู 530e Elite ในราคา 2,999,000 บาท และบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ในราคา 3,739,000 บาท โดยทั้งสามรุ่นมาพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ซึ่งครอบคลุมการบำรุงรักษา 3 ปี / 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง ทั้งสามรุ่นยังมีให้เลือกใน 5 สี ได้แก่ Alpine White, Black Sapphire metallic, Bluestone metallic และ Phytonic Blue รวมทั้งสี Bernina Grey Amber effect สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e M Sport